ด่านสุวรรณภูมิเริ่มให้ชาวต่างชาติที่จะเข้าไทยโหลดแอป AOTAirport กรอกประวัติการเดินทาง-การเจ็บป่วยแบบออนไลน์ ขณะที่ยอดผู้โดยสารขาเข้า ลดลงเป็นประวัติการณ์ ต่ำสุดนับตั้งแต่เปิดใช้สนามบินมา
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.63 ที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า วันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการชักซ้อมทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการปฏิบัติตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานภายในสนามบิน อาทิ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ สายการบิน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2 และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
รอง ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวต่อว่า ในการนี้ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ขอความร่วมมือไปสายการบินทุกสายการบิน ให้ผู้โดยสารทุกคนที่จะเดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น AOTAirport ตั้งแต่เคาท์เตอร์เช็คอิน เพื่อทำกรอกแบบฟอร์มควบคุมโรคติดต่อ ต.8 หรือ T-8 แบบออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน เพื่อความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศ และการติดตามช่วยเหลือหากมีการเจ็บป่วยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ภายหลังที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้ว ขณะนี้ ก็ได้มีการเริ่มใช้งานการติดตามอาการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผ่านแอปพลิเคชั่นเต็มระบบแล้ว

...
นายกิตติพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทามาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินระหว่างประเทศลงจอด 193 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเข้าประเทศเพียง 9,964 คน ถือเป็นจำนวนผู้โดยสารเข้าประเทศไทยที่น้อยที่สุด นับตั้งแต่มีการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณอย่างเป็นทางการในปี 2549 และเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2562 ถือว่าอัตราผู้โดยสารขาเข้าลดลงถึง 83% โดยบางเที่ยวบินมีผู้โดยสารนั่งมา เพียง 2 คนเท่านั้น อันเป็นผลมาจากมาตรการการคัดกรอง ผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่ประเทศต้นทางของรัฐบาล ทำให้ลดจำนวนผู้ต้องสงสัยเข้าข่ายติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่จะเข้ามาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เป็นจำนวนมาก

ด้าน นายปฏิคม วิวัฒนานนท์ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ประจำวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 9,964 คน จากเที่ยวบินระหว่างประเทศ 193 เที่ยวบิน ไม่พบว่ามีรายใดเข้าเกณฑ์ต้องสงสัยติดเชื้อโรคโควิด-19 แต่มีผู้โดยสารมีไข้จำนวน 1 ราย ได้กักตัวชั่วคราวเก็บตัวอย่างตรวจกำลังรอผลแล็บ

นอกจากนี้ยังได้เก็บตัวอย่างผู้โดยสารคนไทยจากกลุ่มประเทศจีน มาเก๊า ฮ่องกง และเกาหลีใต้ จำนวน 5 คน ซึ่งไม่มีเอกสารแสดงผลการตรวจโควิด-19ใน 72ชั่วโมง ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ.จึงต้องกักตัวไว้ที่ห้องตรวจคัดกรองพร้อมกับเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอผลแล็บ หากผลการไม่ตรวจไม่พบการติดเชื้อก็จะอนุญาตให้เข้าเมืองได้

...
สำหรับกลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ มีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 389 คน จากจำนวนเที่ยวบิน 3 เที่ยวบิน โดยเป็นผู้โดยสารคนไทยจำนวน 197 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ (ผีน้อย) ที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุจำนวน 103 คน ซึ่งทั้งหมดไม่พบว่ามีรายใดเข้าเกณฑ์ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนการดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาออก จำนวนทั้งสิ้น 19,934 คน พบผู้โดยสารรายใดเข้าเกณฑ์ต้องสงสัยติดโควิด-19 จำนวน 1 ราย เป็นชายชาวจีน อายุ 21 ปี ได้มีการกักตัวและส่งต่อไปโรงพยาบาลบางพลี

ด้านบรรยากาศที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากยุโรป อาทิ ชาวรัสเซีย กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย และชาวจีนเดินทางมารอเช็กอินเดินทางกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณโถงผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออก ชั้น 4 อาคารผู้โดยสาร ดูคึกคักตลอดเวลา ขณะที่บริเวณโถงผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า กลับเงียบเหงาลงทุกวัน แม้ว่าจะยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศต่อเนื่อง แต่ปริมาณจำนวนคนลดลงทุกวัน โดยเฉพาะตลอดสัปดาห์นี่ มีอัตราผู้โดยสารขาเข้าลดลงวันละประมาณ 2,000 คนเท่านั้น.
...