"กรมประมง" แก้ระเบียบ-ประกาศ ลดขั้นตอนอำนวยความสะดวกให้ประชาชน "ถาวร" เผย ปี 65 พร้อมขยายบริการ e-Service เดินหน้าพัฒนา Biz portal เต็มรูปแบบ 9 กระบวนงาน 

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 64 ดร.ถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ในฐานะผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Chief Change Officer : CCO) ได้ขับเคลื่อนกรมประมงเพื่อมุ่งสู่ระบบราชการ 4.0 ที่มีเป้าหมาย เพื่อให้ภาครัฐมีความน่าเชื่อถือเป็นที่ไว้วางใจ และเป็นที่พึ่งของประชาชน การปรับเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลเป็นเป้าหมายของระบบราชการ 4.0 กรมประมงจึงได้พัฒนาประสิทธิภาพการบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะงานการออกใบอนุญาต เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ในด้านบริการประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐ ที่มุ่งเน้นให้มีความทันสมัย สามารถตอบสนองความต้องการ และแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน 

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวต่อว่า ในปี 2564 กรมประมงมีกระบวนงานบริการตามคู่มือประชาชน จำนวนทั้งสิ้น 51 กระบวนงาน และขณะนี้ยังคงเดินหน้ายกระดับคุณภาพการบริการให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการทบทวนกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ เพื่อภาระของผู้รับบริการ โดยมีประกาศ/ระเบียบที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขจำนวน 4 ฉบับ ตามข้อเสนอของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้แก่ 1.ประกาศกรมประมง เรื่องหลักเกณฑ์และข้อปฏิบัติในการส่งออก หรือนำผ่านสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ พ.ศ.2561 2.ประกาศกรมประมง เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต และการอนุญาตนำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ พ.ศ.2560 3.ระเบียบกรมประมงว่าด้วยการขอรับใบรับรองสุขอนามัยผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ พ.ศ.2547 และ 4.ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการตรวจสอบของพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ด่านตรวจสอบอาหารสัตว์ พ.ศ.2560 นอกจากนี้ กรมประมงอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงระเบียบ ประกาศกรมประมงที่เป็นอุปสรรคการอนุญาต อีกจำนวน 7 ฉบับ 

...

"ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กรมประมงได้มีมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยให้ขยายเวลาหรืออายุของทะเบียน หนังสือรับรอง ใบรับรอง หรือหนังสือประกาศรับรอง อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิดฯ จำนวน 16 เรื่อง ซึ่งสามารถแบ่งเบาภาระให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ ที่มีความจำเป็นต้องต่อใบอนุญาตได้มากกว่าครึ่ง เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับจำนวนที่ออกในปีที่ผ่านมา" รองอธิบดีกรมประมง กล่าว 

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวต่อว่า กรมประมงยังมีนโยบายปรับรูปแบบการให้บริการสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อควบคู่ไปกับการลดขั้นตอนการให้บริการ โดยได้พัฒนาระบบ e-Service มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 จะมีการเปิดเพิ่มระบบการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ในงานที่เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาต การออกใบรับรองเกี่ยวกับอาหารสัตว์น้ำ การขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายทางการประมง รวมทั้งสิ้น 10 กระบวนงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวต่อว่า ในปี 2565 กรมประมงมีเป้าหมายจะยกระดับกระบวนงานบริการให้เข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบ นับตั้งแต่การยื่นคำขอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การชำระเงินผ่านช่องทาง e-payment และการออกใบอนุญาตโดยได้รับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ โดยสำนักงาน ก.พ.ร. ได้คัดเลือกกระบวนงานของกรมประมง จำนวน 9 กระบวนงานให้อยู่ในแผนดำเนินโครงการพัฒนาระบบการให้บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จทางอิเล็กทรอนิกส์ (Biz Portal) ได้แก่ 1.การออกใบอนุญาตให้ทำการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองที่เป็นสัตว์น้ำ (สป.9) 2.การออกใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (สป.11) 3.ใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (สป.15) 4.การขึ้นทะเบียนและต่ออายุเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ทบ.1) 5.การขึ้นทะเบียนและต่ออายุ ผู้ประกอบการด้านการประมง (ทบ.2) 6.การออกใบอนุญาตขายอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ (อาหารสัตว์น้ำ) 7.การประกาศรับรองให้ออกหนังสือกำกับการจำหน่ายพันธุ์สัตว์น้ำ 8.การประกาศรับรองให้ออกหนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์น้ำ 9.มาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี (GAP) สำหรับฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำ (ปลาทะเล) ให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยทุกกระบวนงานจะให้บริการยื่นคำขออนุญาตแบบบูรณาการ โดยใช้แบบฟอร์มคำขออนุญาตแบบ Single Form และส่งหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์เพียงชุดเดียวโดยไม่ต้องส่งเอกสารต้นฉบับ ระบบจะเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลในการอนุญาตระหว่างหน่วยงานภาครัฐเป็นการบูรณาการใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ 

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. ได้คัดเลือกกระบวนงานของกรมประมง เพื่อเสนอของบประมาณจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการจัดทำต้นแบบ (Prototype) การรับคำขอหรือให้บริการในรูปแบบดิจิทัลได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน (24/7) โดยกระบวนงานของกรมประมงที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุน ได้แก่ ระบบการรับรองมาตรฐาน GAP ประมง และงานขึ้นทะเบียนสถานประกอบการส่งออกสัตว์น้ำ 

"กระบวนงานเหล่านี้จะขับเคลื่อนให้มีระบบที่เชื่อมโยงกับหลายหน่วยงาน เพื่อบูรณาการข้อมูลร่วมกัน นับเป็นการให้บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยให้ประชาชนและผู้รับบริการทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย หลากหลายช่องทาง สะดวก และรวดเร็ว ทั้งยังสามารถตรวจสอบได้ สร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน ยกระดับการให้บริการไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลได้ในอนาคต" รองอธิบดีกรมประมง กล่าว.