ชาวท่าแลง เพชรบุรี ยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ เอาผิดผู้ว่าฯ บึงกาฬสมัยนั่งเป็นพ่อเมืองเพชรบุรี ออกหน้า เอื้อทำโครงการกำจัดขยะมูลฝอย ส่วนนายกเทศมนตรี ฟ้องฐานออกใบอนุญาตกำจัดขยะโดยมิชอบ
จากกรณีที่มีความขัดแย้ง การออกใบอนุญาตให้เอกชนเข้ามาทำการกำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่ ต.ท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดยมีการสร้างโรงงานแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าในตำบลท่าแลงและมีการนำขยะนอกเขตตำบลท่าแลงเข้ามากำจัดในพื้นที่ ชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ไข แต่ไม่เป็นผล กลายเป็นผู้นำท้องถิ่นตลอดจนชาวบ้านที่ร้อง ถูกทางโรงงานฯ ฟ้องเอาผิดในหลายคดีและมีการเรียกค่าเสียหายสูงถึง 150 ล้านบาท แต่ในที่สุดศาลจังหวัดเพชรบุรี และศาลอาญา ได้ยกฟ้องทุกคดี
ล่าสุด ชาวบ้านได้ร่วมกันยื่นฟ้องเอาผิดนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง บริษัทฯ ผู้รับใบอนุญาต แถมพ่วงด้วยอดีตผู้ว่าราขการจังหวัดเพชรบุรี ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 แล้ว
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.63 นายเฉลา สุวรรณชาติ กำนันตำบลท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมพวกรวม 9 คน ได้ยื่นฟ้อง นายสงวน จิตต์พุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ที่ 1 บริษัท ดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด ที่ 2 และนายสนิท ขาวสะอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ที่ 3 ฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า นายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ร่วมกับบริษัทดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด กระทำความผิดในการทำสัญญาเรื่อง รับดำเนินโครงการบริหารจัดการและกำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร เนื่องจากเป็นสัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายกเทศมนตรีไม่มีอำนาจในการทำสัญญากับเอกชนโดยไม่ได้รับมอบหมายจากสภาเทศบาล และไม่ได้รับความเห็นชอบจาก รมว.มหาดไทย ก่อน
...
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า นายก ทต.ท่าแลง ยังออกหนังสืออนุญาตให้ทางบริษัทฯ ใช้ขยะเก่าตกค้างในพื้นที่เทศบาลตำบลท่าแลง จำนวน 600,000 ตัน โดยไม่มีอำนาจอันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง อีกทั้งยังได้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพให้กับทางบริษัทฯ ต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยทางบริษัทฯ ได้มีการนำเอาขยะนอกเขตเทศบาลตำบลท่าแลงเข้ามากองสต๊อกไว้ในพื้นที่ของทางบริษัทฯ เนื่องจากโรงงานแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้ายังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ อันเป็นการนำขยะนอกเขตอำนาจเข้ามาในพื้นที่ ทต.ท่าแลง ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 55 ที่บัญญัติไว้
ต่อมา เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2560 นายกทต.ท่าแลง ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ได้ออกใบอนุญาตการกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย และใบอนุญาตการหาประโยชน์จากการจัดการสิ่งปฏิกูลมูลฝอย มีระยะเวลาอนุญาต 5 ปี ซึ่งในเทศบัญญัติของเทศบาลตำบลท่าแลง เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลและขยะมูลฝอย พ.ศ.2552 ซึ่งตราเป็นอนุบัญญัติตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 มิได้บัญญัติในเรื่องนี้ไว้ จึงเป็นการออกใบอนุญาตโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและเกินอำนาจของเจ้าพนักงานท้องถิ่น
สำหรับ นายสนิท ขาวสะอาด ผวจ.บึงกาฬ สมัยเป็น ผวจ.เพชรบุรี เมื่อปี 2559 ได้ใช้ตำแหน่งประธานกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดเพชรบุรี ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย กำหนดกลุ่มพื้นที่ในการจัดการขยะมูลฝอยของจังหวัดเพชรบุรี เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับทางบริษัทฯ ซึ่งเป็นที่ทำธุรกิจกำจัดขยะมูลฝอย, โดยเป็นธุระออกหน้าให้ท้องถิ่นหลายแห่งทำบันทึกข้อตกลงเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง รวมทั้งละเว้นไม่กำกับดูแลให้ นายก ทต.ท่าแลง ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของทางราชการและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จนทำให้ผู้ฟ้องและชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายต่อทางราชการอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 นัดวันฟังคำสั่งวันที่ 30 มี.ค.2563 และเมื่อตรวจสอบถึงบริษัท ดับเบิลยูพีจีอี เพชรบุรี จำกัด พบว่าเป็นบริษัทในเครือของตระกูลนักเมืองใหญ่ มีทุนจดทะเบียน 700 ล้านบาท มีชื่อนางอาทิตยา ชาญวีรกูล เป็นกรรมการของบริษัท โดยมีที่ตั้งบริษัทใหม่อยู่ที่อาคารซิโน-ไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการร้องเอาผิดนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลงต่อ ผวจ.เพชรบุรี และมีคำสั่งสอบข้อเท็จจริงพบมีมูล จึงถูกตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดตามระเบียบการสอบสวนของกระทรวงมหาดไทยแล้ว.