ระทึก ถังออกซิเจนระเบิดสนั่นคาทาวน์เฮาส์ คร่าชีวิตหนุ่มลูกจ้างวัย 30 ถึงกับร่างขาด 2 ท่อน พยานยันบ้านเกิดเหตุเปิดเป็นร้านรับเติมออกซิเจนให้โรงงานอุตสาหกรรม ก่อนเกิดเหตุเห็นเหยื่อกำลังยกถังออกซิเจนลงจากรถกระบะ แต่เกิดหลุดมือถังตกกระแทกพื้นจนเกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหว เพื่อนบ้านติดกันรีบหนีออกจากบ้านกลัวระเบิดซ้ำ ตำรวจ เร่งตรวจสอบหาคนรับผิดชอบมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เหตุถังออกซิเจนระเบิดครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 พ.ค. พ.ต.ต.วชิรวิชญ์ วิสุทธิ์เสรีพันธุ์ สว. (สอบสวน) สน.หนองแขม รับแจ้งเหตุถังออกซิเจนระเบิดมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 464 หมู่บ้านเพชรเกษม 1 ชอยเพชรเกษม 77/8 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. รายงานผู้บังคับ บัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย พ.ต.อ.คงศักดิ์ ปานน้อย ผกก.สน.หนองแขม แพทย์เวรแผนกนิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หนองแขม ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม สน. หนองแขม และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ชาวบ้านเริ่มมามุงดูพร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุระทึก

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เปิดกิจการเป็นร้านขายส่งออกซิเจนชื่อ ห้างหุ้นส่วนศรีเรืองชัย จำกัด บริเวณหน้าบ้านใช้เป็นที่เก็บถังออกซิเจน มีรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีแดง ทะเบียน ณษ 4912 กรุงเทพมหานคร ท้ายรถกั้นคอกสูงภายในมีถังออกซิเจนวางเรียงอยู่กว่า 10 ถังจอดอยู่ ใกล้กันพบเศษซากถังออกซิเจนและข้าวของถูกแรงระเบิดกระจายทั่วบริเวณ ตัวบ้านและกันสาดพังยับ ที่ท้ายรถกระบะพบร่างนายบัณฑิต ประดุจชนม์ อายุ 30 ปี ชาว จ.มหาสารคาม ลูกจ้างรายวันของร้านดังกล่าว สภาพคว่ำหน้าร่างขาดครึ่งท่อนจากช่วงสะโพกเหลือเพียงท่อนบน หายใจรวยรินในชุดเสื้อยืดสีส้มจมอยู่ในกองซากถังออกซิเจน ชิ้นส่วนอวัยวะฉีกกระจายทั่วบริเวณ แต่ยังไม่เสียชีวิตตอนแรกยังพูดโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ได้ ต่อมาสิ้นใจในที่เกิดเหตุ

...

สอบสวนนายชัยวัฒน์ วรพจนพิสุทธิ์ อายุ 55 ปี เจ้าของกิจการและเจ้าของบ้านเกิดเหตุ เผยว่า ตนประกอบกิจการรับเติมออกซิเจนให้โรงงานอุตสาห กรรม หลังเก็บถังออกซิเจนมาแล้วจะนำไปเติมออกซิเจนที่โรงงาน ก่อนนำถังที่เติมแล้วกลับมาเตรียมส่งไปให้โรงงานอุตสาหกรรมอีกทอด ไม่ได้เติมออกซิเจนเองที่บ้าน ส่วนสาเหตุการเกิดระเบิด เป็นช่วงที่คนงานกำลังขนถังออกซิเจนเปล่าลงจากรถกระบะเพื่อนำไปเติมออกซิเจน แต่ไม่ทราบสาเหตุที่เกิดระเบิดว่าเป็นเพราะเหตุใด ปกติแล้วเป็นไปได้ยาก สันนิษฐานว่าถังที่ระเบิดอาจมีออกซิเจนหลงเหลืออยู่ภายใน

ด้านนายมานะ เข็ญภาค อาสาสมัครฐานบุญวิภา 11 เผยว่า สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตกำลังขนย้ายถังออกซิเจนลงจากรถกระบะ แต่ถังออกซิเจนเกิดหลุดมือตกลงไปกระแทกพื้นจึงเกิดระเบิดขึ้น ทำให้เกิดเหตุสยองดังกล่าว

ขณะที่เพื่อนบ้านอาศัยอยู่ติดกันเผยถึงเหตุระทึกขวัญว่า ช่วงเวลา 11.00 น. ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น ถึงขนาดทำให้บ้านตัวเองสะเทือน รีบบอกให้ทุกคนในบ้านออกมานอกตัวอาคารก่อนเพราะเกรงจะเกิดระเบิดซ้ำ ส่วนบ้านเกิดเหตุประกอบอาชีพจัดเก็บถังออกซิเจนจากโรงงานอุตสาหกรรมมาเติมกว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมากังวลอยู่บ้างว่าจะเกิดเหตุระเบิดขึ้นหรือไม่ หลังจากนี้อาจพูดคุยกับเจ้าของกิจการถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ถ้าเป็นไปได้อยากให้ย้ายออกจากพื้นที่

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะเชิญผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำอย่างละเอียด ถ้าพบความผิดใดจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตมอบให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งไปชันสูตรที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช ก่อนมอบให้ญาตินำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ต่อมาเวลา 15.00 น. นางมณีวรรณ ศรีสวัสดิ์ ผอ.เขตหนองแขม ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเผยว่า ตรวจสอบเบื้องต้นพบถังออกซิเจน 37 ถัง ถังคาร์บอน ไดออกไซด์ 16 ถัง และถังบรรจุแก๊สอะเซทิลีน 18 ถัง รวมทั้งหมด 71 ถัง ผู้ประกอบการระบุว่าเป็นถังเปล่าที่รับมาจากโรงงานอุตสาหกรรม นำมาเก็บเอาไว้เตรียมนำไปบรรจุสารเคมี และส่งกลับไปยังโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนถังเคมีที่ระเบิดทราบว่า เป็นถังที่บรรจุแก๊สอะเซทิลีน เป็นสารเคมีที่ใช้เชื่อมโลหะภาคอุตสาหกรรม เบื้องต้นไม่พบว่าขออนุญาตจัดเก็บสารเคมีอย่างถูกต้อง สำนักงานเขตจะรวบรวมพยานหลักฐานประสานพนักงานสอบสวนและกองพิสูจน์หลักฐานเตรียมดำเนินคดีเจ้าของกิจการ และสั่งให้ปิดพื้นที่เกิดเหตุทันที กำหนดให้เป็นพื้นที่อันตราย ประสานเจ้าของกิจการนำถังเคมีที่มีความเสี่ยง เช่น ถังแก๊สอะเซทิลีนออกจากพื้นที่ภายในวันนี้ ส่วนสาเหตุระเบิดต้องรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐาน

ด้านแฟนสาวของผู้เสียชีวิต (ไม่ขอเปิดเผยชื่อสกุล) เดินทางมาที่เกิดเหตุ อยู่ในอาการโศกเศร้ากล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรับจ้างส่งแก๊สมานานกว่า 10 ปีแล้ว เป็นเพียงแค่ลูกจ้างรับค่าแรงรายวัน เคยเตือนผู้เสียชีวิตเรื่องการสูบบุหรี่ แต่ยังไม่เชื่อว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดระเบิดครั้งนี้

ส่วน พ.ต.อ.คงศักดิ์ ปานน้อย ผกก.สน.หนองแขม เผยว่า ยังต้องรอข้อมูลจากสำนักงานเขตหนองแขม และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้นยังไม่มีเพื่อนบ้านที่ได้รับความเสียหายมาแจ้งความ หลังจากนี้ตำรวจจะเชิญ ผู้เห็นเหตุการณ์และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันจะร่วมกับสำนักงานเขต ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด และหามาตรการ เยียวยาผู้เสียหายและครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่