ผวาอาเพศ คราบสีแดงคล้ายเลือดไหลอาบองค์เทวรูปพระคลังในพระคลังมหาสมบัติ องค์จำลองประดิษฐานที่กระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่ชี้แจงเป็นคราบสนิมจากหลอดไฟที่เสียหยดลงมาจากฝนตกหนักในช่วงนี้ ไม่ใช่คราบเลือด บรรดาข้าราชการและประชาชนที่พบเห็นพากันหวาดวิตกเป็นลางร้าย หรือกระทรวงการคลังถังแตกตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัย นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติชี้องค์เทพเทวดาแจ้งเตือนเพศภัยที่จะเกิดขึ้นกับการเงินการคลังของประเทศ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ผู้เกี่ยวข้องต้องเตรียมพร้อมรับมือช่วง “ราหูค้นทรัพย์”
เรื่องราวชวนหวาดผวาครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลัง ตั้งอยู่เลขที่ 14 ถนนพระรามที่ 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ว่า เทวรูปพระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ องค์จำลอง เกิดคราบสีแดงคล้ายเลือด ไหลอาบตั้งแต่บนพระเศียรลงมากลางพระพักตร์ไหลผ่านพระอุระลงไปปลายพระบาทจนถึงฐาน เหมือนมีคนจงใจเอาเลือดหรือสีไปป้าย สร้างความหวาดวิตกให้บรรดาข้าราชการและประชาชนที่พบเห็นพากันจับกลุ่มพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานาว่าจะเป็นลางร้ายหรือเกิดอาเพศขึ้นในกระทรวงการคลังหรือไม่ หรือกระทรวงการคลังจะถังแตกจริงตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัย เนื่องจากช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ค่อยดี กระทรวงการคลังมีปัญหาเรื่องเงินงบประมาณรายจ่าย จัดเก็บรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ไม่มีเงินจ่ายเงินค่าประกันรายได้ให้กับชาวนา จนนำไปสู่การขยายกรอบวินัยการเงินการคลัง
...
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังได้รับคำชี้แจงว่า คราบสีแดงดังกล่าวเป็นคราบสนิมที่ไหลลงมาจากหลอดไฟที่เสีย แล้วหยดลงตรงเศียรองค์เทวรูปพระคลัง ไม่ได้เป็นคราบเลือดแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นมาแล้ว 1 ครั้ง คราบสนิมเกิดขึ้นมาจากฝนที่ตกหนักในช่วงที่ผ่านมา เมื่อเห็นคราบดังกล่าวเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะมาเช็ดทำความสะอาดองค์เทวรูปพระคลังให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม เช่นเดียวกับเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดคราบสนิมไหลลงมาติดอยู่ที่องค์เทวรูปพระคลังเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำความสะอาดแล้ว หากจะต้องรื้อหรือซ่อมแซมใหม่ก็ต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
สำหรับเทวรูปพระคลังในพระคลังมหาสมบัติเป็นองค์จำลอง มีลักษณะเป็นเทวดาหล่อยืนทรงเครื่องกษัตริยาธิราช สวมมงกุฎยอดชัย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว ประดิษฐานบนพระวิมานบริเวณลานพระบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 5 อยู่ฝั่งซ้ายมือประตู 2 ทางเข้ากระทรวงการคลัง เป็นที่ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง อาทิ องค์พระพรหม ศาลพระภูมิเจ้าที่ เทวรูปพระคลัง พระบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 5 บรรดาข้าราชการที่ผ่านเข้าออกจะกราบไหว้ขอพรให้ทำงานประสบความสำเร็จก้าวหน้า รวมถึงมีโชคด้านการเงิน เช่นเดียวกับทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ รัฐมนตรีช่วยคนใหม่ รวมถึงการแต่งตั้งข้าราชการ ตั้งแต่ตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมต่างๆ เมื่อได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งใหม่ก็จะมากราบสักการะทุกครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล ข้าราชการกระทรวงการคลังทุกคนจะรู้ว่า เทวรูปพระคลังศักดิ์สิทธิ์จริงๆ และจะเรียกกันว่า “เจ้าพ่อคลัง”
ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์สอบถามนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง และนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อได้ทั้งสองคน
นายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า พระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ เป็นเทพที่ดูแลรักษาคลังสมบัติของแผ่นดิน เหตุการณ์ลักษณะนี้ถือเป็นลางสังหรณ์ถึงเหตุไม่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้น เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีหน้าที่ปกปักรักษาคุ้มครองต้องการเตือนล่วงหน้าเพื่อให้คนที่ดูแลปกครอง หรือรับผิดชอบประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการเงินการคลัง เงินตรา เศรษฐกิจของชาติ ให้รับรู้ภัยที่จะเกิดขึ้น จะได้มีความรอบคอบ เตรียมตัวเตรียมใจเตรียมพร้อมรับมือกับอุปสรรคด้านการเงินการคลัง
นายภิญโญกล่าวด้วยว่า ขณะนี้พระราหูโคจรอยู่ที่ราศีพฤษภ เป็นเรือนชะตาที่ 2 ของดวงเมืองที่เรียกว่ากดุมภะ แปลว่าการเงินการคลัง ราหูอยู่ตรงนี้เรียก “ราหูค้นทรัพย์” มีเท่าไหร่ก็ค้นออกมาใช้จ่ายจนไม่เหลือ ต้องไปกู้เงินทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เกิดปัญหาทางการเงินเกิดหนี้สินมากมาย ราหูจะอยู่ตรงนี้ถึงวันที่ 30 มี.ค.65 ทำให้เกิดอุปราคาในเรือนการเงินเมื่อวันที่ 19 พ.ย. และจะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงตรงราศีพิจิกในภพมรณะดวงเมืองในวันที่ 4 ธ.ค. ตามความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเตือนภัยก่อนจะเกิดเหตุการณ์ความเสียหาย ความรุนแรง หรืออุบัติภัย เพราะท่านสงสารมนุษย์จึงเตือนให้รู้ล่วงหน้าจะได้เตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ด้านร้ายที่จะเกิดขึ้น จะเชื่อหรือไม่เชื่อฟังไว้บ้างก็ดี โดยเฉพาะคนที่ดูแลเศรษฐกิจการเงินการคลังควรต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ด้านอาจารย์เชียง-ปัญญวิชญ์ พิบูลธนาภิรมย์ หมอดูชื่อดังเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือมนุษย์กระทำเพราะช่วงนี้มีกระแสทางการเมือง ไม่ใช่ลางร้ายใดๆ หากเป็นลางบอกเหตุต้องเกิดจากสิ่งที่เป็นธรรมชาติเหนือการควบคุม เช่น ผึ้ง ตัวต่อขึ้นไปทำรัง หรืองูขึ้นไปเลื้อยคดตัว และพระคลังก็เป็นองค์จำลอง เปรียบเหมือนศาลเทวาอารักษ์จำลองเท่านั้น คนทำอยากให้เกิดกระแสโจมตีเพื่อสั่นคลอนจิตใจของคนในชาติ เพราะพระคลังหมายถึงเงินทอง อยากให้มองในแง่ดีว่าเราควรถือโอกาสนี้ทำความสะอาดพระคลัง เมื่อเปื้อนก็ต้องล้างด้วยปัญญา
...
สำหรับเทวรูปพระคลังองค์จริง เป็นประติมากรรมลอยตัวหล่อด้วยสำริดปิดทอง ขนาดความสูงประมาณ 12 นิ้ว ประดิษฐานอยู่ภายในอาคารสำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน บริเวณเขตพระราชฐานชั้นนอก ในพระบรมมหาราชวัง สันนิษฐานว่าอาคารหลังนี้เคยเป็นที่ตั้งของพระคลังมหาสมบัติ เทวรูปพระคลังมีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจน และไม่พบหลักฐานหรือเอกสารที่กล่าวถึงประวัติการสร้าง มีเพียงประวัติที่เล่าสืบต่อกันมาว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เรียกเทวรูปองค์นี้สืบต่อกันมาว่าพระคลัง บ้างนิยมเรียกกันว่า “เจ้าพ่อคลัง” ปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า “พระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ” เป็นเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักรักษาทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน