เผาแล้ว สาวแม่ลูกอ่อน เหยื่อยาลดความอ้วนที่อ่างทอง สามีอยากให้เป็นคนสุดท้ายที่เป็นเหยื่อ ขณะรอง ผบ.ตร.แถลง จับกุมตัวการ เป็นแม่กับลูกสาวอดีตเภสัชกรถูกถอนใบอนุญาต โรงงานอยู่ที่กาฬสินธุ์ พบเคยผลิตยาลดอ้วน ยี่ห้อ "ลีน" 

เผาศพสาวอ่างทอง เหยื่อยาลดอ้วน ซื้อออนไลน์ 

เวลา 16.30 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่เมรุ วัดแปดแก้ว ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง นายชูชีพ เปาอินทร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลห้วยคันแหลน เป็นประธานในงานพิธีเผาศพ นางสาวมรกต เจริญกิจ อายุ 30 ปี สาวอ่างทอง เหยื่อยาลดความอ้วน ที่ช็อกเสียชีวิตจากการรซื้อยาลดความอ้วนทางออนไลน์มากิน เพื่อลดหุ่นหลังคลอดลูก

ทั้งนี้ หลังคลอดลูกคนแรกได้ 6 เดือน นางสาวมรกต ได้สั่งซื้อยาลดความอ้วนจากสื่อออนไลน์ที่อ้างเป็นคลินิก เพื่อลดหุ่น กินยาชุดละ 6 วัน ชุดแรกได้ผลน้ำหนักลดทันตา

จากนั้นจึงสั่งซื้อชุดที่ 2 แต่กินได้ไม่กี่วัน เริ่มมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด อาเจียน แต่คิดว่าไม่ได้มาจากสาเหตุการกินยาลดน้ำหนัก วันรุ่งขึ้นกินยาต่อ อาการรุนแรงหนักขึ้น ถูกนำส่งโรงพยาบาลอ่างทอง และได้เสียชีวิตในวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา แพทย์ระบุสาเหตุว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะจากการใช้ยาลดน้ำหนัก โดยนายวิสุทธิ์ ม่วงเจริญ อายุ 38 ปี สามี ได้เปิดเผยผ่านสื่อ จนกระทั่งมีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง กวาดล้างจับกุม แหล่งผลิตขนาดใหญ่

สามีคนตาย วอนช่วยดูแล เยียวยา

นายวิสุทธิ์ ม่วงเจริญ สามี กล่าวว่า อยากให้การเสียชีวิตของภรรยาตนเองเป็นคนสุดท้ายที่หลงเป็นเหยื่อของยาลดความอ้วนที่สั่งซื้อ และบรรยายสรรพคุณและความเชื่อถือผ่านทางสังคมออนไลน์ จนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็ว ขยายผลจับกุมกวาดล้างถอนรากถอนโคน ส่วนครอบครัวของตน เบื้องต้นยังไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ และหลังจากนี้คงใช้ชีวิตอย่างยากลำบากต้องเลี้ยงลูกน้อยเพียงลำพัง อยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานในการดูแลเยียวยา

...

ขณะที่ นายกิตติคุณ เจริญกิจ อายุ 60 ปี พ่อของ นางสาวมรกต ที่เสียชีวิตจากยาลดความอ้วน ฝากบอกให้ประชาชนอย่างหลงเชื่อการซื้อยาลดความอ้วนผ่านสังคมออนไลน์ เพราะเราไม่ทราบเลยว่าเป็นเรื่องจริงหรือการหลอกลวง หากจำเป็นควรปรึกษาแพทย์จะปลอดภัยกว่า

วิระชัย แถลง ทลายโรงงาน

วันเดียวกัน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. แถลงผลการทลายโรงงานผลิตยาลดความอ้วนและเครือข่ายผู้จำหน่ายยาลดความอ้วน หลังเกิดกรณี น.ส.มรกต เจริญกิจ อายุ 30 ปี ชาว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เสียชีวิตหลังสั่งยาลดความอ้วนจากคลินิกออนไลน์จากเพจ "OBECARE" มารับประทาน

รวบหมอเดียร์-แม่ 1 ปี เงินเข้าบัญชี 34 ล้าน

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้มีการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่ากรณีนี้มีทำเป็นขบวนการ ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบถ้วนตั้งแต่ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายยาลดความอ้วน รวมจำนวน 7 คน ประกอบด้วย น.ส.อัญมณี หีบแก้ว ซึ่งเปิดบัญชีรับโอนเงิน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 34 ล้านบาทในรอบปี นางต้อย เจ้าของโรงงานผลิตยาลดความอ้วน (บริษัท ดีดีคอสเมด จำกัด) หมอเดียร์ เจ้าของคลินิก ซึ่งเป็นลูกสาวของโรงงานผลิตยาลดความอ้วน ผู้ร่วมกิจการ 2 คน คือ น.ส.ปลา และนายต่อ หุ้นส่วนโอบีแคร์ รวมถึงผู้ส่งยาลดความอ้วนอีก 2 คน

จ้าง "คนส่งยา" ค่าจ้างเดือนละ 3 แสน 

จากการตรวจสอบพบว่า นายจิรายุส พลศิริ เป็นคนไปส่งยาลดความอ้วนที่ไปรษณีย์เภตรา จ.ปทุมธานี ให้กับผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ น.ส.ปลา นายต่อ และผู้ส่งยาจะได้รับค่าจ้างจากหมอเดียร์เดือนละ 300,000 บาท

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.มรกต จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใคร เนื่องจากต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุใด หากผลออกมาว่าเกิดจากการรับประทานยาลดความอ้วน ก็จะเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนโรงงานผลิตยาลดความอ้วนใน จ.กาฬสินธุ์ ที่มีการเข้าตรวจค้นพบการผลิตยาผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ได้แจ้งข้อหากับโรงงานไปแล้ว 8 ข้อหา อาทิ ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตและจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อประสาทในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตยาปลอม ผลิตอาหารปลอม ทำลายพยานหลักฐาน ฯลฯ

เชื่อมโยง โรงงานผลิตยาลดอ้วน "ลีน" 

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับโรงงานผลิตยาที่ จ.กาฬสินธุ์ พบว่าเป็นโรงงานที่ผลิตยาลดความอ้วนผิดกฎหมาย รายใหญ่ที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ยังพบความเชื่อมโยงว่าเดิมทีเจ้าของโรงงานเป็นขบวนการที่เคยตั้งโรงงานผลิตยาลดความอ้วน "ลีน" ในเครือเมจิกสกินที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งถูกตำรวจบุกเข้าทลายโรงงาน จึงมาสร้างโรงงานใหม่ที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยในวันที่เข้าตรวจค้น พบลูกจ้างกำลังเผาทำลายยาไซบูทรามีนอยู่ 5 จุด

จ่ายยาเป็นชุด มีผลทำตับ-ไตวาย 

"สูตรยาทุกตัวที่ผลิตจากโรงงานมีส่วนผสมของไซบูทรามีนทั้งสิ้น และจะใช้วิธีจ่ายยาเป็นชุด เพื่อกดอาการข้างเคียงของไซบูทรามีนจำนวน 7 ชนิด อาทิ ยานอนหลับ แก้อาการนอนไม่หลับ ยาระบาย เพื่อแก้อาการท้องผูก และยาแก้อาการใจสั่นให้รับประทานไปควบคู่กัน หากบริโภคเข้าไปปริมาณมาก อาจจะส่งผลให้ระบบไตและตับทำงานหนักและวายเฉียบพลันจนเสียชีวิตในที่สุด"

แฉ "หมอเดียร์" อดีตเภสัชฯ ถูกถอนใบอนุญาต 

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า สำหรับหมอเดียร์นั้น เป็นอดีตเภสัชกรที่ถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ และเคยถูกดำเนินคดีในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว รวมทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างรอลงอาญา 2 ปี พบว่าเคยเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ก็กลับมาก่อเหตุในลักษณะนี้อีก โดยมีลูกจ้างคือ น.ส.ปลา และนายต่อ 2 สามีภรรยาที่ติดหนี้กว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากเคยเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อยาจากโรงงาน แต่ถูกจับทำให้ไม่มีเงินมาจ่ายค่ายา จึงมาขอทำงานใช้หนี้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายที่สั่งซื้อยาลดความอ้วนจากเพจเฟซบุ๊กโอบีแคร์ จำนวน 5,619 ราย สามารถไปแจ้งความในท้องที่เกิดเหตุได้ เพื่อดำเนินกับบุคคลเหล่านี้ในความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนกว่า 30 ล้านบาท

...

ยันไม่เคยให้ข่าว "ผู้ใหญ่" ใน สคบ.มีเอี่ยว 

ส่วนกรณีเจ้าของโรงงานกล่าวอ้างว่า มีข้าราชการระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยการเรียกรับผลประโยชน์ พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนจ.กาฬสินธุ์ ทำการสอบสวนแบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องปกปิด ช่วยเหลือ หรือซ่อนเร้นผู้กระทำผิด ซึ่งได้สั่งการให้ทาง พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพชรพันธ์ ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก. และพนักงานสอบสวนให้ทำการสอบสวนเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา หากมีการพาดพิงถึงข้าราชการคนไหนให้ปรากฏไว้ในสำนวน หลังจากผู้ต้องหาได้ให้การทั้งหมดเรียบร้อยได้ให้ผู้ต้องหา รวมถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีมาพบในวันพุธที่ 10 ก.ค. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะเรียก เจ้าของโรงงาน หมอเดียร์ เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ขอเรียนว่าที่มีข่าวว่าเป็น สคบ. นั้นเป็นข่าวมาจากไหนไม่ทราบ ตนยังไม่เคยให้สัมภาษณ์หรือให้ข่าวว่าผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นผู้ใหญ่ใน สคบ. หรือเป็นใคร แต่เมื่อสื่อมวลชนถามว่าหากมีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กล่าวต่อว่า ถ้ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ตรงไปตรงมา ไม่ว่าข้าราชการคนนั้นจะเป็นข้าราชการหน่วยใด หรือส่วนใดก็ตาม และถ้าข้าราชการคนนั้นเป็นตำรวจก็จะยิ่งดำเนินการได้อย่างเต็มที่

ฟันไม่เลี้ยง หากมี ขรก.เรียกรับสินบน  

ส่วนที่มีรายงานว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ปคบ.นั้นทาง พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนนี้ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ ขอเวลาให้ตนได้ดำเนินการตรวจสอบก่อน ซึ่งทางผู้ต้องหาที่กล่าวอ้างจะมาพบผมในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ในฐานะผู้เสียหายคดีถูกเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน โดยขอยืนยันหากพบข้าราชการเรียกรับสินบนจริงจะต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างถึงที่สุด.

...