ลุงจรูญยิ้มได้แล้ว หลังมีสิทธิ์ใช้เงินรางวัลหวย 30 ล้าน จากที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกอุทธรณ์ของ ครูปรีชาประเด็นศาลสั่งถอนอายัดเงินว่าไม่ชอบ ส่วนคดีหลักศาลอุทธรณ์ภาค7 นัดฟังคำพิพากษา 25 มิ.ย.นี้
จากกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 หมายเลข 533726 ซึ่งทาง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นผู้นำสลากฯ จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยนำเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาจังหวัดกาญจนบุรี แต่เมื่อหักภาษีแล้ว เหลือเงินเข้าบัญชี จำนวน 29,850,000 ล้านบาท โดยหมวดจรูญได้เบิกเงินออกมาจากธนาคารเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย จำนวน 5,500,000 บาท ยังคงเหลือเงินอยู่ในบัญชีธนาคารอีก จำนวน 24,350,000 บาท แต่ลุงจรูญ ก็มาถูก นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี ยื่นฟ้องแพ่ง ซึ่งศาลประทับรับฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ พ.1230/60 จากนั้นส่งคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีคำสั่งอายัดเงินในบัญชีของหมวดจรูญที่เหลืออยู่เอาไว้ทั้งหมด
พร้อมกันนี้ ครูปรีชา ยังยื่นฟ้องคดีอาญาต่อลุงจรูญ อีก 1 คดี ศาลได้ประทับรับฟ้องในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ดังนั้นคดีอาญาจึงถือว่าเป็นคดีหลัก ศาลจึงจำหน่ายคดีแพ่งออกไปเพื่อรอฟังคำพิพากษาในคดีอาญา ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้อง ทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยจนแล้วเสร็จ ในที่สุดวันที่ 4 มิ.ย.2562 ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องลุงจรูญ ในคดีอาญา โดยพิพากษาว่า “ไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย พิพากษายกฟ้อง
เมื่อศาลพิพากษายกฟ้อง ทำให้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความส่วนตัวของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีคำสั่งถอนอายัดเงินในบัญชีธนาคารของหมวดจรูญ และศาลได้ไต่สวนคำร้องไปแล้ว จนกระทั่งวันที่ 22 ส.ค.2562 ศาลได้มีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งอายัดเงิน หมวดจรูญ แต่ต่อมา ครูปรีชา ได้ยื่นอุทธรณ์ในประเด็นศาลสั่งถอนอายัดว่าไม่ชอบ โดยในวันนี้ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น
...
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มี.ค.63 ทนายตั้ม พร้อมด้วย ลุงจรูญ และนางลาวัลย์ วิมูล หรือ ป้าลาวัลย์ ภรรยา พร้อมทีมทนายความ ได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เลขดำที่ พ.1230/60 เลขแดงที่ 484/61 ที่ ครูปรีชา เป็นโจทก์ และ หมวดจรูญ เป็นจำเลย เรื่องละเมิด, เรียกทรัพย์คืน ที่บัลลังก์ที่10 เวลา 09.00 น. โดย ครูปรีชา ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ด้วย ทั้งนี้ หลังจากศาลได้ใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษา ประมาณ 15 นาที จากนั้นทั้งหมดก็ได้เดินลงมาจากศาล
ทนายความส่วนตัว ลุงจรูญ กล่าวว่า วันนี้ศาลอุทธรณ์ภาค7 ได้มีคำพิพากษาในประเด็นที่ทาง ครูปรีชา ซึ่งเป็นโจทก์ ได้อุทธรณ์ใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ คำสั่งที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งอายัดเงิน ลุงจรูญ ซึ่งศาลได้ตัดสินในประเด็นนี้ว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของศาลชั้นต้น ฉะนั้นคำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นที่สุดแล้ว ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัยในประเด็นนี้ ส่วนอีกประเด็น คือ กระบวนพิจารณาเป็นกระบวนที่ผิดระเบียบ โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้ได้จำหน่ายคดีไปแล้ว
ทนายษิทรา กล่าวต่อว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีนี้ถึงแม้ว่าจะมีการจำหน่ายคดี แต่เป็นเพียงการจำหน่ายคดีชั่วคราว และอำนาจการวินิจฉัยก็เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นอีกเช่นกัน ศาลอุทธรณ์จึงมีคำสั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองเรื่อง เท่ากับว่า ลุงจรูญ มีสิทธิ์เต็มตัวในการใช้เงิน และคำสั่งที่มีการเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งคดีนี้ไม่สามารถฎีกาได้ เนื่องจากการที่จะมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งอายัดเงินหรือไม่ นั้น เป็นอำนาจของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจในการพิจารณาในเรื่องนี้
สำหรับคดีหลักที่ ครูปรีชา ยื่นฟ้อง ลุงจรูญ ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค7 ในวันที่ 25 มิถุนายน 2563 เวลา 09.00 น. ซึ่งถือว่าใช้เวลาไม่นาน ก็จะทราบผลในคดีนี้แล้ว คดีอาญาหากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ยืนยกฟ้อง คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถือเป็นที่สุดแล้ว ไม่สามารถฎีกาได้ ซึ่งเท่ากับปิดฉากคดีหวย 30 ล้านบาท ทันที
ด้าน ลุงจรูญ กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เรารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าเราผิดหรือถูก แต่คงไม่ขอออกความเห็นถึงอีกฝ่าย เพราะไม่อยากก้าวก่าย ทั้งนี้หลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ก็คงจะต้องปรึกษาทนายอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
...
ขณะที่ ทนายษิทรา ได้ตอบคำถามต่อเนื่องจาก หมวดจรูญ ว่า เราได้มีการฟ้องครูปรีชา และ นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของ ครูปรีชา ไปแล้ว ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ โดยศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 30 มี.ค.ที่จะถึงนี้ และหากศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาในคดีหลักออกมาชัดเจนแล้วว่า ตกลงกรรมสิทธิ์ของลอตเตอรี่ดังกล่าวนั้นเป็นของผู้ใด เราก็จะมีการดำเนินคดีกับทางพยานที่มาเบิกความเท็จด้วย.