"หมอเหรียญทอง" แจงเหตุตบเด็ก 14 ย้ำ รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นเขตปลอดกุ๊ย ไม่ว่าใครสูบก็ทำแบบนี้ เพราะมีกฎระเบียบชัดเจน ยอมรับในส่วนที่ทำรุนแรง แต่ไม่คิดว่าทำเกินไป จากนี้จะขึ้นค่าปรับจาก 5 พัน เป็น 5 แสน


จากกรณีเด็ก 14 ถูกหมอเหรียญทองตบ ยึดโทรศัพท์ และสั่งให้แก้ผ้าเดินออกจากโรงพยาบาล เหตุเพราะแอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ ซึ่งแม่ของเด็กได้แจ้งความไปแล้วนั้น 

ล่าสุด เวลา 11.00 น. วันที่ 15 พ.ค. 67 ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ เปิดเผยว่า จากที่มีเยาวชนชายคนนึงอายุ 14 ปี มาสูบบุหรี่ที่แผนกผู้ป่วยนอก หรือโอพีดี ชั้น 1 อาคาร 3 ซึ่งเป็นอาคารใหม่ ส่งผลให้กลิ่นควันบุหรี่เข้าสู่ระบบปรับอากาศคละคลุ้งทั่วพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ป่วยที่รอรับการตรวจ และรู้กันดีอยู่แล้วว่าการสูดควันบุหรี่ที่เป็นสารก่อมะเร็งปอดมันอันตรายแค่ไหน

ทั้งๆ ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ก็ประกาศจัดการผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดรุนแรง และมีประกาศไว้ตามเสียงตามสายของ รพ.มงกุฎวัฒนะ ทุกๆ 2 ชั่วโมง แต่เยาวชนรายนี้ก็ยังฝ่าฝืน ซึ่งแฟนของเยาวชนรายนี้ได้เข้ารับการรักษาตัวใน รพ.มงกุฎวัฒนะ ด้วยสาเหตุทารกในครรภ์ไม่ดิ้น ทางโรงพยาบาลก็รักษาจนอาการดีขึ้น


ตนจึงได้จัดการเยาวชนรายนี้อย่างดุเดือดรุนแรง ตอนแรกเจ้าหน้าที่เรียกปรับ 5,000 บาท แต่เขาไม่มี จึงยึดโทรศัพท์ และเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งตนเลยมาจัดการ โดยตบไป 3-4 ครั้ง เตะไป 1 ครั้ง และสั่งให้แก้ผ้าออกไปจาก รพ. ซึ่งตนยอมรับผิดในส่วนนี้ และยอมรับว่าตั้งใจอนาจารเพื่อเป็นการสั่งสอน แต่หลังจากนั้นตนเห็นว่ามีแก๊งมอเตอร์ไซค์มาข่มขู่ขับรถเสียงดังหน้าทางเข้า รพ.มงกุฎวัฒนะ 6-7 คัน

ต้องบอกว่าการสูบบุหรี่ไม่ใช่แค่อันตรายต่อสุขภาพ แต่สร้างความสุ่มเสี่ยงต่ออัคคีภัย  สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโศกนาฏกรรม เพราะเคยเกิดเหตุอัคคีภัย ณ รพ.มงกุฎวัฒนะ มาแล้วถึง 2 ครั้ง ในปี พ.ศ.2558 และ พ.ศ.2564 ตนก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบ แต่คนก่อเหตุไม่โดนอะไรเลย 

...

ทางโรงพยาบาลประกาศต่อสาธารณะมาเสมอว่า เราไม่ง้อ ไม่สนผู้ใช้บริการที่เป็นกุ๊ยอันธพาลเกเร คิดจะฝ่าฝืนสูบบุหรี่ เกเร อวดเบ่งบุคลากรทางการแพทย์ กระทำอะไรตามอำเภอใจ ก็ขอเชิญไป รพ.อื่นที่ยอมรับได้ และต้องบอกว่า ตนทำแบบนี้กับทุกคนไม่ใช่แค่เยาวชนรายนี้ ถ้าทำผิดกฎ ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือยศใหญ่แค่ไหน ตนก็จะสั่งสอนแบบเดียวกัน 


แต่สำหรับ รพ.มงกุฎวัฒนะ มีผู้ใช้บริการที่รู้กฎระเบียบสังคมมาใช้บริการอย่างสบายใจ ตนไม่สนว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะตนคิดว่าเหมาะสม และตนไม่ทราบว่าเขาเป็นเยาวชน ซึ่งก็ยอมรับผิดในส่วนนี้ ถ้าจะโดนจับ ตนก็พร้อม แต่ต้องมีเหตุผลที่สมเหตุสมผล


ทั้งนี้ ตนขอประกาศว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นเขตปลอดภัยจากบุหรี่ รวมถึงปลอดกุ๊ยจากอันธพาลเกเรด้วย และจะเปลี่ยนจากค่าปรับ 5,000 บาท เป็น 500,000 บาท


อย่างไรก็ตามตอนนี้โทรศัพท์มือถือ และเสื้อผ้าของเยาวชนรายดังกล่าวยังอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าหลังจากนี้แม่ของเด็กจะมารับคืน ก็สามารถมารับได้เลย ตนไม่คิดค่าปรับเลยสักบาท และถ้าเขาจะดำเนินคดี ตนก็ให้ทำให้ถึงที่สุด ตนก็พร้อมสู้.