ถึงไทยแล้ว 2 โบราณวัตถุ ประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ “โกลเด้น บอย” และ “สตรีพนมมือ” หลังพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน สหรัฐอเมริกา นำส่งคืนเมื่อรู้ความจริงถูกลักลอบซื้อขายและนำออกจากแผ่นดินไทยอย่างผิดกฎหมาย กรมศิลปากร เตรียมมีพิธีรับมอบอย่างเป็นทางการบ่ายวันที่ 21 พ.ค. จากนั้นนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อศึกษาเก็บข้อมูล พร้อมเปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่ 22 พ.ค.นี้เป็นต้นไป
วันที่คนไทยรอคอยการกลับมาของโบราณวัตถุ 2 ชิ้นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิ้นที่มีการเรียกขานว่า “โกลเด้น บอย” ก็มาถึง โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ค.นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า กรณีพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน หรือเดอะ เมท (The Metro politan Museum of Art หรือ The MET) ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดส่งโบราณวัตถุชิ้นสำคัญจำนวน 2 รายการ กลับคืนสู่ประเทศไทย ประกอบด้วย 1.ประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ (The Standing Shiva) หรือ Golden Boy อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นรูปพระศิวะสวมเครื่องทรงแบบบุคคลชั้นสูง ถือเป็นโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยมพบไม่มาก ประติมากรรมสูง 129 เซนติเมตร มีเทคนิคการสร้างแบบพิเศษ คือหล่อด้วยสำริดและกะไหล่ทอง มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และ 2.ประติมากรรมรูปสตรีพนมมือ (The Kneeling Female) อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 มีความสูง 43 เซนติเมตร อยู่ในท่านั่งชันเข่า และยกมือไหว้เหนือศีรษะ แต่งกายแบบบุคคลชั้นสูง หล่อด้วยสำริด มีร่องรอยการประดับด้วยโลหะเงินและทอง ซึ่งหลังจากที่ทีมงานคนไทยใช้เวลาทวงคืนมายาวนานผ่านทางสถานกงสุลไทย ณ นครนิวยอร์ก เบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ว่าโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ มีกำหนดเดินทางถึงประเทศไทยในวันที่ 20 พ.ค. เวลา 07.00 น. หลังมาถึงตามกระบวนการจะต้องผ่านขั้นตอนทางศุลกากร และการตรวจสอบ โดยกรมศิลปากรจัดเตรียมเจ้าหน้าที่จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พร้อมทั้ง ทีมช่าง ภัณฑารักษ์ นักวิทยาศาสตร์ เข้าไปร่วมตรวจสอบความเรียบร้อย ร่วมกับเดอะ เมท จากนั้นจะนำขึ้นบนแท่นฐานที่เตรียมไว้ ก่อนเคลื่อนมาเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
...
นายพนมบุตรกล่าวว่า สำหรับพิธีรับมอบโบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน กลับคืนสู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จะมีขึ้นในวันที่ 21 พ.ค. เวลา 13.30 น. ที่พระที่นั่งอิสราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน อย่างไรก็ตาม การรับมอบโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการครั้งนี้ จะจัดพิธีรับมอบแบบสากลจากผู้แทนของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน จะไม่มีการจัดพิธีบวงสรวงเหมือนครั้งรับมอบทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว กลับคืนสู่ประเทศไทย เมื่อปี 2564
อธิบดีกรมศิลปากรกล่าวอีกว่า ส่วนการเก็บรักษาเบื้องต้นจะจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ มีความน่าสนใจ จะต้องมีการศึกษาเก็บข้อมูล ทั้งการจัดสร้าง หล่อด้วยสำริด และกะไหล่ทอง ทั้งนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มีเครื่องมือทันสมัยสามารถใช้ตรวจสอบรายละเอียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ช่วงนี้จึงยังไม่มีแผนย้ายไปเก็บรักษาไว้ที่อื่น อีกทั้งประชาชนที่สนใจสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.นี้เป็นต้นไป
ด้านนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้ต้อนรับการกลับมาของโบราณวัตถุชิ้นสำคัญสองรายการ จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน ทั้ง ประติมากรรมพระศิวะ “โกลเด้น บอย” และ ประติมากรรมสตรี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 ซึ่งกรมศิลปากรและกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการรับมอบอย่างเป็นทางการที่สนามบินสุวรรณภูมิ และแถลงข่าวร่วมแสดงความยินดีในวันที่ 21 พ.ค.จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมยินดีและต้อนรับการกลับมาของโบราณวัตถุ ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าสู่ประเทศไทย
สำหรับกำหนดการพิธีรับมอบโบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน สหรัฐฯ กลับสู่ประเทศไทยวันที่ 21 พ.ค. ที่พระที่นั่งอิสราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เริ่มเวลา 13.30 น. ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกรมศิลปากร และแขกผู้มีเกียรติพร้อมกันในพิธี จากนั้น น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ประธานในพิธี สักการะพระพุทธสิหิงค์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เวลา 14.00 น. เริ่มพิธีการรับมอบ โดยนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต้อนรับตัวแทนจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน สหรัฐฯ นาย John Guy ผู้แทนของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน กล่าวถึงความเป็นมาของการคืนโบราณวัตถุ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัด วธ. กล่าวรายงานการรับมอบโบราณวัตถุ และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม กล่าวแสดงความยินดีในการที่ประเทศไทยได้รับมอบโบราณวัตถุชิ้นสำคัญจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงวัฒนธรรม ได้ทำโปสเตอร์เพื่อเชิญชวนให้คนไทยร่วมกันต้อนรับประติมากรรมโกลเด้น บอย และประติมากรรมสตรีนั่งชันเข่าพนมมือสูง ที่กลับคืนสู่ประเทศไทย และจะเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กของกระทรวงฯ ขณะที่ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ได้โพสต์โปสเตอร์ดังกล่าวนี้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเชิญชวนคนไทยให้ร่วมชื่นชมประติมากรรมทั้ง 2 ชิ้นสำคัญนี้เช่นกัน โดยในโปสเตอร์นี้ นอกจากจะมีภาพของประติมากรรมโกลเด้น บอย พร้อมข้อความระบุว่า เตรียมรับกลับไทยแล้ว ยังมีเนื้อหาที่อธิบายว่า โกลเด้น บอย หรือรูปพระศิวะ เป็นประติมากรรมสำริด ศิลปะลพบุรี หรือศิลปะขอมในประเทศไทย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 หรือประมาณ 1,000 ปีที่ผ่านมา สันนิษฐานว่าถูกลักลอบขุดค้นจากปราสาทหินในเขตอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ และมีการลักลอบซื้อขายนำออกไปโดยผิดกฎหมายในปี พ.ศ.2518 ทั้งยังระบุถึงความสำคัญว่า เป็นหลักฐานแสดงถึงความเจริญของแผ่นดินไทยในอดีต ความงามของฝีมือช่าง และเทคโนโลยีชั้นสูงในการหล่อโลหะของคนโบราณ โดยเฉพาะเป็นของที่หาได้ยาก เป็นที่ยอมรับว่าเป็นโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยมที่มีคุณค่าระดับโลก ซึ่งหลังจากมีการลักลอบนำออกไปจากประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ประติมากรรมโกลเด้น บอย ได้ถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (The Met) สหรัฐอเมริกา กระทั่งมีการตรวจสอบยืนยันถึงที่มาของแหล่งกำเนิดจึงนำมาสู่การเสนอคืน โกลเด้น บอยกลับมาสู่ประเทศไทย
...
อีกด้านหนึ่งที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางนิล เป็ดสกุล อายุ 69 ปี ชาวบ้านบ้านโป่งสะเดา ต.ตาจง อ.ละหานทราย ผู้ขุดพบเทวรูปพระศิวะ “โกลเด้น บอย” และได้กล่าวเป็นภาษาเขมรผ่านล่ามแปลถึงวันที่เจอเทวรูปพระศิวะดังกล่าวว่า เมื่อปี 2518 ไปหามันหาเผือกกับสามี 2 คน บริเวณป่าละเมาะใกล้ๆ ปราสาทบ้านยาง ห่างบ้านประมาณ 3 กม. ใช้เสียมขุดลงไปคืบกว่าๆ ได้ยินเสียงกระทบกับวัตถุ ตอนแรกนึกว่าเป็นหิน ใช้เสียมขุดต่อจนไปเจอแขนถึงรู้ว่าเป็นเทวรูป หลังจากนั้นได้ไปตามชาวบ้าน 6-7 คน มาช่วยกันขุดรอบวง ยกไม่ขึ้น จึงตั้งขันธ์ 5 ขอขมา พอยกได้ก็หามกลับมาที่บ้านแล้วนำน้ำมาล้าง เป็นสีสว่างสดใสกลัวว่าจะมีเภทภัยเลยตั้งขันธ์ 5 อีกครั้ง
นางนิลเล่าอีกว่า จากนั้นเก็บไว้ที่บ้าน 2 วัน ได้ติดต่อกับตำรวจนายหนึ่งเพื่อจะติดต่อคนซื้อ โดยตำรวจคนนี้ได้พาไปหานายทุนอีกคนที่ อ.ลำปลายมาศ ก่อนจะพาไปที่ กทม.พร้อมกับเทวรูป ตั้งราคาขายกับฝรั่งตอนนั้น 1.6 ล้านบาท ใช้เวลาต่อรองนาน 2 เดือน ถึงขายได้ในราคา 1.2 ล้านบาท จากนั้นนำเงินมาแบ่งกัน พอกลับมาถึงบ้านได้ไม่นาน มีฝรั่งมาจ้างให้ไปขุดหาพระหาเทวรูปวันละ 50-100 บาท หลังจากนั้น 30 ปีต่อมา มีฝรั่งคนหนึ่งนำรูปภาพเทวรูปองค์นี้ให้ตนและสามีดู สามีถึงกับปล่อยโฮ เพราะกำไลแขนเป็นเพชร ตาเป็นเพชร มงกุฎที่ศีรษะ เป็นเพชร ส่วนเข็มขัด สร้อยสังวาล เป็นนิลที่เคยอยู่หายไปหมดแล้ว จากนั้นอีก 3 ปีต่อมา สามีได้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม หากจะนำเทวรูปโกลเด้น บอย กลับมาบุรีรัมย์จะดีใจมากหากได้กลับมาบ้านเก่า
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่