“ดีเอสไอ” บุกบ้านรวบหนุ่มผู้ต้องหาเปิดกลุ่มไลน์ส่วนตัวให้เลขล็อก แอบอ้างได้เลขเด็ดล่วงหน้าจากกองสลาก ตะลึงเหยื่อหลงเชื่องวดละนับพันคน เก็บหัวละ 800-1,000 บาท ฟันเงินสดเข้ากระเป๋างวดละ 5 แสนถึง 1 ล้านบาท ความเสียหายเกือบ 40 ล้านบาท อายัดทรัพย์สินทั้งบ้าน ที่ดิน รถสปอร์ตหรูบีเอ็มแซด 4 นาฬิกา เครื่องประดับ และเงินสดในบัญชีธนาคาร 33 บัญชี ตรวจสอบผอ.กองสลากยันไม่เคยให้เลขหรือล็อกเลขตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง
ชุดสืบสวนดีเอสไอทลายแก๊งหลอกลวงรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 มิ.ย. พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ ร่วมกับ พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงข่าวจับกุมนายจาตุรงค์ งามเลิศศิริชัย อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาคดีพิเศษที่ 3/2564 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 981/2564 ลงวันที่ 23 มิ.ย.64 ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 หลอกลวงให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้เลขรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล 2 ตัว 3 ตัว ที่ถูกรางวัลล่วงหน้าในงวดถัดไปที่จะออกรางวัลและเรียกรับผลตอบแทน เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหายประมาณ 37 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาที่บ้านผู้ต้องหาถนนพุทธมณฑลสาย 4 รวมทั้งเข้าตรวจค้นบ้านเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม พบทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดจำนวนมาก
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลร้องทุกข์ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด กรณีมีเอกสารที่กลุ่มมิจฉาชีพจัดทำขึ้นโดยแอบอ้างใช้ตราสัญลักษณ์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และแอบอ้างชื่อ ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกระทำความผิด หลอกลวงประชาชนโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจะให้เลขสลาก 2 ตัว 3 ตัวที่ถูกรางวัลจากสำนักงานสลากกินแบ่งฯล่วงหน้าในงวดถัดไปและเรียกรับผลตอบแทน ส่งข้อความชักชวนประชาชนทั่วไปผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ด้วยการใช้บัญชีโซเชียลมีเดียได้แก่ บัญชีแอปพลิเคชันไลน์ และบัญชีเฟซบุ๊ก ทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและประชาชนได้รับความเสียหาย
...
พ.ต.ท.กรวัชร์เผยอีกว่า สำหรับวิธีการหลอกลวงผู้เสียหาย ผู้ต้องหาจะสร้างกลุ่มไลน์โดยใช้ตราสัญลักษณ์ของกองสลากเป็นรูปโปรไฟล์ จากนั้นนำไลน์ดังกล่าวติดลิ้งโฆษณาในเว็บไซต์ต่างๆรวมไปถึงเฟซบุ๊ก เมื่อเหยื่อหลงเชื่อคลิกเข้าไปสอบถามข้อมูล ผู้ต้องหาจะอ้างว่า ต้องแอดเข้ากลุ่มไลน์เฉพาะหรือกลุ่มไลน์วีไอพีก่อน โดยเสียค่าใช้จ่ายการเข้ากลุ่มรายละประมาณ 800-1,000 บาท เมื่อเหยื่อหลงเชื่อเข้ากลุ่มไลน์ผู้ต้องหาจะพูดคุยส่งข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับกองสลากเพื่อโน้มน้าวใจให้เหยื่อหลงเชื่ออีกรอบ อ้างว่าจะให้เลขที่จะถูกรางวัลแต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มจนเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ผู้ต้องหาอีกรอบ ขั้นตอนนี้ผู้ต้องหาจะคุยผ่านไลน์ส่วนตัวเพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อรายอื่นไหวตัวทัน หลังจากโอนเงินรอบนี้ ผู้ต้องหาจะส่งเลขที่อ้างว่าถูกรางวัลไปให้ หรือบางรายไม่ได้รับเลขอย่างที่กล่าวอ้าง จากการตรวจสอบแต่ละงวดมีผู้เสียหายไม่น้อยกว่า 1,000 ราย ผู้ต้องหาจะได้รับเงินแต่ละงวด 500,000-1,000,000 บาท
“พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอและคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวจนพบพยานหลักฐานว่า ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พบบัญชีธนาคารที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย 9 บัญชี มีเงินหมุนเวียนประมาณ 37 ล้านบาท จากการเข้าตรวจค้นที่พักผู้ต้องหาสามารถยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้หลายรายการ ประกอบด้วย บ้านพร้อมที่ดิน เงินสดมูลค่า 5.5 ล้านบาท บัญชีธนาคาร 33 บัญชี รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู แซด 4 รถ จยย.ฮอนด้า ฟอร์ซ่า 350 รถ จยย.เวสป้า ปืน 9 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน พระเครื่อง นาฬิกาและเครื่องประดับมีค่าหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังจากนี้เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงนำพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามขั้นตอนกฎหมาย ก่อนสรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็นทางคดีส่งอัยการ” อธิบดีดีเอสไอกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการสร้างความเสียหายให้กับกองสลากเป็นอย่างมาก ทั้งชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือต้องออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้หน่วยงาน การหลอกลวงลักษณะนี้เหยื่อจะถูกหลอกเอาเงินจำนวนไม่มาก ทำให้เหยื่อบางรายไม่อยากเอาเรื่อง แต่อย่าลืมว่าการหลอกลวงผ่านโซเชียลสามารถชักจูงเหยื่อได้ทั่วประเทศ ทำให้จำนวนเหยื่อที่หลงเชื่อมีมาก ดังนั้น เม็ดเงินที่ผู้ต้องหาได้จะมากตามไปด้วย ทำให้ผู้ต้องหาได้ใจและก่อเหตุซ้ำๆ เชื่อว่าผู้ต้องหาก่อเหตุมานานมากแล้ว ถ้าดูจากทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ อยากฝากเตือนประชาชนที่หลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพนี้ว่ากองสลากไม่ได้ล็อกเลขหรือให้เลขตามที่ถูกกล่าวอ้าง