เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมกับผู้แทน UNODC และ ผบช.ปส. ขนกองทัพนักข่าวตรวจสอบห้องเก็บของกลาง ป.ป.ส.ภาค 1 อีกรอบ โชว์ระบบรักษาความปลอดภัย รวมทั้งขั้นตอนการขนของกลางจากโกดังจนถึงห้องเก็บของกลาง ยอมรับเป็นครั้งแรกที่พบสาร “ไตรโซเดียมฟอสเฟต” ตรวจสอบด้วยน้ำยาพิสูจน์สารเสพติดแล้วผลออกมาเป็นสีม่วงเช่นสารเสพติด เตรียมร่วม 4 หน่วยงาน ป.ป.ส. พิสูจน์หลักฐาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ร่วมตรวจสอบของกลางที่เหลือ

ยังจบไม่ลงปมสงสัยการหายไปของยาเคตามีนของกลาง 11.5 ตันที่ยึดมาจากโกดังร้างย่านบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หลังเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พาคณะสื่อมวลชนไปดูของกลางถึงห้องเก็บของกลางเพื่อยืนยันว่าของกลางยังอยู่ครบทั้ง 475 กระสอบ แต่ผลตรวจของกลาง 66 กระสอบ ซึ่งตอนแรกเป็นสีม่วง คาดว่าเป็นยาเคตามีน แต่พอส่งตรวจในห้องแล็บผลกลับออกมาว่าไม่ใช่สารเสพติด จนต้องนำสื่อมวลชนเข้าพิสูจน์ถึงห้องเก็บของกลาง ป.ป.ส.ภาค 1 เป็นครั้งที่สอง

โดยเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 พ.ย. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 1 หมู่ 3 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยนายเจเรมี่ ดั๊กลาส ผู้แทนสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญา-กรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. น.ส.กัญญนันทน์ คงภัสนิธิโรจน์ ผอ.สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ป.ป.ส. และนายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.ส่วนสกัดกั้นยาเสพติดท่าอากาศยานและท่าเรือ พาสื่อมวลชนเข้าชมระบบการรักษาของกลางที่คาดว่าเป็นยาเคตามีนที่ตรวจยึดได้ โดยมีระบบป้องกัน การสแกนนิ้วก่อนเข้าสำนักงาน มีกล้องวงจรปิดทั่วอาคาร และภายในห้องที่เก็บของกลางยังมีกล้องวงจรปิดบันทึกความเคลื่อนไหวในห้อง นอกจากนี้ กุญแจไขเข้าไปภายในห้องเก็บของกลางมีแค่ 2 ดอก โดยเจ้าหน้าที่2คนถือกันคนละดอก

...

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่าหลังจากที่ไต้หวันได้ตรวจยึดสารเสพติดที่ขนส่งมาจากประเทศไทยทั้งหมด 16 ตัน มียาเคตามีนปะปนมาจำนวน 300 กิโลกรัม และได้ส่งข้อมูลมายังประเทศไทย ทาง ป.ป.ส.ทำการสืบสวนจนทราบว่าเป็นโกดังแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงเข้าตรวจค้นและยึดสารที่คาดว่าเป็นสารเสพติดจำนวน 476 กระสอบ และทำการตรวจสอบด้วยน้ำยาพิสูจน์สารเสพติด ผลออกมาเป็นสีม่วง ทำให้เชื่อว่าเป็นสารเสพติดประเภทเคตามีน นำกลับมาเก็บไว้ที่สำนักงาน พร้อมกับนำสารตัวอย่างส่งตรวจในห้องแล็บ แต่ผลที่ออกมาไม่พบสารเสพติด แต่เป็นสาร “ไตรโซเดียมฟอสเฟต” ที่เอาไว้ใส่ในนมไม่ให้นมตกตะกอนสารชนิดนี้ไม่ถือว่าเป็นสารเสพติด และสามารถครอบครองได้

เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวต่อว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่เพิ่งจะทราบว่ามีสารชนิดนี้ที่ตรวจออกมาแล้วเป็นสีม่วงเช่นเดียวกับสารเสพติดตัวอื่น จึงจะร่วมกันทั้ง 4 หน่วยงาน มีทั้ง ป.ป.ส. พิสูจน์หลักฐาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ทำการตรวจสอบสารที่คาดว่าเป็นยาเคตามีนที่เหลือทั้งหมด เพราะอาจจะมีสารเคตามีนซุกซ่อนอยู่ โดยจะดำเนินการในวันจันทร์ที่ 23 พ.ย. แต่ถ้าไม่พบสารเสพติดก็ยังคงสามารถจับกุมผู้ที่ร่วมขบวนการได้เนื่องจากพบสารเสพติดที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งทางตำรวจสืบสวนจนทราบแล้วว่าผู้ที่ให้เช่าโกดังเก็บของนั้นคือใครจะต้องติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป ในส่วนที่มีข่าวออกมาว่ามีคนมีสีเกี่ยวโยงในเรื่องนี้ จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีส่วนพัวพัน ถ้าหากมีจริงนั้นทาง ป.ป.ส.พร้อมที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้

นายเจเรมี่กล่าวว่า ตนยินดีที่จะช่วยนำสารไปตรวจในแล็บของ UN ให้เพื่อยืนยันว่าเป็นเคตามีน หรือสารอื่น โดยชุดตรวจพิสูจน์เบื้องต้นในภาคสนาม เมื่อตรวจแล้วยังไงเราก็ต้องนำมาตรวจที่แล็บอย่างละเอียดอีกครั้ง เป็นขั้นตอนปกติ อย่างที่ไต้หวันได้ยึด 600 กว่ากระสอบ เจอเคตามีนแค่ 12 กระสอบ ส่วนไทยมี 400 กว่ากระสอบคงต้องตรวจอย่างละเอียดว่ามีเคตามีนเท่าไร ที่ผ่านมาผู้ลักลอบขนยาเสพติดจะมีการอำพรางไว้ในของอย่างอื่นหลายอย่าง ส่วนการใช้สารไตรโซเดียมฟอสเฟต ตนเพิ่งเคยพบครั้งนี้เป็นครั้งแรก จากการตรวจสอบเป็นสีม่วง ทำให้เชื่อว่าเป็นเคตามีน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการตรวจสารนี้มาก่อน

นายปฤณกล่าวว่า การขนย้ายของกลางทั้งหมด มีหน่วยที่ร่วมขนย้ายทั้งตำรวจ ป.ป.ส.ขนขึ้นรถมา 2 คัน ออกจากโกดังมาที่ ป.ป.ส.ภาค 1 เลยมีรถนำ รถปิดท้าย ออกจากโกดัง 17.00 น. ถึง ป.ป.ส.ภาค1 เวลา 20.00 น. และมี ผอ.ควบคุมการขนย้ายตลอดเวลา เสร็จเวลา 23.00 น. วันที่ 12 พ.ย.