พล.ต.สังกัดสำนักปลัดกห. คาหนังคาเขาในโรงแรมดัง เก็บค่าคุ้มครองรายละ2พัน เจ้าตัวอ้าง-ถูกมาเฟียแกล้ง

ทหารประสานตำรวจจับ “เสธ.เจมส์” พล.ต. ทหารสังกัดสำนักงานปลัดฯกลาโหมคาล็อบบี้โรงแรมย่านพัฒน์พงศ์ ขณะส่งลูกน้อง 4 คนเก็บเงินค่าคุ้มครองผู้ค้ารายละ 2,000 บาท จนผู้ค้าร้องเรียน คสช.ถึงพฤติกรรม วางแผนจับกุมโดยส่งสายปลอมเป็นผู้ค้าจ่ายเงินให้สมุนตามคำเรียกร้อง จากนั้นตามไปจนเห็นว่านำเงินไปส่ง แสดงตัวเข้าจับกุมได้พร้อมเงินของกลาง ขณะถูกส่งไปสอบสวนที่กองปราบฯเจ้าตัวโวยถูกกลั่นแกล้งจากมาเฟียพัฒน์พงศ์เดิมที่เสียผลประโยชน์

ทหารกวาดบ้านตัวเองวางแผนจับนายทหารยศ พล.ต.เรียกค่าคุ้มครองรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 30 ก.ค. เจ้าหน้าที่ทหารร้อย รส.สังกัด ม.พัน. 3 รอ.และ พล. ม.2 รอ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก ร่วมกันจับกุม พล.ต.เจนรณรงค์ เดชวรรณ หรือ “เสธ.เจมส์” ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้ต้องสงสัยขบวนการเรียกเก็บค่าคุ้มครองภายในตลาดพัฒน์พงศ์ ถนนพัฒน์พงศ์ แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. พร้อมของกลางเงินสดจำนวนหนึ่ง ลูกน้องที่เป็นคนเดินเก็บเงินอีก 4 คน บริเวณล็อบบี้โรงแรมตะวันนา ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม.

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการค้าย่านพัฒน์พงศ์ ทางสายด่วน 1111 ว่ามีขบวนการอ้างตัวเป็นทหารมาเรียกเงินเก็บค่าคุ้มครองภายในตลาดพัฒน์พงศ์ ซอย 1 จึงวางแผนให้สายลับแฝงตัวเป็นผู้ค้าภายในซอยดังกล่าว กระทั่งช่วงกลางดึกมีกลุ่มคนเดินมาเรียกเก็บเงินผู้ค้ารายละ 2,000 บาท ก่อนนำเงินไปส่งให้ พล.ต.เจนรณรงค์ที่นั่งรออยู่บริเวณล็อบบี้โรงแรมดังกล่าว เมื่อเห็นการเรียกเก็บเงินและนำเงินไปส่งหัวหน้าครบวงจรแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ สน.บางรัก จึงแสดงตัวจับกุมพร้อมของกลางทั้งหมด ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สน.บางรัก

...

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก และทหารชุดจับกุม ลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวน สน.บางรัก จากนั้นแจ้งนายทหารพระธรรมนูญและ ผบ.ม.พัน. 3 รอ.มาเชิญตัว พล.ต.เจนรณรงค์ไปสอบสวนอย่างละเอียดที่ พล.ม. 2 รอ. ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก หลังจากนั้นจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ดำเนินคดีต่อไป

ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม. 2 รอ.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเชิญตัว พล.ต.เจนรณรงค์ เดชวรรณ หรือ “เสธ.เจมส์” ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม กับพวก ประกอบด้วย น.ส.นงนุช สิทธิรัตน์ อายุ 44 ปี นายปานทอง ศิริวรรณ์ อายุ 40 ปี นางจันทิมา โชติกิตติเกษม อายุ 44 ปี และ น.ส.สุรัตน์ พุ่มพวง อายุ 46 ปี รวม 5 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ บก.ป.เพื่อให้ปากคำ หลังจากถูกร้องเรียนว่า มีส่วนพัวพันกับการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ พล.ต.เจนรณรงค์ เดินทางมาพร้อมรถตู้สีขาวและลงจากรถ เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารพยายามขอความร่วมมือสื่อมวลชนงดถ่ายภาพหรือขอสัมภาษณ์ใดๆ รวมทั้งตัว พล.ต.เจนณรณรงค์ก็พยายามหลบเลี่ยงไม่ให้ถูกถ่ายรูป จนกระทั่งเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. พร้อมกับพวกอีก 4 คน

ต่อมาญาติของ พล.ต.เจนรณรงค์เดินทางมาถึง บก.ป.ก่อนระบุสั้นๆ ว่า เรื่องนี้เป็นการกลั่นแกล้งกัน โดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ กับสื่อมวลชนมากกว่านี้ นอกจากนี้ ยังหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพ และถ่ายคลิปวีดิโอสื่อมวลชนที่มารายงานข่าวนี้ด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า พ.ท.บุรินทร์ ได้เชิญตัว พล.ต.เจนรณรงค์กับพวกที่ถูกร้องเรียนว่า มีส่วนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์ เขตบางรัก กรณีนี้เป็นนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการจัดการกับปัญหาดังกล่าว ผู้ที่ถูกกล่าวหามีทั้งหมด 5 คน เป็นพลเรือน 4 คน ในส่วนของพลเรือนจะกักตัวไว้ที่ห้องขัง บก.ป. ตามอำนาจ พ.ร.บ.กฎอัยการศึกเป็นเวลา 7 วัน ส่วน พล.ต.เจนรณรงค์ ฝ่ายทหารจะรับไปดำเนินการเองโดยควบคุมตัวในพื้นที่ทหาร

รอง ผบก.ป.กล่าวต่อว่า สำหรับพลเรือนทั้งหมด 4 คน เมื่อกักตัวไว้จนครบกำหนดแล้ว ทหารจะใช้ดุลพินิจว่า ข้อมูลประกอบกับพฤติการณ์ต่างๆของผู้ถูกกล่าวหาเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป เมื่อพิจารณาว่าเป็นความผิดและมีการร้องทุกข์ จึงจะเริ่มกระบวนการสอบสวน จากนั้นจะพิจารณาเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำว่าใครมีพฤติการณ์เป็นอย่างไร ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเกี่ยวข้องของ พล.ต.เจนรณรงค์กับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเรียกเก็บค่าคุ้มครองดังกล่าว และทำกันมานานแค่ไหน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า สำหรับข้อเท็จจริงต่างๆอยู่ระหว่างตรวจสอบพร้อมกับเอกสารหลักฐานต่างๆที่พบ ต่อข้อถามว่า นายทหารรายนี้เป็นหัวหน้าขบวนการหรือไม่ พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ตรงนี้คงต้องรอให้การสอบสวนเริ่มต้นดำเนินการก่อน ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลจึงเป็นเพียงการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนนโยบายของ คสช.และ พล.ต.เจนรณรงค์เองก็ยังไม่ได้ให้การ

ภายหลังพนักงานสอบสวน บก.ป.สอบปากคำ พล.ต.เจนรณรงค์กว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.เจนรณรงค์เผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีนี้สืบเนื่องจากตนได้รับร้องเรียนจากผู้ค้าย่านพัฒน์พงศ์ว่าถูกกลุ่มมาเฟียชุดเก่าเข้ามากดขี่ข่มเหง จึงเข้ามาจัดการกับปัญหา โดยจัดระเบียบให้ผู้ค้าในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้กลุ่มมาเฟียดังกล่าวเสียผลประโยชน์ จึงกลั่นแกล้งทำเรื่องร้องเรียนไปยัง คสช.เพื่อดำเนินการกับตน กรณีนี้ตนสามารถชี้แจงได้และเชื่อมั่นว่าผู้บังคับบัญชาจะรับฟังข้อเท็จจริงของปัญหา เรื่องนี้ตนจะต้องนำเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ต่อไป อยากฝากสื่อมวลชนเพื่อเป็นช่องทางที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้บังคับบัญชาว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของมาเฟียในพื้นที่เดิมเช่นเดียวกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

...

ที่ บช.น. พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูตร รอง ผบช.น. ดูแลงานป้องกันและปราบปราม เผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากท้องที่ สน.บางรัก แล้ว ตัวผู้ต้องหาทางกองบังคับการตำรวจปราบปรามนำตัวไปสอบสวนต่อ สำหรับเรื่องการเก็บค่าคุ้มครองหรือค่าแผงค้าของผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์ที่ผ่านมา บช.น.ยังไม่ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้ค้ามาก่อน อาจเป็นไปได้ที่เหล่าผู้มีอิทธิพลใช้ช่วงเวลาเหล่านี้เริ่มเข้ามาหากิน ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดในพื้นที่ หรือในนครบาล เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่พบ แต่ บช.น.ได้เน้นย้ำอย่างเข้มงวด ห้ามเจ้าหน้าที่เข้าไปเรียกรับเงิน หากพบและมีหลักฐานไม่เอาไว้แน่ หลังเหตุการณ์ครั้งนี้ได้กำชับตำรวจฝ่ายปราบปรามพื้นที่ทุกนายให้เข้มงวดตรวจตราหาข่าวอย่าให้มีผู้มีอิทธิพลอาศัยช่องว่างเข้ามาหากินกับประชาชน สำหรับประชาชนหากพบหรือทราบเรื่องก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้หรือแจ้งที่หมายเลข 1599 ได้ทันที