เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้หารือกับสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักปลัด กทม. ในการพิจารณาการออกข้อบัญญัติ กทม. เกี่ยวกับการให้รถยนต์สาธารณะเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า (รถอีวี) ได้หรือไม่ ทั้งนี้ จากที่ไปดูงานที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พบว่า เมืองมีอำนาจในการควบคุมรถยนต์ที่จะเข้าในตัวเมือง โดยมีการกำหนดมาตรฐานในการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ แต่ที่กรุงเทพฯการกำหนดเรื่องมลพิษต่างๆเป็นหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และตำรวจ อย่างไรก็ตาม กทม.พยายามจะนำรถอีวีมาใช้งาน แต่จะต้องดูความเป็นไปได้ประกอบกันด้วย โดยเฉพาะ 2 เรื่อง คือ 1.เงินที่จะลงทุนและ 2.ความคุ้มค่า

นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม. มีโครงการเช่ารถเก็บขนขยะทดแทน รถเก็บขนขยะเดิม โดยจัดสรรงบ 4,040,582,028 ล้านบาท ของปีงบประมาณ 2566 เพื่อเช่ารถจัดเก็บขยะมูลฝอย 692 คัน ระยะเวลา 5 ปี แบ่งเป็นรถเก็บขนขยะมูลฝอย 5 ตัน 464 คัน 2,372,596,800 บาท รถเก็บขนมูลฝอยแบบอัดขนาด 2 ตัน 152 คัน 658,436,184 บาท รถแบบยกภาชนะ ขนาด 8 ลบ.ม. จำนวน 124 คัน 575,885,016 บาท รถแบบยกภาชนะขนาด 3 ลบ.ม. 102 คัน 387,989,028 บาท ทั้งนี้ ได้ให้สำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) เปิดกว้างในการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ (สเปก)ให้ครอบคลุมรถประเภทใช้น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ หรืออีวี เพื่อให้สามารถเข้าร่วมการประมูลได้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการใหม่ที่จะเช่ารถจัดเก็บขนมูลฝอยขนาดเล็ก เป็นสามล้อไฟฟ้า 50 คัน วงเงิน 45,675,000 บาท เพื่อทดแทนเจ้าหน้าที่ที่ต้องใช้แรงคนในการลากขยะจากจุดพักขยะมายังจุดที่รถจัดเก็บขยะสามารถเข้าถึงได้ด้วย.

...