ตร.กองปราบ ประสาน 'พ่อ-แม่' ของน้องก้อย เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ "หญิงไก่" อดีตนายจ้าง ต่อพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น พรุ่งนี้ 10 โมงเช้า ด้าน รอง ผบก.ป.ชี้ สอบสวนเบื้องต้น เชื่อคดีมีมูลทางผู้ร้องทุกข์น่าจะถูกกลั่นแกล้ง 

จากกรณี นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย วัย 19 ปี นิสิตปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังถูกหญิงนายจ้าง ชื่อไก่ อายุประมาณ 50-60 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับบิดาและมารดาของน้องก้อย และน้องก้อยร่วมด้วย ในข้อหาลักทรัพย์ โดยอ้างว่ามีทรัพย์สินสูญหายไปรวม 11 รายการ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558 ทั้งนี้ ภายหลังที่มีการนำเสนอข่าวออกไป หญิงนายจ้างคนดังกล่าวได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจ โชว์หลักฐานเด็ดเป็น “ภาพวงจรปิด” ในวันเกิดเหตุ พร้อมยันความบริสุทธิ์ ขณะเดียวกัน ทางทนายสงกรานต์ ได้นำผู้เสียหายอีกราย คือ น.ส.วณิชยา บุ้นสุนเฮง หรือ น้องมีน บุตรสาวของนางสุกัญญา ศิริม่วง ผู้ต้องขังในเรือนจำ ที่ถูกอดีตหญิงนายจ้างคนดังกล่าวแจ้งดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน มาแจ้งความดำเนินคดี ทั้งนี้เบื้องต้นทางกองปราบปรามได้เร่งสอบปากคำสืบสวนหาข้อเท็จจริงตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 มิ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้ประสานให้พ่อและแม่ของน้องก้อยเดินทางเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษอดีตนายจ้างหญิง พร้อมกับสอบปากคำโดยละเอียด ในวันพรุ่งนี้ (1 ก.ค.) เวลา 10.00 น. ก่อนที่จะประสานไปยังพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น นำตัวพ่อและแม่ของน้องก้อยไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน ในกรณีที่ถูกอดีตนายจ้างแจ้งความดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ โดยจะมอบพยานหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่เชื่อว่า พ่อแม่ของน้องก้อยไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวอ้างมอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น พิจารณาปล่อยตัวโดยไม่ใช้หลักทรัพย์ในการประกันเพื่อต่อสู้คดีต่อไป

...

ขณะเดียวกัน ในส่วนผู้เสียหายอีกราย คือ นางสุกัญญา ศิริม่วง ซึ่งขณะนี้เป็นผู้ต้องหาถูกขังอยู่ในเรือนจำคลองเปรม พนักงานสอบสวน บก.ป. เดินทางไปสอบปากคำ นางสุกัญญา ในเรือนจำแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยรายละเอียดเป็นเรื่องของสำนวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวน สอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นเชื่อได้ว่า กรณีดังกล่าวมีมูลว่า เรื่องราวน่าจะเป็นไปตามที่ฝ่ายผู้เสียหายร้องทุกข์มาว่า ถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งรายละเอียดอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตนจึงไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะต้องรอความชัดเจน แล้วความจริงจะปรากฏ อย่างไรก็ตาม คดีที่เกิดขึ้น พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กำชับให้ตนและพนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการโดยเร็ว เนื่องจากเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และภายหลังที่มีการนำเสนอข่าวออกไป ได้มีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกนายจ้างในคดีดังกล่าวแจ้งความดำเนินคดีไว้ และมีหมายจับติดตัว ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัติหญิงนายจ้างคนดังกล่าว ได้มีการเปลี่ยนชื่อ-สกุล มาแล้วหลายครั้ง โดยแต่เดิมชื่อ นางสุชาดา หยกวิริยะกุล ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น นางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล และปัจจุบันมีการใช้ชื่อนางมณตา หยกรัตนกาญ อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาว่า อดีตนายจ้างคนดังกล่าว เกี่ยวโยงกับคดีดัง ในอดีตทุจริตเครื่องราชย์ นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ มีรายงานว่า ด้านหญิงนายจ้างคนดังกล่าว (นางมณตา หยกรัตนกาญ) ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปมูลค่าไม่ถึง 10 ล้าน ตามที่ตกเป็นข่าว แต่รายละเอียดว่า มีอะไรบ้าง อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารพยานหลักฐาน อีกทั้งคดีความที่เคยแจ้งความกับคนที่มารับใช้ ตอนนี้มีอยู่ด้วยกัน 4 คดี แต่ที่ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลมีเพียง 1 คดี ส่วนที่เหลือตนไม่ติดใจเอาความแล้ว พร้อมกับขอเวลาอีก 3 วัน จะออกมาแถลงข่าว เพื่อคลายคำถามที่สังคมสงสัย ทั้งในเรื่องส่วนตัว และเรื่องคดีความ ยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง เป็นไปด้วยความถูกต้อง และมีหลักฐานพร้อมชี้แจง.