พระพยอมยิ้มได้หลังญาติโยมแห่ให้กำลังใจ เล่าอีก ซื้อที่ดิน ได้โฉนดมาแล้วแต่ภายหลังถูกทายาทเจ้าของที่ดินเดิมฟ้อง ถูกยึดคืนกลายเป็นถุงกล้วยแขก บอกตอนนี้มีแต่คนชนะคดีมาบอกให้ย้ายออก ยังไม่เห็นมีหมายศาลมา
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 15 มิ.ย.63 ที่บริเวณลานธรรม วัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบพระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เผยถึงเรื่องราวข้อพิพาทที่ดินจำนวน 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา ที่ทางมูลนิธิวัดสวนแก้ว ซื้อมาจากนางวันทนา เมื่อปี 2547 ปีอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่กลับถูกญาติของเจ้าของที่ดินเดิมฟ้องร้องต่อศาลให้ทางมูลนิธิวัดสวนแก้วคืนที่ดินแปลงดังกล่าว อ้างว่าทางนางวันทนา ผู้ครอบครองที่ดินได้มาอย่างไม่ถูกต้อง
"เมื่อปี 2547 โยมวันทนา ได้นำที่ดินแปลงดังกล่าวที่อยู่หน้าวัดมาเสนอขายให้กับมูลนิธิวัดสวนแก้ว ในราคา 10 ล้าน ทางอาตมาก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบโฉนดที่ดินที่สำนักงานที่ดินอำเภอบางใหญ่ ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า มีการเอาไปจำนำ จำนอง หรือว่านำไปเข้าธนาคาร หรือเปล่า ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บางคนยังบอกว่าหลวงพ่อไม่น่าจะเป็นพระที่ขี้ระแวงเลย โฉนดมีตัวแดงแบบนี้ ออกจากกรมที่ดินทำไมจะซื้อขายไม่ได้ แหมโบราณบอกว่าไม่รู้ไม่ชี้นะดี แต่ไม่รู้ดันชี้ ทางมูลนิธิจึงได้ตัดสินใจซื้อหลังจากนั้นเราก็เข้าไปพัฒนาที่ดินตรงนั้น มีการถมที่ดินโดยใช้เวลา 2 ปี กับ 7 เดือน ไม่มีใครมาคัดค้าน"
...
พระพยอม กล่าวอีกว่า หลังเราทำเสร็จเรียบร้อยก็มีญาติๆ ของเจ้าของที่ดินเดิมเดินทางมาที่วัด มาบอกว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของเขา คนอื่นไม่มีสิทธิ์จะเอามาขายได้ ทางเราก็ได้มีการเจรจากับเขาว่าจะให้เพิ่มอีก 3 ล้าน จะกัดฟันเทศน์เพื่อนำเงินมาให้ แต่เขาบอกว่าขอ 15 ล้าน ทำไปทำมาที่ดินแปลงนี้กลายเป็นราคา 25 ล้าน เราก็บอกว่าไม่ไหวสู้ได้แค่ 5 ล้าน ซึ่งเขาบอกว่าเขาเสียเงินวิ่งเต้นเรื่องคดีเสียเงินไปประมาณ 10 ล้าน อาตมาก็เลยไม่เอา ก็มีการสู้กันในชั้นศาลจนกระทั่งศาลฎีกาตัดสินให้เราต้องคืนโฉนดที่ดิน
ทั้งนี้ ที่ตัดสินใจซื้อเพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่อยู่ติดริมถนน ตั้งใจจะทำเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าทางการเกษตร ซึ่งไม่ได้ขายสินค้าของวัดอย่างเดียวแต่จะให้ประชาชนทั่วไปนำสินค้ามาวางขายโดยทางเราไม่คิดค่าใช้จ่าย เพียงแต่ให้ช่วยค่าน้ำค่าไฟ แต่สุดท้ายความตั้งใจก็ล่มสลาย
พระพยอม กล่าวว่า หลังเกิดปัญหาช่วงนั้นอาตมาก็ตัดสินใจสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ เขียนข้อความที่มาที่ไปของเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมนำโฉนดดังกล่าวไปทำเป็นถุงกล้วยแขกขาย ตอนที่ทำครั้งนั้นขายดีมากผู้คนที่ทราบข่าวแห่มาซื้อกันที่วัดทำกันไม่ทัน ต้องตั้งกระทะทอดกล้วยแขกจำนวน 8 กระทะ ขายได้เงินมา 800,000 กว่าบาท และยังไปเอาไปทำกระเป๋าสะพาย ปรากฏว่าขายดีมาก ตอนนี้อาตมาปลงแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รับความเห็นใจจากเจ้าของที่ดิน แต่เราก็ได้กำลังใจจากญาติโยมที่โทรมาให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก
ในส่วนที่มีคนมาบอกกับศิษย์วัดให้ย้ายออกภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นั้น เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเอกการสารหรือหมายมาปิดแจ้งให้ย้ายออกจากที่ดิน ทาง อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ได้บอกกับอาตมาว่า ถ้ายังไม่มีหมายมาปิด ก็อย่าเพิ่งย้ายออก ตอนนี้มีเพียงทางทายาทเจ้าของที่มาบอกกับลูกศิษย์เท่านั้น แต่อาตมาก็ปลงแล้วกับที่ดินผืนนี้