250 ปี...“วีรชนชาวบ้านบางระจัน” ผู้หาญกล้าได้ประกอบวีรกรรมพลีชีวิตต่อสู้กับกองทัพพม่า ข้าศึกที่รุกรานเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยเป็นมรดกตกทอดมาถึงทุกวันนี้
ก่อนกรุงศรีอยุธยาจะเสียแก่พม่า กองทัพพม่าได้ล้อมกรุงศรีอยุธยาโดยมีเนเมียวสีหบดีเป็นแม่ทัพได้ให้กองทหารพม่าไปปล้นทรัพย์และจับชาวบ้านเมืองวิเศษชัยชาญ
พวกชาวบ้านพากันโกรธจึงคิดแก้แค้นผู้นำชาวบ้านซึ่งมี นายดอก นายทองแก้ว ได้ลวงทหารพม่าไปฆ่าเสียหลายนายแล้วพากันมายังบ้านบางระจันสมทบกับชาวบ้านบางระจันซึ่งมี นายแท่น นายโชติ นายอิน นายเมือง นายทองเหม็น นายจันหนวดเขี้ยว นายทองแสงใหญ่ ขุนสรรค์ พันเรือง...เป็นผู้นำ
ได้รวบรวมกำลังชายฉกรรจ์กว่า 400 คนตั้งค่ายขึ้น ณ บ้านบางระจัน เพื่อต่อสู้กับกองทัพพม่าและได้นิมนต์ “พระอาจารย์ธรรมโชติ” ผู้เรืองวิทยาคมมาเป็นขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้าน
เมื่อกองทัพพม่ารู้เรื่อง “ค่ายบางระจัน” ก็จัดกองทัพมาปราบแต่ก็แตกพ่ายไปถึง 7 ครั้ง “ชาวบ้านบางระจัน”...ซึ่งมีกำลังคนและอาวุธน้อยกว่า ได้ต่อสู้กับกองทัพพม่าที่มีกำลังพลและอาวุธเหนือกว่าจนเสียชีวิตทั้งหมดในค่ายบางระจันแห่งนี้
...
ค่ายบางระจัน...เสียแก่พม่า เมื่อวันแรม 2 ค่ำ เดือน 8 ปี 2309...ถึงกระนั้นทัพพม่าก็ต้องใช้เวลาตีค่ายบางระจันนานถึง 5 เดือนเศษ
เกิดมาใครไม่ม้วย มีไฉน
บางระจันม้วยสม ศักดิ์ม้วย
ม้วยด้วยเกียรติเกรียงไกร เกริ่นเกริก
ออมยศยอมม้วยด้วย ค่าแพง
วันที่ 29 มิถุนายน 2561 จังหวัดสิงห์บุรีจัดงานใหญ่...“วันค่ายแตก”
ขอเชิญชวนลูกหลานบางระจันร่วมงานรำลึกวีรชนค่ายบางระจัน ณ วิหารหลวงพ่อพระอาจารย์ธรรมโชติ วัดโพธิ์เก้าต้น หมู่ 8 ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน ...ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและอธิษฐานจิตอุทิศถวาย “หลวงปู่ธรรมโชติ” และ “วีรชนค่ายบางระจัน” อันศักดิ์สิทธิ์
คำบูชา...วีรชนค่ายบางระจัน ตั้งนะโม 3 จบ ระจัน สัมปะติ โยธะ โสกะติยัง สยาม กะติยัง สยาม กิตติยานัง เอหัง สยาม พังยะ กายัง กาสัง กาติ นิติ สันยะ ประนัง นะตายัง
ข้าพเจ้าชื่อ.................นามสกุล.......................
ระจัน เทวา สาระจัน เทวา ระจัน กำมะสา กิตติ อุติ สัมปันโน สัมปันนัง สัมปันหัง เทวา ทะตินัง ทะติหัง การะนัง กะเตยะสา กะเตยะสา กะเตยะสา ระจันสาธุ ระจันสาธุ ระจันสาธุ
“สระน้ำศักดิ์สิทธิ์”...หรือที่เรียกกันติดปากว่า “สระน้ำพระอาจารย์ธรรมโชติ” อีกศูนย์รวมศรัทธาที่เกี่ยวโยงกับการ “หาบน้ำแก้บน” ด้วยมีความเชื่อกันว่า ผู้ที่มาบนบานศาลกล่าวในที่แห่งนี้แล้ว สำเร็จสมดังหวังปรารถนาก็จะต้องมาแก้บนด้วยการหาบน้ำถวายท่านตามจำนวนหาบที่บนเอาไว้กับท่านพระอาจารย์
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าช่วงเวลาไหนก็มักจะเห็นมีคนมาหาบน้ำเพื่อแก้บนแทบจะไม่เคยขาด ขันเป็นร้อยๆใบ ไม้หาบอีกนับไม่ถ้วน สะท้อนให้เห็นถึงกระแสศรัทธาได้เป็นอย่างดี
เล่าลือกันว่า...มีบางคนต้องมาแก้บนหาบน้ำถึง 1,000 หาบเลยทีเดียว จะเป็นความสำเร็จในเรื่องใดนั้น ไม่เป็นเรื่องที่บอกกล่าวเล่าต่อๆกันมา แต่ที่แน่ๆคงจะคุ้มเป็นหนักหนากับผลที่ผู้แก้บนได้รับกลับไป
...
ส่วนใหญ่...ก็จะมาบนกันเรื่องของหาย คนหาย แต่ที่ขึ้นชื่อมากๆก็จะเป็นเรื่องขอให้ลูกชายไม่โดนทหาร...เรื่องดังกล่าวนี้ใครมาก็มักจะสมหวังดั่งใจเสมอ
หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน เคยเล่าว่า เมื่อก่อนที่ค่ายเฮี้ยนมาก มีผู้ตักน้ำในสระพระอาจารย์ธรรม–โชติไปใส่หม้อน้ำรถ...ก็เกิดระเบิดเลย ใครลักอะไรไปต้องนำไปคืน ใครจะไปเอาอิฐหมายเพื่อเป็นสิริมงคลนั้น สุดท้ายก็ต้องเอาไปคืนหมด แต่ก็มีคนอยากได้เสมือนเป็นการลองของ...
ทว่า...หลายเรื่องราวเล่าขาน ผู้ที่เก็บอิฐไป...บางคนก็ประสบอุบัติเหตุ เคราะห์ร้าย บางคนเอาไปไว้ในบ้านตกดึกก็กลับกลายมีเสียงผู้คนครวญครางร้องกันกระหึ่ม จนต้องเอามาคืน
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก–ยม