กลุ่มนักท่องเที่ยว 59 ราย ซื้อทัวร์ญี่ปุ่น ไปเมืองฮอกไกโด โปร 1 แถม 1 สุดท้ายไปได้แค่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะไม่มีการจองตั๋วเดินทาง เจ้าบริษัทอ้างหมุนเงินไม่ทัน ต้องนำเงินไปจองที่พัก !

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 ต.ค.2561 พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.3 บก.ทท.1 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค.61 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. ได้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 59 คน มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจท่องเที่ยว ที่ กก3.บก.ทท1 ภายในอาคารผู้โดยสาร ชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าถูกทิ้งทัวร์ไปฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยทำการซื้อทัวร์กับบริษัท คามิโอ เอเจนซี่ เทรดดิ้ง จำกัดผ่านเฟซบุ๊ก Kameotour จ่ายค่าทัวร์ 30,000 บาทโปรโมชั่น 1 แถม 1 และนัดหมายเดินทางในวันที่ 19 ต.ค.61 เวลา 22.00 น.

ปรากกฏ เมื่อถึงเวลานัดหมายกลุ่มผู้ซื้อทัวร์ไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากไม่มีตั๋วโดยสารและบริษัททัวร์ไม่มาตามนัด นอกจากนี้ ยังหลอกลวงรับแลกเงินญี่ปุ่นให้ลูกทัวร์แต่เมื่อได้เงินไทยจากลูกทัวร์ก็ไม่นำเงินที่แลกมาให้ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1.8 ล้านบาท

ต่อมาชุดสืบสวน ทำการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้คือ น.ส.นิธินันท์ พัฒนาชัยโรจน์ อายุ 37 ปี เจ้าของบริษัท และเพิ่งถูกตำรวจท่องเที่ยว กก3.บก.ทท.1 จับกุมดำเนินคดีในข้อหาประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 17 ต.ค.61 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้เสียหาย 4 คน ซื้อทัวร์โปรโมชั่นเดียวกันรวม 60,000 บาท แต่เดินทางไม่ได้เช่นกัน แต่กรณีดังกล่าวผู้ต้องหาได้คืนเงินให้แก่ผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างประกันตัว ทางชุดสืบสวนจึงประสานนำตัว น.ส.นิธินันท์ ส่ง พงส.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดี 

พ.ต.อ.อำนาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากฝากถึงนักท่องเที่ยวก่อนซื้อทัวร์กับบริษัทใดก็ตามหากพบว่าราคาถูกมากเกินจริง ควรตรวจสอบชื่อบริษัททัวร์ดังกล่าวว่าได้จดทะเบียนถูกต้องกับกรมการท่องเที่ยวหรือไม่ผ่านทางเว็บไซต์ หรือหมายเลขโทรศัพท์เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง

...

ด้าน พ.ต.ท.สมชาติ มณีรัตน์ รองผกก.สอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า ได้รสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้วกว่า 30 ราย โดยทั้งหมดให้การว่าซื้อทัวร์ไปเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ช่วงวันที่ 19-23 ต.ค. 61 รวม 5 วัน ในราคา 30,000 บาท โปรโมชั่น 1 แถม 1 กับบริษัทคามิโอ เอเจนซี่ เทรดดิ้ง จำกัด แต่เมื่อถึงวันเดินทาง ไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากบริษัททัวร์ไม่ได้มีการจองตั๋วโดยสาร เพื่อออกตั๋วโดยสารให้เดินทาง หากมีผู้เสียหายรายใดที่ซื้อทัวร์กับบริษัทนี้แล้วไม่สามารถเดินทางได้สามารถเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ ส่วนการสอบปากคำ น.ส.นิธินันท์ พัฒนาชัยโรจน์ อายุ 37 ปี เจ้าของบริษัท ให้การอ้างว่า ที่ไม่สามารถจองตั๋วได้เนื่องจากหมุนเงินไม่ทัน เพราะนำเงินจากแต่ละกรุ๊ปไปจองที่พัก ทำให้เกิดปัญหาขึ้น

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีใน 3 ข้อหาประกอบด้วย ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต ฉ้อโกงประชาชนและนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ.