ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากทั่วโลก เพิ่มขึ้น 1 แสนราย มาอยู่ที่ 7,119,736 ราย เสียชีวิต 406,542 ศพ รักษาหายแล้ว 3,293,975 ราย จากการรายงานของศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เมื่อเวลา 12.33 น. วันที่ 9 มิ.ย.

  • สหรัฐฯ ยังคงมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต อันดับ 1 ของโลก ภายในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 1.9 หมื่นราย มาอยู่ที่ 1,961,185 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 586 ศพ มาอยู่ที่ 111,007 ศพ ขณะที่นักวิจัยมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ประมาณการยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 145,728 ราย ภายในเดือน ส.ค.นี้ เพิ่มขึ้นกว่า 5,000 ราย โดยรัฐเทกซัส มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาลในอัตราสูงสุด รวมถึงรัฐมิชิแกน และรัฐแอริโซนา

  • บราซิล กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในทวีปอเมริกาใต้ จำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดอันดับ 2 ของโลก เพิ่มขึ้น 1.8 หมื่นราย มาอยู่ที่ 707,412 ราย เสียชีวิต 37,134 ศพ ส่วนประเทศอื่นในทวีปอเมริกาใต้ ยังคงจับตาเปรู อันดับ 8 ของโลก โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อแซงหน้าเยอรมนีไปแล้ว เพิ่มขึ้น 3 พันกว่าราย มาอยู่ที่ 199,696 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 106 ศพ มาอยู่ที่ 5,571 ศพ ขณะที่ชิลี อันดับ 13 ของโลก เพิ่มขึ้น 4 พันกว่าราย อยู่ที่ 138,846 ราย เสียชีวิต 74 ศพ มาอยู่ที่ 2,264 ศพ



  • จำนวนผู้ติดเชื้อในรัสเซีย อยู่อันดับ 3 ของโลก ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 9 พันราย มาอยู่ที่ 476,043 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 111 ศพ มาอยู่ที่ 5,963 ศพ ตามมาด้วยอังกฤษ อันดับ 4 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 พันกว่าราย มาอยู่ที่ 288,834 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 55 ศพ มาอยู่ที่ 40,680 ศพ รองจากสหรัฐฯ

  • อินเดีย มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 5 ของโลก แซงหน้าสเปนไปแล้ว โดยศูนย์กลางการระบาดอยู่ที่เมืองมุมไบ ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงรุนแรงมากสุดในเอเชีย โดยเพียงแค่วันเดียวมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 8 พันกว่าราย มาอยู่ที่ 266,598 ราย เสียชีวิต 266 ศพ มาอยู่ที่ 7,473 ศพ

  • ขณะที่นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ ประกาศให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว หลังผู้ติดเชื้อในประเทศกลายเป็นศูนย์ และไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ต่อเนื่องติดต่อกันนาน 17 วัน นับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา

  • สถานการณ์ในกลุ่มประเทศอาเซียน สิงคโปร์ ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในอาเซียน โดยภายในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 386 ราย มาอยู่ที่ 38,296 ราย เสียชีวิตคงที่ 25 ศพ ตามมาด้วยอินโดนีเซีย ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 847 ราย สูงสุดในรอบวันของอาเซียน มาอยู่ที่ 32,033 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 32 ราย มาอยู่ที่ 1,883 ศพ และฟิลิปปินส์ ตัวเลขผู้ติดเชื้ออันดับ 3 ในอาเซียน ภายในวันเดียวผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 579 ราย มาอยู่ 22,474 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 8 ศพ มาอยู่ที่ 1,011 ศพ

  • มาเลเซีย อันดับ 4 ในอาเซียน ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 7 ราย มาอยู่ที่ 8,329 ราย เสียชีวิตคงที่ 117 ศพ ขณะที่เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 3 ราย มาอยู่ที่ 332 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต เมียนมา ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 2 ราย มาอยู่ที่ 244 ราย เสียชีวิตคงที่ 6 ศพ บรูไน ผู้ติดเชื้อคงที่ 141 ราย เสียชีวิตคงที่ 2 ศพ กัมพูชา ผู้ติดเชื้อคงที่ 126 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และสปป.ลาว ผู้ติดเชื้อคงที่ 19 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต



  • ไทยอันดับที่ 83 ของโลก และอันดับ 5 ในอาเซียน โดยภายในรอบ 24 ชั่วโมง พบผู้ป่วยใหม่ 2 ราย ซึ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,121 ราย หายป่วยแล้ว 2,973 คน เสียชีวิตคงที่ 58 ศพ

  • ขณะที่ จ.ภูเก็ต ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ติดต่อกันนานกว่า 15 วัน ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อภูเก็ต มีมติให้เปิดชายหาดทุกแห่งตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. แต่ยังต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของสาธารณสุขในการป้องกันและควบคุม

  • ผู้ป่วยใหม่รายแรก เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 22 ปี เดินทางมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ตรวจครั้งแรกวันที่ 25 พ.ค. มีอาการไข้ไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 7 มิ.ย. หรือ 14 วัน ผ่านไป พบเชื้อ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลยะรัง จ.ปัตตานี

  • รายที่ 2 หญิงไทย อายุ 31 ปี พนักงานบริษัทเดินทางกลับจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ถึงไทยวันที่ 3 มิ.ย.เข้าพักโรงแรมในกรุงเทพฯ เข้าตรวจวันที่ 3 มิ.ย. ผลบวกไม่ชัดเจน เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลนพรัตน์ ในกรุงเทพฯ และวันที่ 8 มิ.ย. เก็บตัวอย่างส่งตรวจซ้ำ กระทั่งพบเชื้อ

  • เมื่อจำแนกผู้ป่วยตามพื้นที่การรักษา ซึ่งรวมผู้ป่วยใน State Quarantine และศูนย์กักตัว ตรวจคนเข้าเมือง โดยพื้นที่กรุงเทพฯและนนทบุรี มีจำนวน 1,744 ราย ซึ่งมีผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย รักษาตัวในกรุงเทพฯ ภาคใต้ 744 ราย ซึ่งมีผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย รักษาตัวในปัตตานี ภาคกลาง 427 ราย ภาคอีสาน 111 ราย และภาคเหนือ 95 ราย

...