แสนสิริจัดให้ - อภิชาติ จูตระกูล รักษาการ กก.ผจก.ใหญ่ แสนสิริ มอบเงินจำนวน 500,000 บาท ในนามมูลนิธิเสริมกล้า ให้ สราวุธ วัชรพล เพื่อสมทบทุนมูลนิธิไทยรัฐ โดยมี ภิญญาพัชญ์ ห่วงนาค, สมชาย กรุสวนสมบัติ และ พรพรรณ พจนพริ้ง มาร่วมในพิธีด้วย ที่ สนง.นสพ.ไทยรัฐ วันก่อน.
ทะเลที่เรียบสงบ หาใช่ว่าจะไม่มีคลื่นใต้น้ำ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2566
- “ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน... สภาผู้แทนราษฎร เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง ระบบเขตเลือกตั้ง 400 เขต และ ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ปล่อยผีเต็มจำนวน 500 ส.ส. เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเปิดให้บรรดาว่าที่ ส.ส.รับใบรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต. เพื่อเข้ารายงานตัวที่สภาผู้แทนราษฎรถึงวันที่ 24 มิ.ย.นี้...โดย แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. สำทับว่า หลังการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และบัญชีรายชื่อไปแล้ว กกต. ยังมีอำนาจพิจารณาการสืบสวนไต่สวนตามมาตรา 138 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยหลังการเลือกตั้งหากมี หลักฐาน ที่เชื่อได้ว่าได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต กกต. จะยื่นคำร้องต่อ ศาลฎีกา เพื่อ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และ สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง...ทั้งนี้ การที่ กกต. ประกาศรับรองผลไปก่อนเนื่องจากกระบวนการสืบสวนสอบสวน ผู้ถูกร้องเรียน อาจดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และเห็นว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากมีการอ้างพยานหลักฐานเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้มี ส.ส.ที่มีเรื่องร้องเรียนอยู่ 82 คน...สรุปแม้ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ไปแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่สะเด็ดน้ำ ยังมีอำนาจตามสอย ส.ส.ที่มีปัญหาการทุจริตเลือกตั้งได้อีกกระทอก
...
...
- แต่แน่นอน เมื่อประกาศรับรอง ส.ส. ครบ 500 คน แล้ว ก็ถือว่าเริ่มนับหนึ่งอย่างเป็นทางการในกระบวนการที่จะไปสู่การเปิดประชุม สภาฯ เพื่อเลือก ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประชุมร่วม รัฐสภา เพื่อเลือก นายกรัฐมนตรี รวมทั้งการจัดตั้ง รัฐบาลชุดใหม่ เข้ามาบริหารประเทศ...เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ได้ชี้แจงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีถึงปฏิทินเวลาในการได้ รัฐบาลชุดใหม่ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบว่า เมื่อ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ครบ 100% ได้เร็ว ขั้นตอนต่อไป ส.ส. ต้องไปรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎรภายในวันที่ 28 มิ.ย. หลังจากนั้นจะมี รัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา และจะมีการเปิดประชุม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาฯ เบื้องต้นคาดว่าเป็นวันที่ 6 ก.ค. เสร็จแล้ว ประธานรัฐสภา จะเรียกประชุมร่วมทั้งสองสภา เพื่อเลือก นายกรัฐมนตรี โดยขึ้นอยู่ที่ ประธานรัฐสภา ว่าจะนัดประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีช่วงไหน แต่คาดว่าจะเป็นวันที่ 13 ก.ค. และหากทุกอย่างเรียบร้อยคาดจะมีการแต่งตั้ง คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ในวันที่ 21 ก.ค. และ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ ในช่วงปลายเดือน ก.ค. ทั้งหมดเป็นเพียงแค่กรอบเวลาตามกฎหมาย ยังระบุวันที่แน่ชัดไม่ได้ โดย คณะรัฐมนตรีชุดนี้ ยังต้องทำงานจนกว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะถวายสัตย์ปฏิญาณตนถึงจะสิ้นสุดการทำงาน
...
- งานนี้ถึงแม้เป็นไทม์ไลน์คร่าวๆ แต่ก็ชัดเจนขึ้นว่าใกล้ได้ลุ้นเห็นโฉมหน้า นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แล้ว ส่วนจะเป็นใคร จะใช่คนชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือไม่ ยังต้องลุ้นกันว่าจะสามารถล็อบบี้ ส.ว. ได้ถึง 64 เสียง ให้มาโหวตสนับสนุนเพิ่มแต้มให้ผ่านเกณฑ์ 376 เสียง ได้หรือไม่ เพราะลำพัง พรรคก้าวไกล และ 7 พรรคร่วม ที่ทำเอ็มโอยูร่วมรัฐบาล มี ส.ส.อยู่แค่ 312 เสียง...ด่านหินด่านโหดที่เป็นหัวใจสำคัญอยู่ตรงนี้แหละ
...
- อืม...การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและการต่อรอง การจัดตั้ง รัฐบาล 8 พรรค ภายใต้การนำของ พรรคก้าวไกล ที่ดูเหมือนว่าจะราบรื่นเพราะมีการทำเอ็มโอยูร่วมกันไว้ แต่เมื่อสถานการณ์เดินมาถึงจุดที่ต้องเจรจา เกลี่ยตำแหน่ง ทั้งเก้าอี้ ประธานสภาฯ และ โควตากระทรวง อย่างเป็นการเป็นงานตามเงื่อนเวลาไทม์ไลน์ในการจัดตั้งรัฐบาลที่เริ่มงวดเข้ามา ก็เริ่มเห็นปรากฏการณ์วางเกมต่อรองกันหนักขึ้น โดยเฉพาะพรรคแกนนำอันดับหนึ่งอย่าง พรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคอันดับสอง มี ส.ส.ห่างกันอยู่แค่ 10 เสียง
- ก่อนหน้านี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงท่าทีโอนอ่อนพร้อมที่จะยกตำแหน่ง ประธานสภาฯ ให้แก่ พรรคก้าวไกล โดยยกหลักการว่าประธานสภาฯควรเป็นของพรรคอันดับหนึ่ง อ้างต้องยอมถอยให้เพื่อทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยความราบรื่น...แต่ล่าสุดในการสัมมนา ส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตำแหน่ง ประธานสภาฯ โดย อดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดประเด็นว่า ไม่เห็นด้วย และไม่สามารถให้ตำแหน่งประธานสภาฯกับพรรคก้าวไกลได้ เมื่อเกิดความขัดแย้งก็โหวตกันในสภา ไม่อยากเห็นพระบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาส...ขณะที่เสียงส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซ็นต์ ของ ส.ส.141 คน ต่างมองว่าประธานสภาฯควรเป็นของ พรรคเพื่อไทย ไม่ควรยกให้ พรรคก้าวไกล เพราะ ส.ส.น้อยกว่าเพียง 10 เสียง ฉะนั้นควรแบ่งตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อการถ่วงดุลในการทำงาน แม้จะมีกล่าวอ้างกระแสสังคม โดยเฉพาะ แฟนคลับพรรคก้าวไกล แต่ต้องไม่ลืมความรู้สึกของ แฟนคลับพรรคเพื่อไทย ที่มีกว่า 10 ล้านเสียง เช่นกัน...แม้งานนี้เป็นแค่การแสดงความเห็นของ ส.ส. ยังไม่ใช่ข้อสรุปที่เป็น มติพรรค แต่ก็ถือเป็นหัวเชื้อสำคัญที่จะไปสู่การออกมาเป็น มติพรรค ที่ส่อไปถึงขั้น ปล่อยฟรีโหวต...การเดินหมากเกมนี้ถือว่าเขี้ยวในชั้นเชิงต่อรองตำแหน่ง แต่จะลามไปถึงขั้น ฉีกเอ็มโอยูพลิกขั้วกันหรือไม่ ต้องติดตามห้ามกะพริบตานะจ๊ะ
- สังคมทั่วไป...ศพ คุณแม่นับ เลิศไกร มารดา สินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ ตั้งสวดวัดกลางใหม่ ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี 19.00 น. 23 มิ.ย.คืนสุดท้าย พระราชทานเพลิง 24 มิ.ย. 15.00 น.
- ฌาปนกิจศพ คุณแม่น้อย พรหมพิพัฒ มารดา ดาราวรรณ พรหมพิพัฒ วัดโสมนัสฯ 24 มิ.ย. 14.00 น.
"ธนูเทพ"