ผวจ.กาญจนบุรี ออกคำสั่งปิดโรงแรม และรีสอร์ต รวมถึงสถานที่ที่มีลักษณะคล้ายกัน เพื่อป้องกันโควิด-19 แพร่ระบาด ตั้งแต่ 14 ม.ค.64 ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม มีโทษทั้งจำและปรับเงิน หรือทั้งจำทั้งปรับ

เมื่อวันที่ 14 ม.ค.64 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ออกคำสั่งเรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยคำสั่งมีใจความว่า

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ในประเทศไทย มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ขยายขอบเขตการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างกระจายไปในหลายพื้นที่ และมีการตรวจพบการแพร่ระบาดไปยังผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะสถานที่ที่มีการรวมกลุ่ม ของคนจำนวนมาก ประกอบกับจังหวัดกาญจนบุรีเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว จึงมีประชาชนและนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก

...

เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงมีคำสั่ง ดังนี้

1. ปิดโรงแรม และรีสอร์ต รวมถึงสถานที่ที่มีลักษณะคล้ายกัน ยกเว้น โรงแรม และรีสอร์ต ที่เปิดเป็นสำนักงานที่ช่วยเหลือผู้ถูกคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือสถานที่พักเพื่อกักกันไว้สังเกตอาการ (Local Quarantine) หรือใช้เพื่อประโยชน์อื่นใดในทางราชการในการแก้ไขปัญหาตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควร จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

สั่ง ณ วันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2564