“บิ๊กโจ๊ก” ถอย ยื่น ป.ป.ช.ถอน คำร้องเอาผิดนายกฯอ้างไม่ติดใจ ดำเนินคดีแล้วแต่ยังคงเอาเรื่องพนักงานสอบสวนอยู่ “บิ๊กป๊อด” ป้อง “บิ๊กป้อม” ไม่เคยยุ่งตั้งองค์กรอิสระ อะไรผิด ไม่เคยช่วย อวย “พี่ชาย” ใจดีคนเข้าหาเยอะ ส่วน คนที่ไปหาจะทำอะไรไม่เคยยุ่ง “ทนายตั้ม” เคลื่อนไหวต่อ 2 บิ๊กตำรวจเอี่ยวฟอกเงินเว็บพนัน นัดสื่อแถลง สงสัยทำไมดำเนินคดี 2 มาตรฐาน เล่น “บิ๊กโจ๊ก” อุ้ม “บิ๊กต่อ” รับสนิทสนมบิ๊กโจ๊กหลายปี แต่วันนี้ ไม่มีเพื่อนพี่น้องเป็นการทำเพื่อชาติ ใครจะโกรธก็ต้องโกรธจะดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายให้ถึงที่สุด จวกตำรวจ หาหลักฐานให้ขนาดนี้ยังดำเนินคดีไม่ได้
กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ดับเครื่องชนบุกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นหลักฐานเอาผิดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง รวมทั้งพนักงานสอบสวนในความผิดตามมาตรา 157 หลังเจ้าตัวถูกดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินเว็บพนันและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระบุว่าถูกขบวนการกลั่นแกล้งเล่นงานสกัดไม่ให้เป็น ผบ.ตร.เพราะเป็นแคนดิเดตอันดับ 1 ขณะที่นายเศรษฐา สงสัยทำไมเพิ่งมาร้อง ยืนยันแต่งตั้ง ผบ.ตร.เป็นไปตามกฎหมายเป็นธรรมไม่ได้ลำเอียงเอื้อประโยชน์ใคร ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เผยไม่รู้จักกรรมการ ป.ป.ช. คนที่ตกเป็นข่าวเป็นการส่วนตัวรวมทั้งไม่ฟ้องคนปล่อยเอกสารหลุดให้ตรวจสอบตามขั้นตอนตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด “รองโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ถอยแล้วถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 เม.ย. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอถอนเรื่องที่ยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เมื่อวันที่ 22 เม.ย. กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 157 ในการสกัดกั้นไม่ให้เป็น ผบ.ตร. ขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจ ระบุเหตุผลว่า ไม่ติดใจจะดำเนินการเอาผิดนายกรัฐมนตรีแล้ว ส่วนกรณีการเอาผิดพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่ได้ยื่นถอน อย่างไรก็ตามกรณีการยื่นให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี แม้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะไม่ติดใจดำเนินการ แต่ ป.ป.ช.ยังต้องตรวจสอบต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เคยมายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรีในข้อกล่าวหาทำนองเดียวกัน เรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.
...
ต่อมาเวลา 09.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีมีเอกสารหลุดมีเนื้อหาพาดพิงว่าหนึ่งในกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อักษรย่อ ส. เคยขอให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ฝากเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า ไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้กับ พล.อ.ประวิตรเป็นการส่วนตัว เมื่อถามว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.ประวิตรที่เข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า “ลุงป้อมไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวหรอก มีแต่คนไปหา คนที่ไปหาจะดำเนินการอะไรหรือไม่ เชื่อว่าเขาไม่เคยยุ่ง”
เมื่อถามย้ำว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ระบุว่ามีหนึ่งในกรรมการ ป.ป.ช.ไปพบ พล.อ.ประวิตรจริง พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ให้ไปถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เอง เมื่อถามว่ามีบุคคลเข้าไปพบกับ พล.อ.ประวิตรบ่อยๆแต่ไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งใช่หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ใครก็ไปพบท่านเยอะ ท่านใจดี เมื่อถามย้ำว่าแต่จะช่วยเหลือเป็นอีกเรื่องใช่หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า อะไรที่ผิดจะช่วยเหลือได้อย่างไร เมื่อถามว่าเอกสารที่หลุดมาเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไปร้อง ป.ป.ช.ถือว่าสอดคล้องกันหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า จะสอดคล้องหรือไม่ขอให้ไปสอบถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
เวลาไล่เลี่ยกัน นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.กล่าวหานายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่มิชอบว่า นายกฯเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินไม่มีเวลาคิดไปกลั่นแกล้งใคร ส่วนนายกฯจะกังวลหรือไม่คงตอบแทนท่านไม่ได้ ส่วนตัวมองว่าเหตุมันมาจากไหนก็อยู่ตรงนั้น เราต้องดูพฤติกรรมในหลายเรื่อง เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ ป.ป.ช. เราไม่ไปก้าวล่วง นายกฯบริสุทธิ์อยู่แล้วเรื่องคดีอาญา ท่าน ไม่ได้แกล้ง ต้องถามว่ามีเหตุผลหรือแรงจูงใจอะไรที่นายกฯจะไปกลั่นแกล้งใคร ท่านไม่ยึดติดเรื่องตัวบุคคลเอาเรื่องงานเป็นหลัก แต่ถือเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย
เมื่อถามว่าทนายฝั่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ค่อนข้างมีชื่อเสียงกังวลหรือไม่ นายพิชิตกล่าวว่า อย่าไปคิดอะไรมาก สุภาษิตกฎหมายบอกว่า ไปศาลก็ไปด้วยความสุจริต เชื่อว่านายกฯยังไม่คิดเรื่องนี้ ท่านคิดแต่ว่าจะบริหารประเทศชาติอย่างไรให้ราบรื่นตามนโยบาย ที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา เมื่อถามว่าจากประสบการณ์ต่อสู้คดี ดูคำร้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์แล้วมีอะไรน่าหนักใจหรือไม่ นายพิชิตกล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม การใช้สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมถือเป็นเรื่องดี แต่ต้องพิจารณาด้วยว่ามีความเหมาะสมในการกล่าวหานายกฯหรือไม่
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆผ่านผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ถอนเรื่องที่ยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบกรณีละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้เหตุผลว่าไม่ติดใจจะดำเนินการเอาผิดกับนายกฯแล้วว่า เพิ่งทราบเรื่องว่ามีการถอนฟ้อง จากการรายงานข่าวของสื่อมวลชน เมื่อถามต่อว่าหลังจากเกิดกรณีดังกล่าวได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์บ้างหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่เคยคุย เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะดำเนินการต่อในเรื่องนี้อย่างไร นายเศรษฐายืนยันว่าจะไม่มีการกดดันไปยังฝ่ายใด และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
...
ต่อมาเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน ที่สำนักงาน Sittra Law firm อาคารเอ็มไพร์ อาคาร 2 ชั้น 24 ห้อง 2409 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน แถลงข่าวกรณี 2 บิ๊กตำรวจพัวพันคดีฟอกเงินเหมือนกัน แต่กลับถูกดำเนินคดีแบบ 2 มาตรฐานโดยกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนไม่ได้ทำเพื่อชาติ แต่เป็นการทำเพื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่สนิทสนมนานหลายปี ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีเรื่องเพื่อน พี่ น้อง เป็นการทำเพื่อชาติ ใครจะโกรธก็ต้องโกรธจะดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายให้ถึงที่สุด
พร้อมกันนี้นายษิทราได้เปิดแผนผังแสดงความเชื่อมโยงระหว่างบัญชีม้าจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ BNK Master ที่เชื่อมโยงไปถึงบิ๊กตำรวจทั้งสองคน โดยกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์พบว่ามีเงินจากเว็บพนันออนไลน์โอนเข้าบัญชีม้าที่ผู้ใต้บังคับ บัญชาถืออยู่ 4 บัญชี และโอนไปยังบัญชีครอบครัวรวมทั้งโอนไปยังโรงพยาบาลวิชัยยุทธ 4 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับครอบครัว และยังโอนเข้าไปยังบัญชีน้องชายและแม่เดือนละ 5 หมื่นบาท ร้านกาแฟ สนามยิงปืน ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำมันรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากาแฟ เป็นหลักฐานที่ดำเนินคดีอาญากับ พล.ต. อ.สุรเชษฐ์ได้อย่างแน่นอน แต่เรื่องของวินัยไม่ทราบรายละเอียดขั้นตอน มองว่าเป็นการทำงานแบบเป็นขบวนการเร่งรัดให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที ก่อนที่ตำรวจจะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.อีกครั้ง
ทนายตั้มกล่าวต่อว่าขณะที่การดำเนินคดี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์นั้น ได้นำพยานหลักฐานทั้งเส้นทางการเงินและอื่นๆไปร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.เตาปูน และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บก.ปปป.) แต่ยังไม่มีความคืบหน้า พนักงานสอบสวนอ้างว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินและตรวจสอบต้นทางของบัญชีต่างๆมองว่าเป็นการดำเนินการสองมาตรฐานของตำรวจ พร้อมตั้งคำถามว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. และพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.จะกล้าดำเนินคดีผู้บังคับบัญชาคือบิ๊กต่อหรือไม่ ทั้งที่หลักฐานที่นำไปส่งให้นั้นชัดเจนว่าโอนเงินจากบัญชีม้าไปยังภรรยา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และเครือญาติชัดเจน ทั้งยังพบว่าเงินถูกใช้จ่ายเป็นค่านิติบุคคลให้กับคอนโดมิเนียม 3 แห่ง รีสอร์ตหรูชื่อดังที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรถยนต์อีกหลายคันแต่ไม่ขอระบุว่าเจ้าของอสังหาฯดังกล่าวเป็นใคร เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหาครอบครัว
...
นายษิทราย้ำว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ต้นทางมาจากที่เดียวกันคือบัญชีม้าบัญชีหนึ่งชื่อณัฐพงศ์ มีเงินเข้าจากเว็บไซต์การพนันออนไลน์เฉพาะบัญชีนี้เดือนละ 80 ล้านบาท ยอดรวมทั้งหมดมีมากกว่า 800 ล้านบาท เงินจากบัญชีนี้ถูกโอนต่อเป็นทอดเชื่อมโยงปลายทางคือบัญชีเครือญาติและคนสนิท พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ในลักษณะเดียวกันกับกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กับไม่ถูกให้ออกจากราชการ ไม่ถูกออกหมายเรียกและหมายจับ แถมยังไม่ถูกค้นบ้าน ไม่ถูกตรวจสอบโทรศัพท์เป็นเหตุให้ตั้งข้อสงสัยว่า การดำเนินการของพนักงานสอบสวนมี 2 มาตรฐาน พร้อมตำหนิการทำงานพนักงานสอบสวน ว่า “หลักฐานขนาดนี้ดำเนินคดีไม่ได้ก็ไปชิงหมาเกิด”
นายษิทราตั้งคำถามอีกด้วยว่า การที่ไม่มีใครกล้าดำเนินคดี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เนื่องจากมีเบื้องหลังดีหรือไม่ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีก็ไม่กล้ายุ่งเช่นกัน ขอให้ประชาชนช่วยสนับสนุนตนด้วย เพราะตนไม่มีแบ็กยอมตาย เสียสละทำเพื่อชาติ ในอนาคตอาจจะโดนยิงตายก็ได้ ถ้าทำให้ส่วยน้อยลงอาจได้ขึ้นสวรรค์ ตอนนี้ตนมีครบทุกอย่างแล้ว ต่อไปนี้จะทำเพื่อประชาชนเพราะใส่เสื้อทนายประชาชนแล้ว ใครที่โทรศัพท์มาปรึกษาคดีในหมายเลขโทรศัพท์เดิมจะไม่คิดเงินอีกต่อไป หากหลักฐานที่ยื่นไปเป็นเท็จก็ดำเนินคดีกับตนได้
นายษิทรากล่าวอีกว่า วันพุธที่ 24 เม.ย. เวลา 10.00 น.จะนำข้อมูลเส้นทางการเงิน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ไปให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติที่ บก.ปปป. บิ๊กเต่าจะอยู่พบหรือไม่ก็ไม่เป็นไร ให้ดูการกระทำของตนที่กล้าเอาผิดกับทั้ง 2 ฝั่งเป็นตัวอย่าง ในวันพฤหัสนี้จะไปพบพนักงานสอบสวนที่ สน.เตาปูนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย คดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ที่มีความผิดจากการรับเงินเว็บพนันออนไลน์นั้น เชื่อว่าผิดจริงในฐานะทนายความมองว่าค่อนข้างจะเหนื่อยแล้วแต่ต้องเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้คดีต่อไปศาลจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งนี้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ตนอ้างว่าได้รับข้อมูลมาสักพักแล้ว เพิ่งมาประมวลข้อมูลช่วงสงกรานต์ตั้งใจจะนำไปแถลงก่อน ก.ตร.แต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนจึงไม่ได้ดำเนินการตามที่ตั้งใจ
...
ตอนท้ายนายษิทรา ได้เอาแว่นขยายเปิดไฟมาส่องเอกสารที่ใช้แถลงข่าว พร้อมบอกว่าเริ่มเหมือนพี่ชูวิทย์เข้าไปทุกทีแล้ว
เย็นวันเดียวกันมีรายงานว่า บริเวณหน้าห้อง สำนักงานรอง ผบ.ตร. ชั้น 1 อาคาร 1 ตร. ตรงข้ามกับหน้าห้องรับรองเป็นห้องทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ปกติจะติดป้ายชื่อไว้บริเวณประตูห้อง แต่ขณะนี้ป้ายชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถูกปลดออกแล้ว คาดว่าถูกนำออกหลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ลงนามในหหนังสือคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ออกจากราชการไว้ก่อน หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์เครือข่าย BNK Master และมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ไปเมื่อวันที่ 18 เม.ย. นอกจากป้ายชื่อจะถูกปลดออกแล้วพบว่าประตูห้องถูกล็อกและไม่มีตำรวจปฏิบัติงาน จากการสอบถามตำรวจสันติบาลที่เข้าเวรประจำการเกี่ยวกับการปลดป้ายชื่อ อ้างว่าไม่รู้ว่านำออกวันไหนมาเข้าเวรก็ไม่เห็นแล้ว และไม่เห็น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือทีมงานเข้ามาสำนักงานหรือขนย้ายสิ่งของออกจากห้องทำงานแต่อย่างใด
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังพบว่า เว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (www.royalthaipolice.go.th) ถอดรูป “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากทำเนียบผู้บังคับบัญชา ระดับ รอง ผบ.ตร. เป็นที่เรียบร้อย ทำให้ปัจจุบันมี รอง ผบ.ตร. 4 คน คือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.), พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ออกมาแถลงเปิดโปงขบวนการรับส่วยพนันและเส้นทางการเงินที่พาดพิงถึง ด.ต.อภิชาต สุวรรณเพ็ชร กก.1 สอท.2 (ดาบยาว) และ พ.ต.ท.สุรกุล ธัญสิริดำรง รอง ผกก.กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.2 (รองฟาง)ว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการ ส่วนกรอบระยะเวลาจะต้องดูที่คณะทำงานที่นายกรัฐมนตรี และชุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งขึ้นว่ามีใครใน บช.สอท. เกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความซับซ้อน เมื่อถามว่านอกจากทั้ง 2 คนนี้จะมีคนอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ พล.ต.ท.วรวัฒน์ ระบุว่า มีข้อมูลที่เสนอเข้ามา แต่ไม่ได้ส่งมาที่ บช.สอท. แต่ส่งไปที่ บก.ปปป. และ สน.เตาปูน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่