ขนส่งฉะเชิงเทรา ตรวจสอบรถบัสคณะกฐิน 18 ศพ ผิด 3 กระทง ปรับ 150,000 บาท เช็ก GPS ตรวจสอบความเร็วสุดท้าย อยู่ที่ 44 กม./ชม. ไม่เกินกำหนด

จากกรณีอุบัติเหตุรถไฟ ชนรถบัส คณะกฐิน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 ต.ค. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก บริเวณจุดตัดทางข้ามรถไฟสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ต่อมา กรมการขนส่งทางบก โดยขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้น ตรวจสอบทราบว่า รถบัสโดยสารคันดังกล่าว บรรทุกผู้โดยสาร พนักงานบริษัท เพอร์เฟคโปรดักซ์ จำกัด จำนวน 57 ราย ออกจากจังหวัดสมุทรปราการเวลา 06.30 น. มุ่งหน้าไปทอดกฐิน ที่ฉะเชิงเทรา

มาถึงที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 08.05 น. ขณะกำลังขับผ่านจุดตัดทางข้ามรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้น พนักงานขับรถบัสโดยสาร เห็นรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 5102 กำลังแล่นมาด้วยความเร็ว จึงพยายามหยุดรถ แต่รถเกิดลื่นไถล พุ่งไปชนกับหัวขบวนรถไฟ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จำนวน 18 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ทั้งนี้ รถบัสคันดังกล่าว เป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง ทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา วันสิ้นอายุภาษี 30 กันยายน 2563 ตรวจสภาพครั้งสุดท้ายวันที่ 8 ตุลาคม 2562 โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นรถมีประกันภัยประเภท 3 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด สิ้นอายุวันที่ 30 กันยายน 2564 พนักงานขับรถ ชื่อนายบุญส่ง สวนยิ้ม ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มีใบอนุญาตขับรถทุกประเภทชนิดที่ 2 ออกโดย สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ วันอนุญาต 28 พฤศจิกายน 2539 วันสิ้นอายุ 26 ธันวาคม 2563 

ส่วนความเร็ว ตรวจสอบโดยระบบ GPS ครั้งสุดท้าย เวลา 08.05.27 น. ความเร็วอยู่ที่ 44 กม./ชม. และไม่พบความเร็วเกินกำหนด รวมถึงไม่พบชั่วโมงการทำงานเกินในวันที่ 11 ตุลาคม 2563

...

ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ เบื้องต้นรถที่เกิดเหตุมีประกันไว้ 2 ประเภท ประกัน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ และประกันภัยประเภท 3 บริษัท สินมั่นคง

อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ประกอบการ เบื้องต้นพบฐานความผิดดังนี้ 1. บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ตามมาตรา 32 (3), 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท 2. ใช้รถทำการขนส่ง โดยไม่ชำระภาษีประจำปีให้ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรา 71 (2), 148 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และ 3. ผู้ประกอบการขนส่งไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัย ตามมาตรา 36, 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ดำเนินการเรียกตัวผู้ประกอบการ มาสอบสวนต่อไป