ผู้สมัคร ส.อบจ.นครปฐม ยื่น กกต.สอบ "พเยาว์" ขาดคุณสมบัติสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.นครปฐม หลังพบพิรุธปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ยันไม่ได้กลั่นแกล้ง วอน กกต.เร่งสอบก่อนวันกาบัตร 20 ธ.ค.นี้ หวั่นผู้ถูกร้องเข้าป้าย อาจต้องเลือกตั้งใหม่ เสียงบประมาณ-กระทบงาน อบจ.

เมื่อวันที่วันที่ 3 ธ.ค.63 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จ.นครปฐม นายเกาศัลย์ แก้วยิ่งยงค์ ผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เขตเลือกตั้งที่ 2 อ.บางเลน จ.นครปฐม ในนามอิสระ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้อำนวยการเลือกตั้ง จ.นครปฐม เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ นายพเยาว์ เนียะแก้ว ผู้สมัครนายก อบจ.นครปฐม กลุ่มพลังแผ่นดิน เนื่องจากพบข้อมูลว่า นายพเยาว์ อาจมีพฤติกรรมไม่ได้ยื่นแสดงในรายการบัญชีทรัพย์สินหรือหนี้สิน ภายหลังจากพ้นตำแหน่งนายก อบจ.สมัยที่แล้ว อันเป็นการปกปิดข้อเท็จจริง และถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ซึ่งหากมีความผิดจะเป็นเหตุให้ นายพเยาว์ ขาดคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. และไม่สิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้

นายเกาศัลย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย.63 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศศาลเยาวชนและครอบครัว จ.นครปฐม ลงวันที่ 5 ก.พ.63 เรื่องศาลมีคำสั่งให้ นายไมตรี เนียะแก้ว เป็นคนไร้ความสามารถ อยู่ในความอนุบาลของ นายพเยาว์ เนียะแก้ว และทำนิติกรรมแทนคนไร้ความสามารถ โดยเป็นคดีที่ นายพเยาว์ เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุบาล นายไมตรี ซึ่งเป็นบุตรชาย โดยในคำสั่งได้ระบุให้โอนทรัพย์สินต่างๆของนายไมตรีให้แก่นายพเยาว์ รวมมูลค่ากว่า 34 ล้านบาทเศษ โดยศาลได้วินิจฉัยตามคำให้การของนายพเยาว์ว่า น่าเชื่อว่าทรัพย์สินหรือเงินในบัญชีธนาคารดังกล่าวของนายไมตรี เป็นของผู้ร้อง ซึ่งก็คือนายพเยาว์โอนเข้ามาให้ ทั้งนี้ นายพเยาว์ เคยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.นครปฐม ระหว่างปี 2543-2559 และเมื่อนายพเยาว์ พ้นจากตำแหน่งแล้วได้มีการนำเงินจำนวนดังกล่าวไปยื่นแสดงรายการบัญชีรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่

...

"หากปรากฏว่านายพเยาว์ ไม่ได้ยื่นแสดงในรายการบัญชีทรัพย์สินหรือหนี้สินอันเป็นการปกปิดข้อเท็จจริง และถือเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง และ พ.ร.ป.ป.ป.ช. ซึ่งมีความผิดอันจะเป็นเหตุให้ นายพเยาว์ เนียะแก้ว ขาดคุณสมบัติในลงรับสมัครเป็นนายก อบจ.ในครั้งนี้" นายเกาศัลย์ กล่าว

นายเกาศัลย์ กล่าวอีกว่า การยื่นเรื่องครั้งนี้ไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งหรือเตะสกัด นายพเยาว์ แต่อย่างใด ในทางกลับกันยังถือเป็นประโยชน์ต่อนายพเยาว์ ในการที่จะได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วยซ้ำ ทั้งนี้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า กกต.นครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะทำการสอบสวนเรื่องนี้แล้วเสร็จทันก่อนการเลือกตั้ง อบจ.ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้หรือไม่ แต่ก็หวังว่าจะสามารถสอบสวนให้เสร็จสิ้นให้เร็วที่สุด เพราะหาก นายพเยาว์ ชนะการเลือกตั้งได้เป็นนายก อบจ.ด้วยคะแนนสูงสุดขึ้นมา และพบว่ามีความผิดตามที่ตนร้อง จะเป็นเหตุให้ต้องสูญเสียเวลา และงบประมาณในการจัดเลือกตั้งใหม่ และภารกิจต่างๆ ของ อบจ.นครปฐม ที่เกี่ยวกับความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ก็อาจต้องล่าช้าตามไปด้วย ตลอดจนทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ส.อบจ.ทั้ง จ.นครปฐม เนื่องจาก นายพเยาว์ เป็นหัวหน้ากลุ่มที่มีการส่งผู้สมัคร ส.อบจ.ในทุกเขตของ จ.นครปฐม ด้วย

อัปเดตผลการเลือกตั้ง อบจ. 2563 พร้อมรายงานคะแนนสด ได้ที่ ไทยรัฐออนไลน์.