ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำคุก 'สนธิ ลิ้มทองกุล' 3 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่น 'นพดล' ไม่จงรักภักดี เทียบกับสุนัขทองแดงไม่ได้ พร้อมลงขอโทษใน นสพ. 3 วัน ...
ที่ศาลอาญา วันที่ 19 ก.ย. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่นายนภดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศ ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นโจทก์ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร กับพวกซึ่งเป็นบริษัทไทยเดย์ดอทคอม กับพวกบริษัทเมเนเจอร์กับผู้แทนนิติบุคคล อาทิ นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ ซี่งเป็นผู้เผยแพร่ข้อความทางอินเทอร์เน็ต เป็นจำเลยที่ 1 ถึง 8 ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา คดีนี้ศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายสนธิ 6 เดือนไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่เป็นนิติบุคคลให้ปรับรายละ 2 หมื่นบาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า การที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล พูดในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ หาว่าโจทก์ไม่จงรักภักดี เทียบกับสุนัขทองแดงไม่ได้ เป็นการใส่ความให้โจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และเป็นข้อความที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ กฎหมายจึงต้องห้ามไม่ให้นำสืบแก้ ส่วนข้อความว่าโจทก์เป็นทนายความ แต่ทำนอกหน้าที่ เป็นคนสนับสนุนทักษิณ ศาลเห็นว่าหากจำเลยเห็นว่าโจทก์กระทำผิดอย่างไร ก็ควรไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่จำเลยอ้างว่า กระทำไปเพื่อปกป้องสถาบันนั้น ศาลเห็นว่าคนไทยมีหน้าที่ปกป้องสถาบัน แต่การแสดงออกของจำเลยต้องไม่เป็นการล่วงละเมิดสิทธิ์ของคนอื่น ที่จำเลยอุทธรณ์อ้างว่า ศาลชั้นต้นให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและอีกหลายฉบับหลายวันเป็นการสิ้นเปลืองเกินความจำเป็น ศาลเห็นว่า แม้จะหมิ่นประมาทผ่านทางเว็บไซต์และวิทยุทีวี แต่การลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและฉบับอื่น ยังมีความจำเป็น แต่ให้ลดลงจาก 7 วัน เหลือ 3 วัน
...
ศาลอุทธรณ์ยังเห็นว่า จำเลยที่ 2 กับ 6 ที่เป็นนิติบุคคล ที่เผยแพร่ภาพเสียงคำพูดหมิ่นประมาท เป็นนิติบุคคลที่ต้องแสดงเจตนาผ่านผู้แทนนิติบุคคล แต่โจทก์ไม่พิสูจน์ให้เห็นว่า จำเลยที่ 3,4,5,7,8 ที่เป็นผู้แทนฯ มีเจตนาใส่ความโจทก์ด้วย ที่ศาลชั้นต้นลงโทษปรับ ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2-8 และนายสนธิ ขอลดโทษและรอการลงโทษนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้การที่โจทก์แสดงออกถึงการปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ประชาชนบางส่วนเห็นด้วย บางส่วนไม่เห็นด้วย แต่การแสดงออกถึงความไม่พอใจต้องอยู่ในกรอบ คำกล่าวของจำเลยที่ 1 เป็นการใส่ความผู้อื่นให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชังว่าเป็นคนไม่ดี ทำให้โจทก์เสียหายและเป็นการละเมิดต่อสิทธิ์โจทก์ แต่ฟังได้ว่าจำเลยไม่เกิดรู้จักโกรธเคืองกับโจทก์เป็นส่วนตัวมาก่อนและจำเลย มีอายุมากแล้ว มีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัว จึงสมควรลดโทษให้น้อยลง จึงพิพากษาแก้ให้จำคุก 3 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยอื่นให้ยกฟ้อง
หลังฟังคำพิพากษา นายตุลย์ กล่าวว่า คาดว่านายสนธิจะยื่นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายในประเด็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ ส่วนนายสนธิก็ขอยื่นประกันตัวในหลักทรัพย์เดิม.