ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา ให้ กสทช. คืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ทีวีดิจิทัลให้บริษัทไทยทีวี ของเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล กว่า 151 ล้านบาท พร้อมคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคาร จำนวน 16 ฉบับ
วันที่ 9 มี.ค. ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาในคดีที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด ยื่นฟ้อง กสทช. กรณีมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการ กสทช. คืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่แก่บริษัท ไทยทีวี จำกัด จำนวน 151,730,755.58 บาท และให้คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำนวน 16 ฉบับ ที่บริษัทไทยทีวี จำกัด วางเพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ของงวดที่ 2 ถึงงวดที่ 6 ให้แก่ผู้ฟ้องคดี
หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้จำนวนเงินตามหนังสือค้ำประกันที่ไม่สามารถคืนได้นั้นให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
นายจำกัด ชุมพลวงศ์ รองโฆษกศาลปกครอง กล่าวถึงกรณีศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ กสทช.คืนเงินค่าใบอนุญาตสัมปทานทีวีดิจิทัลให้กับบริษัท ไทยทีวี จำกัด หลังยกเลิกสัญญาสัมปทาน ว่า แม้เหตุผลที่ศาลใช้ประกอบการพิพากษาดังกล่าว มาจากปัญหาการจัดการที่ไม่พร้อมของ กสทช. ในเวลานั้นที่มีประเด็นข้อพิพาท แต่ไม่ใช่จะมาเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลในปัจจุบัน สามารถเป็นเหตุในการฟ้องคดีในขณะนี้ เพื่อขอคืนค่าสัมปทานเหมือนกรณีบริษัทไทยทีวี จำกัด ได้ เพราะศาลก็ต้องพิจารณาเงื่อนไขในการรับความเดือดร้อนเสียหาย รวมทั้งปัจจุบัน ก็มีคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ให้ผู้ประกอบการสามารถคืนสัมปทานได้ โดยได้รับเงินชดเชย