ปปส.สุพรรณบุรีสนธิกำลังทหาร บุกมูลนิธิดัง"ข้าวขวัญ"ลักลอบปลูกกัญชาพบของกลางทั้งที่เป็นเมล็ดพันธ์ุ กัญชาบดแห้ง และต้นกล้ากว่า200ต้น คนงานบอก ทั้งหมดเป็นของ"กรรมการบริหาร"อยู่ในขั้นทดลอง

เวลา 16.00 น.วันที่ 3 เม.ย. จากการสืบทราบของ พ.ต.อ.มาโนชญ์ จิตภักดี รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ว่าที่ บ้านเลขที่ 13/1 หมู่ 3 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของมูลนิธิข้าวขวัญ ซึ่งเป็นสถานที่ทดลองปลูกพันธุ์ข้าวและส่งเสริมพันธ์ุข้าวเพื่อชาวนา ได้มีการแอบลักลอบปลูกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปกรณ์ จุนเขียว หัวหน้าชุด ปปส.ภ.จ.สุพรรณบุรี สนธิกำลังร่วมกับ พ.อ.กุญชภัสร์ หาญสมบูรณ์ เสธ บก.ควบคุม กกล.รส.มทบ.17 นำกำลังกว่า 30 นายเข้าทำการตรวจสอบ 

พบภายในพื้นที่มูลนิธิ มีคนงาน 5-6 คน กำลังทำงานคัดพันธ์ุข้าวอยู่ และที่บริเวณโรงเก็บของด้านหลังตรวจสอบพบต้นกล้ากัญชามีความสูงประมาณ 1 ฟุต ปลูกอยู่ในถุงดำวางเรียงรายกว่า 200 ต้น และภายในโรงเก็บของที่ดัดแปลงเป็นโรงงาขนาดเล็ก ยังพบเมล็ดกัญชาตากแห้งบรรจุอยู่ในถุงจำนวน 5 ถุง และผงกัญชาฝุ่นบดแห้งใส่ถุง น้ำกัญชาสกัด ใส่ถังขนาด 15 ลิตร 1 ถัง และถัง 5 ลิตร อีก 2 ถัง นอกจากนี้ยังพบเครื่องบดเม็ดกัญชาอีก 1 เครื่อง จึงนำของกลางทั้งหมด และพนักงานที่อยู่ในบริเวณมูลนิธิจำนวน 5 คน มาสอบสวน สภ.อ.สระแก้ว อ.เมืองสุพรรณบุรี

...

จากการสอบสวนคนงานทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณมูลนิธิฯต่างให้การตรงกันว่า ต้นกัญชาและอุปกรณ์ทั้งหมดไม่ใช่ของพวกตน เป็นของนายเดชา ศิริภัทร ซึ่งเป็นกรรมการบริหารมูลนิธิ เบื้องต้นคนงานในมูลนิธิ แจ้งว่าวันนี้นายเดชาไม่อยู่ เดินทางไปเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องข้าวที่ประเทศ สปป.ลาว อีก 3-4 วันถึงจะกลับ ส่วนกัญชาที่บดแห้งทั้งหมด และต้นกล้ากัญชา ทางนายเดชา นำมาผลิตผ่านกระบวนการ เพื่อใช้เป็นยารักษาโรค ซึ่งนายเดชาได้มีการนำเม็ดกัญชามาทดลองปลูก เพื่อใช้ทางการแพทย์ ทราบว่าทั้งหมดยังอยู่ระหว่างนำมาปลูกเพื่อทำการทดลอง แต่ก็ไม่ทราบว่าได้มีการขออนุญาตปลูกอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าได้สอบปากคำทำประวัติคนงานทั้งหมดไว้แล้วปล่อยตัวไป พรัอมทั้งจะได้ติดตามตัวนายเดชามาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป