ชาวบ้านที่ จ.สุโขทัย ยื่นหนังสือร้องกองปราบฯ ฝากเงินกับสหกรณ์การเกษตรฯ ถอนคืนไม่ได้ อ้างเหตุปล่อยกู้ไม่สามารถเก็บเงินคืนได้ เสียหายรวมกันกว่า 170 ล้านบาท แถมขู่อยากได้ต้องรอ-ถ้านำเรื่องร้องสื่อไม่ได้เงินคืน จะได้แค่สังกะสีคนละแผ่น 

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 ก.ย.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ/ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาชาวบ้านจากจังหวัดสุโขทัยกว่า 20 คน มายื่นหนังสือร้องเรียนขอให้กองปราบฯตรวจสอบสหกรณ์การเกษตรแห่งหนึ่ง หลังชาวบ้านมีการฝากเงินกับสหกรณ์ฯ ปรากฏว่าเมื่อถอนเงินคืนกลับไม่สามารถถอนได้ เนื่องจากสหกรณ์ฯนำไปปล่อยกู้ แล้วไม่สามารถเก็บเงินกลับคืนมาได้ เสียหายกว่า 170 ล้านบาท

โดย ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า กรณีนี้ ตนตั้งไว้ 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การปลอมเอกสาร 2.ใช้เอกสารปลอม 3.ยักยอกเงินสหกรณ์ เบื้องต้นจึงพาทางกลุ่มผู้เสียหายมาร้องขอความช่วยเหลือที่กองปราบฯ เพราะดูแลเรื่องนี้โดยตรง ในคดีนี้ตนเข้าใจว่าคดีนี้เป็นพื้นที่ จ.สุโขทัย จึงทำให้การตรวจสอบเป็นไปได้ลำบาก เพื่อให้เกิดความยุติธรรมต้องให้หน่วยงานภายนอกเข้าไป

จากการตรวจสอบพบว่า มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นรวมกว่า 100 ล้านบาท โดยรายละเอียดในบัญชีตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรเลย ตอนนี้รู้ว่าเรื่องนี้มีปัญหากันมาตั้งแต่ปี 2561 ผ่านมากว่า 5 ปี ทำไมยังแก้ปัญหาให้ชาวบ้านตรงนี้ไม่ได้ ตอนนี้ก็คือทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการทำอะไรเลย ส่วนเรื่องที่จะเอาผิดกับผู้จัดการนั้น ต้องตรวจสอบว่าผู้จัดการที่มีการปล่อยกู้ทำถูกต้องตามระเบียบของสหกรณ์หรือไม่ หรือมีใครอนุมัติหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ทางสหกรณ์จังหวัดจะรู้วิธีการตรวจสอบ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ดำเนินคดีต่อ ซึ่งสหกรณ์จะมีการประชุมรายปีจะต้องเปิดเผยรายรับรายจ่ายทั้งหมดเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว จะอ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ ในกรณีนี้หากชาวบ้านไปแจ้งความ ทางสหกรณ์จะมีความผิด คือ ยักยอกทรัพย์

...

ด้าน นางเรไร หนึ่งในชาวบ้านผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนฝากเงินกับสหกรณ์ดังกล่าว เพราะว่าแม่ของตนเคยฝากเงินกับสหกรณ์นี้แล้วไม่มีปัญหา ประกอบกับที่ตั้งทำการของสหกรณ์อยู่ใกล้บ้าน จึงได้เริ่มฝากเงินกับสหกรณ์ตามแม่มาตั้งแต่ปี 2558 ตลอดมาจนกระทั่งปลายปี 2562 เพื่อนบ้านที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันได้มาบอกกับตนว่า ให้ลองไปถอนเงินกับทางสหกรณ์ดู เพราะมีข่าวว่าทางสหกรณ์ไม่มีเงินแล้ว เนื่องจากมีการทุจริตกันภายใน ตอนแรกตนก็ไม่เชื่อ แต่พอลองไปถอนเงินดูก็ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้ทางสหกรณ์ไม่มีเงิน อยากได้ก็ต้องรอ และถ้านำเรื่องที่เกิดขึ้นไปร้องเรียนกับสื่อก็จะไม่ได้เงินคืน แต่จะได้สังกะสีคนละแผ่น

"ตนมีเงินฝากกับสหกรณ์เป็นเงิน 2.64 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นเงินเก็บจากการค้าขายและทำไร่อ้อยมาทั้งชีวิต แต่กลับมาถูกโกงจนตอนนี้ไม่มีเงินไปลงทุนค้าขายหรือทำไร่เหมือนก่อน ต้องมารับจ้างทำงานทั่วไปแทน เพราะไม่มีเงินที่จะทำทุน และทางสหกรณ์บอกไม่มีเงินให้ถอน และอยากได้เงินคืนเพราะตอนนี้ไม่มีเงินใช้แล้ว จึงตัดสินใจรวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่นมาร้องเรียน เพื่อให้ทางทนายช่วยเหลือ หากครั้งนี้ไม่สำเร็จตนก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อไปทำไม" หนึ่งในชาวบ้านผู้เสียหาย กล่าว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป