ตำรวจ บก.ปปป.หอบสำนวนคดีอธิบดีกรมอุทยานฯเรียกรับสินบน ส่ง ป.ป.ช. ผู้การเต่า-พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ยันมั่นใจพยานหลักฐาน ด้านเลขา ป.ป.ช.พร้อมตั้งองค์คณะไต่สวน คาดใช้เวลาสอบเสร็จไม่ถึง 1 ปี ถ้าพยานหลักฐานชัดเจน แนะ จนท.เป็นพยานต้องให้การตามความจริง เตือนข้าราชการคอร์รัปชัน ผลกรรมจะตามไปได้เสมอแม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว “ดำรงค์ พิเดช” จวกนายกฯ ทำเรื่องเงียบ เตรียมแถลงใหญ่ในสภา
ตำรวจ บก.ปปป.ส่งสำนวนจับอธิบดีอุทยานฯ เรียกทรัพย์สินให้ ป.ป.ช.แล้ว เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ม.ค. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับสินบนโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด ว่า สำนวนคดีขณะนี้แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เมื่อเช้าที่ผ่านมา มอบหมายให้ พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผกก.1 บก.ปปป. นำสำนวนคดีทั้งหมดรวม 2 แฟ้ม ของกลาง 21 รายการ ไปส่งมอบให้ ป.ป.ช. เข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมาย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวต่อว่า เบื้องต้นจนถึงตอนนี้ยังคงมีการดำเนินคดีแค่ในข้อหา “เป็นเจ้า พนักงานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งโดยไม่ชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต” แต่หากพบพยานหลักฐานอื่นเพิ่ม อาจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในภายหลัง ขั้นตอนหลังจากนี้อาจตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารนาร่วมกันระหว่าง ป.ป.ช., ป.ป.ท. และตำรวจ บก.ปปป. เนื่องจากเป็นคดีละเอียดอ่อน ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ อย่างไรก็ตาม ถึงตอนนี้ยังคงมั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะสามารถเอาผิดได้อย่างแน่นอน
...
วันเดียวกันที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยในงานเสวนา “ส่วยสินบน บทเรียนกรมอุทยานฯ บทเรียนข้าราชการไทย” ว่า ขณะนี้ได้รับการประสานจาก บก.ปปป.จะนำตัวนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และพยานหลักฐานทั้งหมดที่รวบรวมไว้นำมาส่งมอบให้ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพราะว่าเรื่องกล่าวหาเรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริต อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช. เและจะรับเรื่องไว้ไต่สวนเอง จะพิจารณาเบื้องต้นในการรับเรื่องและอาจจะพิจารณาว่าจะควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาคือนายรัชฎาไว้หรือจะให้ประกันตัวหรือไม่
นายนิวัติไชยกล่าวอีกว่า หลัง ป.ป.ช.รับเรื่อง ถ้ามีมติดำเนินการไต่สวน จะแต่งตั้งกรรมการขึ้นเป็นองค์คณะในการไต่สวน กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี ขยายได้ไม่เกิน 1 ปี แต่เรื่องนี้ถ้าตำรวจรวมทั้งกรณีการเข้าไปตรวจพิสูจน์หลักฐานครั้งแรกถ้าพยานหลักฐานชัดเจนพอ คิดว่าไม่น่าจะเกิน 1 ปีหรืออาจจะเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับพยาน คดีนี้อยากฝากว่าการให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์ต่อ ป.ป.ช. มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือการกันบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดไว้เป็นพยาน ถ้า ป.ป.ช.มีมติกันไว้เป็นพยานแล้วบุคคลไม่ต้องรับผิดทั้งอาญาและวินัย ฝากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชั่งน้ำหนักในเรื่องนี้ ถ้าให้การไม่ถูกต้อง ไม่ตรงความจริง หรือให้การเท็จ นอกจากจะตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ยังจะตกอยู่ในสภาพที่มีส่วนร่วมในการทำความผิดด้วย
“การทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้มีเฉพาะในกรมอุทยานฯอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นในหลายหน่วยงาน ทั้งนี้ ผู้ปฏิบัติงานต้องไม่ยอมก่อนและกล้ายอมรับความจริง ต้องไม่ทำผิด เพราะสุดท้ายแล้วผลกรรมจะตามไปได้เสมอแม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว ตนเห็นคนอายุ 70 ที่ยังต้องขึ้นศาลและติดคุกอยู่” เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าว
ด้านนายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคทวงคืนผืนป่าและอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า อยากฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีให้สั่งการไปยัง รมว.ทรัพยากรฯให้คืนความชอบธรรมให้กับข้าราชการกรมอุทยานฯ 300 กว่าตำแหน่ง ภายใน 30 วัน นายกฯเป็นทหารเสือราชินี ตามเสด็จตลอดเรื่องป่าเรื่องธรรมชาติทราบดีที่สุด จะทำนิ่งเฉยไม่ได้ แต่วันนี้นายกฯเงียบเฉยจนเรื่องหายไปแล้ว ตนอยากเข้าพบนายกฯเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ อยากเล่าเรื่องกรมอุทยานฯให้ฟังทั้งหมด ขณะที่ รมว.ทรัพยากรฯก็ต้องให้นโยบาย แต่วันนี้ยังเงียบเฉยอยู่ สังคมก็เริ่มไม่ไว้วางใจท่านแล้ว แต่ถ้าไม่ทำตนจะแถลงใหญ่ในสภา