ชุดสืบสวนนครบาลตามล็อก “แอมมี่” ที่ห้องเช่าใน จ.พระนครศรีอยุธยา นำไปควบคุมรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ส่งทีมพนักงานสอบสวนสอบปากคำถึง รพ. ตำรวจยันหลักฐานชัดเจนพร้อมผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 คน ยื่นศาลฝากขังโดยไม่ได้นำตัวไปศาล พร้อมค้านประกันตัว แม่ยื่น 9 หมื่น ประกันแต่ศาลยกคำร้อง แพทย์ชี้อาการไม่หนัก เตรียมส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯวันที่ 4 มี.ค. “บิ๊กปั๊ด” ออกบทเรียนเตรียมรับม็อบ 6 มี.ค. ลดอายุ อคฝ.เหลือไม่เกิน 45 ปี พท.เผยหาทางช่วย แต่เป็นประเด็นละเอียดอ่อน ต้องรอบคอบ “ก้าวไกล” อยากให้รัฐบาลมองเป็นความขัดแย้งทางความคิด

กรณีสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของม็อบมวลชนหลายกลุ่ม ล่าสุดกลุ่มเยาวชนปลดแอก และแนวร่วมรีเดม “REDEM” (Restart Democracy) นัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดินขบวนไปยังบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม บริเวณกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว (ร.1 ทม.รอ.) จนเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ยังออกหมายจับนายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลพันธุ์ คดีวางเพลิงเผาหน้าเรือนจำคลองเปรม แต่เบื้องต้นผู้ต้องหาหลบหนี ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวอย่างเร่งด่วนตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ตามล็อก “แอมมี่” ที่อยุธยา

ความคืบหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 มี.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. แถลงข่าวการติดตามจับกุมนายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลพันธุ์ ว่า ตำรวจตามจับกุมนายไชยอมรได้ที่บ้านเช่าใน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 01.00 น. ขณะเข้าจับกุมพบว่า ผู้ต้องหามีอาการบาดเจ็บอักเสบบริเวณไหล่ซ้ายและเชิงกรานซ้าย นำตัวส่ง รพ.ราชธานี จ.พระนครศรีอยุธยา รักษาเบื้องต้น จากนั้นนำตัวมาควบคุมที่ รพ.ตำรวจ ผู้ต้องหาบาดเจ็บก่อนถูกจับกุม ยังไม่ได้ให้การรับสารภาพ และยังไม่ได้สอบปากคำ เบื้องต้นมีความผิดข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และพิจารณาในความผิด ม.112 ตามที่มีข่าวว่าจับกุมที่ รพ.พระรามเก้า ไม่เป็นความจริง

...

มีพยานบุคคลและวิทยาศาสตร์

ถามว่า มีพยานหลักฐานชัดเจนหรือไม่ว่า แอมมี่เป็นคนลงมือก่อเหตุ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ตอบว่า ศาลอาญาท่านอนุมัติออกหมายจับต้องมีพยานหลักฐาน ก่อนออกหมายจับศาลได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน รายละเอียดอยู่ในสำนวน ยืนยันว่านายไชยอมรเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ส่วนมีหลักฐานอะไรที่ชี้ชัดว่าเป็นผู้ก่อเหตุ มีทั้งพยานบุคคล พยานนิติวิทยาศาสตร์หลายอย่าง อีกทั้งไม่ได้มีแค่ภาพวงจรปิดเพียงอย่างเดียว เราคงไม่สามารถพูดรายละเอียดได้ว่ามีพยานหลักฐานอะไรในสำนวนบ้าง ยืนยันว่านายไชยอมรเป็นคนร้ายและมีกลุ่มคนร้ายร่วมก่อเหตุด้วยไม่น้อยกว่า 1 คน

จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่เรือนจำ

ถามว่า ในโซเชียลมีเดียมีการนำภาพมาเปรียบเทียบว่า จุดเกิดเหตุอยู่ข้างในเรือนจำ บุคคลภายนอกเข้าไปไม่ได้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า ที่เกิดเหตุอยู่หน้าเรือนจำนอกรั้ว คนทั่วไปสามารถเดินเข้าไปได้ แต่ยังเป็นพื้นที่ของเรือนจำ ส่วนผู้ร่วมกระทำผิดอยู่ระหว่างดำเนินการ ที่จริงแล้วเราตั้งใจว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดทีเดียว แต่พอมีข่าวปรากฏมีความจำเป็นต้องขออนุมัติหมายจับนายไชยอมรเพียงคนเดียวก่อน ถามว่ายังมีผู้ที่ร่วมก่อเหตุเป็นดาราและผู้สั่งการอีกหรือไม่ ผบช.น.กล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าถึงก็ดำเนินคดี ขณะนี้ยังไม่ได้จับกุมตัวใครและยังไม่ได้ขอออกหมายจับใครเพิ่มเติม ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการ

ตำรวจพร้อมรับม็อบวันที่ 6 มี.ค.

ส่วนการเตรียมความพร้อมดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมการนัดชุมนุมวันที่ 6 มี.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า ตำรวจติดตามการข่าวอยู่ การชุมนุมอยู่ที่ผู้ชุมนุมเป็นหลัก ตำรวจอยู่ในกรอบ ส่วนจะจำเป็นต้องใช้กำแพงเหล็กหรือไม่ ดูตามการข่าว ถ้ามีผู้ชุมนุมมากและการข่าวว่าจะเกิดความรุนแรง อาจมีเครื่องป้องกัน ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้เครื่องป้องกัน หรือใช้อำนาจเปลี่ยนเส้นทางการจราจรตำรวจจะแจ้งให้ทราบ ตอนนี้อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์

“บิ๊กปั๊ด” สั่งถอดบทเรียน 28 ก.พ.

ที่ บช.น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการนัดชุมนุมของกลุ่มทางการเมืองในวันที่ 6 มี.ค. ว่า ร่วมประชุมที่ บช.น. เพื่อทบทวนและถอดบทเรียนจากการชุมนุมที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีลักษณะกระจายตัว ทำให้ต้องปรับแผนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือวันที่ 6 มี.ค. ผู้ชุมนุมบางกลุ่มยังไม่มีข้อสรุป ตำรวจอยู่ระหว่างประเมิน ตามสถานการณ์ ส่วนมาตรการรับมือหากกลุ่มผู้ชุมนุม ก่อเหตุเผาทำลายสถานที่สำคัญ ทำลายทรัพย์สินส่วนราชการ หรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ อย่างกรณีปัสสาวะรด จะดำเนินคดีทุกราย ยืนยันว่า การจับกุมดำเนินคดีไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา

ลดอายุ ตร.อคฝ.เหลือไม่เกิน 45 ปี

ถามว่า ผู้ชุมนุมตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจจะไม่ให้ ประกันเหมือน 4 แกนนำ พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า พูดแบบนั้นไม่ได้ การให้ประกันไม่ใช่อำนาจตำรวจ เป็นอำนาจศาล ในชั้นสอบสวนไม่ให้ประกันอยู่แล้ว เว้นแต่ว่าเป็นกรณีอัตราโทษต่ำ มีหมายเรียกมาแล้วต้องรับตัวไว้ ส่วนการจับกุมนายไชยอมร หรือแอมมี่ เป็นไปตามขั้นตอน ตำรวจมีหลักฐานชัดเจน ส่วนกรณี ตำรวจเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ สั่งการให้ปรับมาตรการ คัดกรองโรคกลุ่มเสี่ยงผู้มาทำหน้าที่ควบคุมฝูงชนจากเดิมอายุ 50 ปีขึ้นไป ลดเป็น 45 ปีขึ้นไป พร้อมทั้ง กำชับผู้บังคับบัญชาเข้มงวดเรื่องการตรวจสุขภาพลูกน้อง

...

พนักงานสอบสวนลุยสอบถึง รพ.

ที่ สน.ประชาชื่น เวลา 12.00 น. พ.ต.อ.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รอง ผบก.น.2 เผยว่า เวลา 13.00 น. จะจัดชุดพนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำนายไชยอมรที่ รพ.ตำรวจ โดยไม่เบิกตัวมาที่ สน.ประชาชื่น เพราะเจ้าตัวใช้สิทธิ์ผู้ป่วย ส่วนต้องเรียกสอบปากคำ พยานที่เห็นเหตุการณ์รายอื่นๆหรือไม่ กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วจะเรียกมาสอบปากคำภายหลัง ต่อมาทีมพนักงานสอบสวนเดินทางไปที่ห้อง 5/1 ชั้น 5 หอผู้ป่วยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร.9 รพ.ตร. ที่ใช้ควบคุมตัวนายแอมมี่ บริเวณหน้าห้องพบพ่อแม่เดินทางมาเยี่ยม แต่แพทย์ชี้แจงว่า ขณะนี้ของดเยี่ยมคนไข้ทุกกรณี เนื่องจากสถานการณ์โควิด แม่แอมมี่เผยว่า เดินทางมาเยี่ยมลูก แต่พยาบาลบอกว่า งดเยี่ยม ขณะนี้ยังไม่เจอน้อง ส่วนข้างในเห็นมีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่รู้ว่าเป็นพนักงานสอบสวนหรือเปล่า หลังสอบสวนผู้ต้องหามีรายงานว่า ตำรวจปรึกษาแพทย์แล้วแอมมี่อาการไม่น่าเป็นห่วง ตำรวจจะนำตัวส่งควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครในวันที่ 4 มี.ค.นี้

ตร.ยื่นฝากขังค้านประกันตัว

ที่ศาลอาญาเย็นวันเดียวกัน พ.ต.ต.หัสนัย เฟื่องสังข์ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ยื่นคำร้อง ฝากขังนายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ อายุ 33 ปี หรือ แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ แนวร่วมกลุ่มราษฎร อยู่เลขที่ 55/255 ม.4 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเป็นครั้งแรกโดยไม่นำตัวมาศาล ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. เวลา ประมาณ 03.20 น. ตำรวจ สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุ เพลิงไหม้หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ตรวจสอบพบ คนร้ายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว ทะเบียน ฎจ 1852 กรุงเทพมหานคร ขับมาก่อเหตุ คนร้ายเป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน ต่อมา พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายไชยอมร ตามหมายจับศาลอาญาที่ 429/2564 ลงวันที่ 3 มี.ค.2564 กล่าวหาว่า กระทำความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ร่วมกันวางเพลิง เผาทรัพย์ของผู้อื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับ การก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

...

แม่ยื่นประกันศาลไม่อนุญาต

ต่อมาสืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปตามเส้นทางถนนรังสิต-นครนายก จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.40 น. วันที่ 3 มี.ค. ตำรวจรับแจ้งเบาะแสว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปพักอยู่บริเวณห้องเช่าไม่ทราบเลขที่ (ห้องเช่า A2) ม.3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบพบนายไชยอมร แสดงหมายจับแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายส่งพนักงานสอบสวน ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ เนื่องจากบาดเจ็บหัวไหล่ซ้ายและซี่โครงซ้าย ไม่สามารถพาตัวมาศาลได้ จึงยื่นคำร้องขอฝากขัง โดยขอรับตัวไว้ในความควบคุมของพนักงานสอบสวนที่ รพ.ตำรวจ หากผู้ต้องหาอาการดีขึ้นจะนำตัวผู้ต้องหามาส่งคืนศาลทันที ท้ายคำร้องระบุด้วยว่า หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้าน เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี ยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดี ประกอบกับผู้ต้องหามีพฤติการณ์เข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองซึ่งอาจนำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมือง ต่อมา มารดานายแอมมี่ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราววงเงิน 9 หมื่นบาท ศาลพิจารณาเห็นว่าพนักงานสอบสวนยืนยันว่าผู้ต้องหาหลบหนี ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ต่อมาออกหมายขัง

ศาลนัดคู่ความคดีม็อบยูเอ็น

ก่อนหน้านี้ที่ศาลอาญา ศาลนัดพร้อมคู่ความคดีแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง หรือชุด UN62 หมายเลขดำ อ.1308/2562 อัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว กับพวกแกนนำและแนวร่วมกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเป็นจำเลย 18 คน ความผิดฐานยุยงปลุกปั่นฯ ตาม ม.116 ฝ่าฝืน พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 กรณีร่วมกันชุมนุมระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค.61 เพื่อเรียกร้องการเลือกตั้ง ต่อต้าน คสช.ที่หน้า ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และหน้าองค์การสหประชาชาติ จำเลยประกอบด้วย 1.นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว 2.น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ 3.นายเอกชัย หงส์กังวาน 4.นายอานนท์ นำภา 5.นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ 6.น.ส.ศรีไพร นนทรีย์ 7.นายวันเฉลิม กุนเสน 8.นายธนวัฒน์ พรมจักร 9.นายประจิณ ฐานังกรณ์ 10.นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ 11.นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ 12.น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด 13.นายนิกร วิทยาพันธุ์ 14.นายวิเศษณ์ สังขวิศิษฏ์ 15.นายพุทไธสิงห์ พิมพ์จันทร์ 16.นายคีรี ขันทอง 17.นายประสงค์ วางวัน และ 18.นายภัทรพล จันทรโคตร

...

เบิกตัว “อานนท์” มาศาลด้วย

นัดนี้พวกจำเลยพร้อมทนายเดินทางมาศาล และเบิกตัวนายอานนท์ จำเลยที่ 4 และเป็นทนายความ ที่ถูกคุมขังไม่ได้ประกันตัวคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯมาศาล ส่วนนายสิรวิชญ์ จำเลยที่ 1 ไม่ได้เดินทางมาศาล เนื่องจากไปศึกษาต่อต่างประเทศ ขอพิจารณาคดีลับหลัง ก่อนการพิจารณาคดี นายเอกชัยเผยกรณีนายแอมมี่ถูกจับกุมว่า เป็นห่วงแอมมี่ ถ้าเจ้าหน้าที่ส่งฝากขังต้องมาที่ศาลอาญา แต่เห็นว่าตำรวจอายัดตัวไว้ ตนไม่แน่ใจว่าเป็นการป้ายสีเพราะแอมมี่เป็นแกนนำหรือเปล่า ส่วนตัวไม่ได้รู้จักแอมมี่ แต่เท่าที่ดู พฤติกรรมช่วงสาดสีที่หน้าสถานีตำรวจ อาจแอ็กชันแรง ไม่คิดว่าจะถึงขั้นก่อเหตุเผาทรัพย์สิน

“โบว์” อย่าขยายความแตกแยก

ด้าน น.ส.ณัฏฐาเผยว่า ไม่อยากให้ฝ่ายใดนำประเด็นนี้มาฉวยโอกาส ขยายความสร้างความแตกแยกกว่าเดิม อยากให้ทุกคนตรงไปตรงมา วันนี้ทุกคนเจ็บมากพอแล้ว เมื่อถามกรณีแอมมี่โดน ม.112 เหมาะสมหรือไม่ น.ส.ณัฎฐากล่าวว่า ข้อหาวางเพลิงโทษหนักและร้ายแรงกว่า ประเด็นข้อกฎหมาย ม.112 ที่อยากให้เป็นสากล ต้องหาทางพูดคุยปรับปรุงกันต่อไป ไม่ว่าจะเป็นข้อหา ม.112 หรือ ม.116 ถ้าเราอยากสร้างความเปลี่ยนแปลง ต้องช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดี พูดคุยกันรู้เรื่อง เมื่อช่วงเช้าตนฟังข่าวเห็นว่า มีบางคนเริ่มขยายความเกลียดชัง ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากนั้นฝ่ายโจทก์และจำเลยร่วมกันกำหนดวันนัดที่ว่างตรงกัน เพื่อเสนอศาลพิจารณาคดีต่อเนื่อง

นายกฯห่วงอยากให้สงบเร็ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ส่วนหนึ่งห่วงใยสถานการณ์ของเรา อยากให้ทุกอย่างสงบโดยเร็ว เราจำเป็นต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน และต้องเข้าใจถึงมาตรการต่างๆของรัฐ เจ้าหน้าที่และกฎหมายที่มีอยู่ ถ้าเราไม่เคารพกฎหมายมันอยู่กันไม่ได้ ทุกประเทศเป็นแบบนี้ ในส่วนของประเทศที่เป็นประชาธิปไตยของเราอาจเป็นแบบตะวันตก เราจึงต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะประชาชนของเรามีความผูกพัน และใกล้ชิดซึ่งกันและกันกับประเทศรอบบ้าน แต่ในส่วนอื่นเป็นเรื่องการบริการที่เราต้องส่งเสริมให้กลับไปสู่สถานการณ์ปกติได้โดยเร็ว เป็นห่วงเท่านั้นเอง

พท.ดูข้อกล่าวหาก่อนหาทางช่วย

ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เผยกรณีนายไชยอมรถูกจับ พรรคฝ่ายค้านจะช่วยเหลือหรือยื่นประกันตัวหรือไม่ว่าเท่าที่ทราบข่าวล่าสุด ยังไม่ยืนยันว่าควบคุมตัวหรือยัง ตำรวจยังไม่แถลงข่าวการจับกุม หากมีการจับกุมที่ชัดเจนคงต้องหารือเพื่อช่วยเหลือทางใดทางหนึ่ง ต้องดูข้อกล่าวหาและประเด็นต่างๆเพราะจากการติดตามข่าวคือมีเหตุเพลิงไหม้ และลุกลามไปถึงพระบรมฉายาลักษณ์เรื่องนี้เป็นประเด็นละเอียดอ่อน เราจะพิจารณาอย่างรอบคอบ

กก.ชี้ความขัดแย้งทางความคิด

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นกล่าวหา ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่านายไชยอมรทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ในอดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล เข้าไปมีบทบาทช่วยประกันตัวทำฐานะประกันสิทธิในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้โอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ส่วนจะถูกหรือผิดว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม เรามีจุดยืนว่า ควรเคารพสิทธิในกระบวนการยุติธรรมทุกฝ่าย ให้สันนิษฐานว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด เรื่องนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัญหาความขัดแย้งทางความคิดไปแล้ว เราอยากให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจคิดประเด็นการชุมนุม การแสดงออกทางการเมือง เป็นความขัดแย้งทางความคิด เมื่อเป็นความคิดเห็นต่างทางการเมืองควรใช้กระบวนการทางการเมืองแก้ปัญหา หากใช้กฎหมายปราบปรามเข้มงวดมองเหมือนปัญหาการก่ออาชญากรรม ก่อคดีอาญาปกติแต่เรื่องนี้เป็นปัญหาความขัดแย้งทางความคิด

เสวนา 7 ปีนิติรัฐถูกทำลาย

ที่ลาน 50 คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต คณะสังคมวิทยาฯ ร่วมกับศูนย์วิจัยดิเรก ชัยนาม คณะรัฐศาสตร์ มธ. จัดเสวนาถ้าการเมืองดีเราย่อมเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมายเป็นส่วนหนึ่งของชุดโครงการเสวนาวิชาการ ถ้าการเมืองดีมีผู้ร่วมเสวนา อาทิ รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า แม้ คสช.ไม่อยู่แล้ว แต่วิธีที่รัฐคุมประชาชนยังไม่ต่างจากเดิม นับแต่วันที่ 18 ก.ค.63 มีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก มีความเข้มข้นดำเนินคดีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ยังไม่มีการใช้ ม.112 จนกระทั่งวันที่ 7 ส.ค.63 คดีมากมายเหมือนพายุ คดีความที่ศูนย์ทนายฯรวบรวมข้อมูลไว้อย่างน้อย 223 คดี จาก 382 คน ในจำนวนนี้เป็นคดี ม.112 จำนวน 60 คน ม.116 จำนวน 92 คน ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 301 คน 118 คดี นี่คือสถานการณ์ที่ประเทศไทยไม่เคยเจอมาก่อน สิ่งที่เผชิญในเกือบ 7 ปีที่ผ่านมาคือ นิติรัฐถูกทำลาย เป็นการปกครองตามอำเภอใจ

“รุ้ง” อ่าน จ.ม.ให้กำลังใจ 4 แกนนำ

หลังงานเสวนาเวลา 11.20 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และแนวร่วมกลุ่มราษฎรทำกิจกรรมอ่านจดหมาย 112 ฉบับ ส่งกำลังใจให้ 4 แกนนำที่ถูกคุมขัง ก่อนเดินเท้าไปยังประตูใหญ่เรือนจำนำจดหมายทั้ง 112 ฉบับ ฝากเจ้าหน้าที่เรือนจำนำส่ง แต่เจ้าหน้าที่ให้มาส่งใหม่วันที่ 5 มี.ค. น.ส.ปนัสยากล่าวว่า เพื่อนๆ ทั้งหมดยังไม่ถูกศาลตัดสินว่าถูกหรือผิดไม่ควรถูกจำคุกถึง 24 วัน ไม่เป็นไปตามหลักสากล ตนจะเปิดรับจดหมายให้กำลังผ่านเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์อีกทางหนึ่ง ส่วนกรณี “แอมมี่” ถูกจับกุมเราไม่ปักใจเชื่อ ต้องเห็นหลักฐานก่อนถ้าทำจริงๆก็เป็นสิทธิ์ที่ทุกคนล้วนแสดงออกได้ไม่น่าเกี่ยวกับ ม.112 และอยากให้ยกเลิก ม.112 ออกมาเป็นโทษส่วนบุคคลแทน