สิ้นเกจิดัง แห่งเมืองกรุงเก่า หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก หรือ พระมงคลสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สิริอายุสิริอายุรวม 95 ปี 7 เดือน 10 วัน 76 พรรษา
วันที่ 20 ก.ค. พระเมธีวราภรณ์(พระมหาเชิดชัย) รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เปิดเผยว่า หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก หรือในสมณศักดิ์ พระราชทินนามที่ พระมงคลสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพระเกจิดังอันดับ 1 ของเมืองไทย เจ้าของเลสข้อมือหลวงพ่อรวย มรณภาพเมื่อเวลาประมาณ 21.00 นาฬิกา ของวันพุธที่ 19 กรกฎาคม 2560 ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพมหานคร ด้วยอาการสงบ สิริอายุรวม 95 ปี 7 เดือน 10 วัน 76 พรรษา ทำให้ลูกศิษย์ลูกหา และคนในอยุธยารู้สึกเสียใจในการจากไปของหลวงพ่อรวยที่เคารพศรัทธา และมีลูกศิษย์โพสต์แสดงความรู้สึกในเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก ทางคณะกรรมการและพระสงฆ์ จะได้ประชุมหารือการจัดงานและจะนำสรีระของหลวงพ่อรวยกลับวัดตะโกเมื่อไหร่ เบื้องต้นในที่ประชุมจะนำกลับวัดตะโกในวันเสาร์ ที่ 22 ก.ค.2560 แต่ต้องหาข้อยุติอีกครั้งจะแจ้งให้ทราบเป็นทางการ
นายศุภชัย หงส์ทองสุก อายุ 42 ปี ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อรวย กล่าวว่า หลวงพ่อรวยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ มานานหลายเดือนด้วยโรคชราจนมีอาการดีขึ้นตามลำดับเมื่อ 2-3 วัน หลวงพ่อยังแข็งแรง ฉันอาหารได้เอง ประคองเดินเข้าห้องน้ำได้ ยิ้มแย้มแจ่มใส ถามตอบได้จนตัวเองคิดว่า อีกวันสองวันหลวงพ่อจะกลับวัดได้ แต่ไม่คิดว่า หลวงพ่อจะจากพวกเราไป ตนรู้สึกเสียใจร้องไห้ทั้งคืน ลูกศิษย์ทราบข่าวต่างเดินทางมาที่โรงพยาบาลหลายคนกราบสรีระหลวงพ่อรวย
...
พระมงคลสิทธาจารย์ (หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก) เป็นหนึ่งในบรรดาเกจิพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งเมืองกรุงเก่า ที่มีความขลังเป็นอมตะ หลวงพ่อรวย มีความเป็นอยู่สมถะ เรียบง่าย พูดน้อย ถามคำตอบคำ เป็นที่เคารพนับถือของศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ เก่งทางด้านเมตตา มหานิยม โชคลาภ วัตถุมงคลที่โด่งดังคือเลสข้อมือหลวงพ่อรวย ล่ำลือไปทั่วประเทศสร้างกี่ครั้งก็หมดในพริบตา เป็นที่นิยมของนักสะสมพระเครื่องทั่วประเทศ
หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก หรือในสมณศักดิ์ ราชทินนามที่ พระมงคลสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระเกจิอาจารย์แนวหน้าในยุคนี้ที่งดงามด้วยปฏิปทาศีลวัตรสัจคุณ ดำรงสมณเพศอย่างสมถะ เป็นพระนักปฏิบัติมากกว่าที่จะเป็นพระธรรมกถึก ทั้งเป็นพระนักพัฒนาทำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดตะโก ท่านได้สืบทอดพุทธาคมมาจากหลวงพ่อชื่น วัดภาชี ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งสืบทอดวิชาพุทธาคม มาจากหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ผู้เป็นพระบูรพาจารย์ที่โด่งดังเลื่องลือกิตติศัพท์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งสืบสายพุทธาคมโดยตรง จากหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ
ที่เชี่ยวชาญวิชาอาคมโดดเด่นในด้านเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรีเป็นหนึ่ง อีกด้วย
ประวัติ ชาติภูมิ หลวงพ่อรวย ถือกำเนิดเมื่อ พ.ศ.2464 เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน 8 คน (ชาย 3 หญิง 5) ของคุณโยมบิดา ชื่อ มี โยมมารดา ชื่อ สินลา ศรฤทธิ์ (บรรพบุรุษของสกุลศรฤทธิ์นี้ เป็นเชื้อสายชาวกรุงศรีสัตนาคนหุต) ณ บ้านตะโก หมู่ที่ 2 ต.ดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ชีวิตในปฐมวัยมีความเป็นอยู่เหมือนๆ กับเด็กในชนบททั่วไป คือได้ช่วยเหลือพ่อแม่ประกอบอาชีพทางด้านเกษตรอันถือได้ว่า เป็นเมืองอู่ข้าว อู่น้ำ มาแต่บรรพชน ทั้งช่วยเหลือเลี้ยงดูเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย มาโดยตลอด
ส่วนการศึกษาเมื่ออายุได้ 12 ปี ได้เข้ารับการศึกษาเบื้องต้น ในโรงเรียนวัดตะโก เพราะเด็กๆ ในสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนประถมศึกษาของทางราชการในละแวกตำบลดอนหญ้านาง ต้องอาศัยพระสงฆ์เป็นครูสอนบนศาลาการเปรียญของวัด จนมีความรู้อ่านออกเขียนได้ มีความรู้เทียบได้ชั้นประถมปีที่ 4 ก็ออกจากโรงเรียน
เมื่ออายุ 16 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดตะโก โดยมีพระสมุห์บุญช่วย เจ้าอาวาสเป็นพระอุปัชฌาย์ ในที่ครองเพศพรหมจรรย์ ท่านได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยในด้านพระคันถธุระ (พระปริยัติธรรม) สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี
อายุครบบวช ราว พ.ศ.2484 ก็อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดตะโก โดยมีพระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (หลวงพ่อชื่น) เจ้าอาวาสวัดภาชี เจ้าคณะอำเภอภาชีเป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดจ้อย เจ้าอาวาสวัดวิมลสุนทร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์บุญช่วย เจ้าอาวาสวัดตะโก (ในสมัยนั้น) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมณฉายาว่า ปาสาทิโก
ครั้นอุปสมบทแล้ว อยู่จำพรรษาที่วัดตะโกเรื่อยมา ได้ศึกษาด้านคันถธุระพระปริยัติธรรมเพิ่มเติม จนสอบได้นักธรรมชั้นโทใน พ.ศ.2485 และสอบได้นักธรรมชั้นเอกใน พ.ศ.2487