บินมาจากอิเหนาเฝ้าระวัง 13วันไม่พบเชื้อใกล้กลับ สติแตกดิ่งหน้าต่างชั้น8
สุดสลด ผู้กักตัวเฝ้าระวังติดเชื้อโควิด-19 เครียดจัดกระโดดตึกดับสยอง เป็นหนุ่มใหญ่ชาวนราธิวาสกลับจากประกอบพิธีทางศาสนาที่อินโดนีเซียเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ถูกส่งมากักตัวกับกลุ่มที่มาด้วยกัน 5 คนที่สถาบันราชประชาสมาสัย พระประแดง แพทย์รักษาอาการไข้จนหายดี ตรวจไม่พบเชื้อโควิด เตรียมส่งกลับบ้านหลังกักตัวครบ 14 วัน กลางดึกก่อนกลับเพียงวันเดียวเกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาด เพื่อนร่วมห้องแจ้ง รปภ.มาช่วยสงบสติอารมณ์ แต่กลับวิ่งหนีไปกระโดดหน้าต่างชั้น 8 ลงมากระแทกกันสาดอาคารชั้น 2 ดับสยอง คาดเครียดจัดอาการทางประสาทกำเริบจนสติแตกควบคุมตัวเองไม่ได้
เหตุสลด ผู้กักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 คลุ้มคลั่งกระโดดตึกฆ่าตัวตายเปิดเผยเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 13 เม.ย. พ.ต.ต.บุญฤทธิ์ เชิญเชื้อ สว. (สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุคนตกจากที่สูงเสียชีวิตที่สถาบันราชประชาสมาสัย ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.บางหญ้าแพรก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นำกำลังตำรวจ พร้อมทีมแพทย์นิติเวช รพ.บางจาก และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูทีมเฉพาะกิจเผชิญภัยโควิด-19 สวมชุดป้องกันการติดเชื้อเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพนายอับดุลเลาะห์ มะ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 6 ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส กระโดดจากหน้าต่างชั้น 8 อาคารอาชีวเวชศาสตร์ เป็นอาคารผู้ป่วยสูง 8 ชั้น ลงมาเสียชีวิตอยู่ที่กันสาดชั้น 2 ของอาคารสำนักงานที่อยู่ติดกัน สภาพศพนุ่งกางเกงยีนตัวเดียวไม่สวมเสื้อ นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด กะโหลกศีรษะแตก แขนขาหัก
...
สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเดินทางกลับมาจากร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ในกลุ่มที่มาด้วยกันทั้งหมด 19 คน ถูกแยกไปกักตัว 14 วันเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.สมุทรปราการ 14 คน และมาที่สถาบันราชประชาสมาสัย 5 คนรวมทั้งผู้ตาย ส่วนใหญ่มีอาการไข้ แพทย์รักษาจนอาการดีขึ้นและตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ในร่างกาย เตรียมตัวจะให้กลับบ้านในวันที่ 13 เม.ย. และได้ติดต่อให้ญาติมารับกลับไปดูแลต่อที่บ้าน แต่มาเกิดเหตุสลดใจขึ้นก่อน
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายกระโดดลงมาเสียชีวิต นายอาจินต์ ชลพันธุ์ ผอ.สถาบันราชประชาสมาสัย เผยว่า สถาบันได้จัดห้องกักตัวทั้ง 5 คน ไว้ที่ชั้น8 ของอาคาร แบ่งเป็น 2 ห้อง ผู้ตายอยู่รวมกับเพื่อนอีก 2 คน ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทุกคนอยู่ร่วมด้วยกันดี ผู้ตายไม่มีท่าทีเครียดหรือออกอาการทางจิตเวชแต่อย่างใด สอบถามเพื่อนร่วมห้องทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายตื่นขึ้นมากลางดึก เดินไปหาเพื่อนร่วมห้องขอดูนาฬิกาว่ากี่โมงแล้ว จากนั้นผู้ตายได้ถอดนาฬิกาของเพื่อนปาลงพื้นแล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่งเอะอะโวยวาย เพื่อนร่วมห้องรีบวิ่งออกไปบอกพยาบาลหน้าห้องแจ้ง รปภ.มาระงับเหตุ รปภ.พยายามจะเข้าไปควบคุมตัวแต่ผู้ตายสะบัดดิ้นหลุดวิ่งออกมาจากห้องไปที่หน้าต่างใกล้บันไดแล้วกระโดดลงไปเสียชีวิตดังกล่าว
นายอาจินต์กล่าวต่อไปว่า จากการสอบถามญาติทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายมีอาการจิตเวชอ่อนๆ โดยที่ทางสถาบันไม่ทราบ เพิ่งทราบจากญาติหลังเกิดเหตุ คาดว่าผู้ตายเกิดความเครียดและอาการทางประสาทกำเริบจนคลุ้มคลั่งควบคุมตัวเองไม่ได้กระทั่งเกิดเหตุสลดใจขึ้น ทางสถาบัน แพทย์และพยาบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ตายด้วย