เปิดประวัติพระครูบาหน่อเขี้ยว หรือ ครูบารวย หลังปรากฏตัวทำพิธีถอดวิญญาณที่สะพานบางปะกง ช่วยผีสาวชุดแดงและสัมภเวสี ไปผุดไปเกิด ได้ชื่อเป็น "ผู้ปลดปล่อยวิญญาณ" ไปทุกที่ที่มี "เด็กหาย-คนหาย"

จากเหตุการณ์ เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่กลางสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ถนนเทพรัตน(บางนา-ตราด) กม.50 ช่องคู่ขนาน ขาเข้า กทม. หมู่ 4 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ลูกศิษย์ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว หรือ 'พระครูบารวย' วัดป่านฤมิตร(ถ้ำมังกรทอง) จ.นครราชสีมา ให้ช่วยประสานหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา และหน่วยกู้ภัยเทศบาลตำบลท่าข้าม เพื่อเปิดสัญญาณไฟบริเวณกลางสะพาน เพื่อทำพิธีถอดวิญญาณสาวชุดแดงและสัมภเวสีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จากการฆ่าตัวตาย จมน้ำ และถูกฆ่า เพื่อให้ไปผุดไปเกิดในภพภูมิต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามครูบาหน่อเขี้ยวแก้ว เผยว่า เมื่อคืนนี้ทางผีสาวชุดแดง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ได้ไปเข้าฝันว่าให้มาช่วยปลดปล่อยวิญญาณที่สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงที หลังถูกชาวบ้านต่อว่าเป็นวิญญาณที่ไม่ดี ซึ่งผีสาวชุดแดงบอกว่าหลังจากกระโดดน้ำฆ่าตัวตายเมื่อหลายปีมาแล้ว

"วิญญาณไปไหนไม่ได้ เพราะถูกวิญญาณนายช่างที่ตายที่สะพานกักขังวิญญาณเอาไว้ไม่ให้ไปไหน และยังมีดวงวิญญาณสัมภเวสีอื่นมากมายที่ไปผุดไปเกิดไม่ได้เพราะผีนายช่างคนที่สร้างสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ซึ่งวิญญาณของนายช่างมีแรงอาฆาตเกี่ยวกับสะพาน เพราะตัวเองนั้นตายตอนที่สะพานยังสร้างไม่เสร็จ แต่ เพราะคนที่ว่าจ้างได้บอกไว้ว่าต้องสร้างสะพานให้เสร็จ ทำให้วิญญาณยึดติดกับสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงแห่งนี้ อีกทั้งยังมีวิญญาณคนงานที่ตายช่วงที่สร้างสะพานแห่งนี้ ทำให้จุดดังกล่าวมีวิญญาณคอยดึงคนดวงตกมาฆ่าตัวตาย หรือเกิดอุบัติเหตุบริเวณสะพานแห่งนี้"

ครูบาฯ กล่าวอีกว่า การที่มาถอดถอนวิญญาณจำนวนมาก บางครั้งอาจจะสร้างความไม่พอใจกับวิญญาณสมัยก่อนที่ต้องดูแลสะพาน ทำให้ต้องนำเครื่องสังเวยมาตั้งกลางสะพานแล้วลงยันต์ที่เสาไฟทางบริเวณที่มีคนพบวิญญาณสาวชุดแดงเพื่อให้วิญญาณที่อยู่ทั้งบนถนนและในน้ำขึ้นมากินเครื่องเซ่นไหว้ พร้อมทั้งรับฟังบทสวดมนต์ที่จะทำให้วิญญาณทั้งหมดหมดบ่วงกรรม ที่สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ให้ไปผุดไปเกิดในภพภูมิต่อไป

...

อย่างไรก็ตาม พิธีใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่ง ขณะที่กำลังจะเสร็จพิธีได้มีฝนลงละอองมาเล็กน้อย แต่ทุกอย่างก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว เผยอีกว่า ต่อไปนี้จะไม่มีวิญญาณสัมภเวสีตนใดมารบกวนชาวบ้านที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวแล้ว ก็จะทำให้ไม่มีอุบัติเหตุ และจะไม่มีอะไรที่จะดลใจให้คนมาฆ่าตัวตายที่สะพานดังกล่าวอีกต่อไป

สำหรับครูบารวย หรือ ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว ท่านจะเดินทางไปแทบทุกที่ที่มีคนหาย เด็กหาย เพื่อทำพิธี"ติดต่อ- ตามหา" ที่ผ่านมาได้เดินทางไปที่ถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย กรณี 13 หมูป่าในถ้ำหลวง ไปที่ จ.เพชรบุรี เพื่อตามหาน้องภาคิน ที่หายจากบ้าน ไปที่ จ.สุพรรณบุรี เพื่อหาตัวน้องต้าแง หลงในดงอ้อย เป็นต้น

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ “วัจฉโคตร” ระบุว่า ครูบารวย หรือ ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้วเกิดที่จังหวัดลำปาง เมื่อปี 2505 เรียกว่าท่านยังเป็นพระหนุ่มอยู่ แต่จากการปฏิบัติของท่าน นับว่ามีประสบการณ์มากกว่า เริ่มจากการศึกษาทางคุณไสยจากอาจารย์ชาวเขมร ทำให้สามารถถอดถอนคุณไสยและขับไล่พวกผีเข้าสิงให้กับชาวบ้านได้

"ท่านอุปสมบทเป็นพระมหานิกายแล้วเปลี่ยนเป็นธรรมยุติ โดยฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่หลวง กตปุญโญ พระป่าสายหลวงปู่มั่น และเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านด้วย ท่านชอบไปศึกษาธรรมะกับครูบาอาจารย์ เช่น หลวงปู่แว่น หลวงปู่สิม อะไรที่ไม่เข้าใจก็สอบถามจนมีความรู้แตกฉานด้านการปฏิบัติทางสมาธิภาวนา

วัดถ้ำมังกรทองที่ท่านจำพรรษาอยู่นี้ ในอดีตก็มีพระป่าเช่นหลวงปู่มั่น หลวงปู่ผาง หลวงปู่แหวน เคยมาปฏิบัติธรรม เพราะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีเทพยดารักษา ใครทำตัวไม่ดีก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้

มีอยู่ช่วงหนึ่งท่านได้นั่งสมาธิในถ้ำ มีฝนตกหนัก ภาพในสมาธิเห็นพญานาคเล่นน้ำอยู่ในถ้ำ ท่านกำหนดจิตสอบถามได้ความว่า เป็นท้าวภุชงค์นาคราช รักษาอยู่ที่ถ้ำนี้ ต่อมาท่านได้สร้างรูปปั้นท้าวภุชงค์ไว้ที่วัดนี้ด้วย

ครูบารวยจะมีพระสายปฏิบัติมาช่วยเหลือท่านอยู่เสมอ คือช่วยให้ท่านเกิดนิมิตแล้วนำไปปฏิบัติตาม รวมทั้งพระครูเทพโลกอุดรด้วย เวลาทางวัดจัดทำพิธีใหญ่ พระครูเทพโลกอุดรก็จะมาด้วย แต่มาแบบให้รับรู้ทางจิตหรือปรากฏการณ์แปลกๆ เรื่องของพระครูเทพโลกอุดรนี้ "วัจฉโคตร" เคยเสาะแสวงหาท่านอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่มีผลอะไร ปล่อยให้เป็นเรื่องเล่าขานสู่กันฟัง

ท่านยังมีเวลาปฏิบัติธรรมอีกมาก นี่เป็นแค่ครึ่งหนึ่งของชีวิตเท่านั้น ใครสนใจก็ลองไปกราบท่านที่วัด เผื่อจะได้ธรรมะดีๆ กลับมาปฏิบัติที่บ้านบ้าง.