ข่าวร้าย ไม่มีลมหนาวมาอีกแล้ว จนถึงสิ้นปี ต้องรอลุ้น ม.ค.ปีหน้า โดยประเทศไทยตอนบนอาจยังได้สัมผัสอากาศเย็นบ้าง แต่ กทม.-ปริมณฑล น่าห่วง เจอภาวะ “สม็อก” ฝุ่นบวกหมอกตอนเช้า ตรงกับข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) พบฝุ่นพิษ “พีเอ็ม 2.5” เกินมาตรฐานนับสิบพื้นที่ หนำซ้ำคาดอยู่ยาวถึง ก.พ. 2563 อธิบดี คพ.ประกาศโชว์สปิริต นำร่องข้าราชการในสังกัด งดขับรถยนต์ส่วนตัวมาทำงานสัปดาห์ละ 1 วัน ทุกวันพุธ เริ่มวันที่ 18 ธ.ค.นี้
อากาศประเทศไทยจะเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ โดยเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐาน ได้แก่ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 29-60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกินมาตรฐาน 10 สถานี ที่บริเวณ ริมถนนตรีมิตร วงเวียนโอเดียน เขตสัมพันธวงศ์, ริมถนนพระรามที่ 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน, ริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม,ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน, ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ, แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ, แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่, ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กรุงเทพฯ, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร, และ ต.มหาชัย อ.เมือง สมุทรสาคร
นายประลองกล่าวย้ำว่า คาดว่าค่าฝุ่น PM2.5 จะเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่เดือน ต.ค.2562 ไปถึงเดือน ก.พ.2563 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเด็ก คนชราและผู้ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพอนามัย ในปีที่ผ่านมา มีจำนวนวันที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐานใน จ.สมุทรสาคร กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม ช่วงสถานการณ์ระหว่างเดือน พ.ย.2561-เม.ย.2562 มีจำนวน 59 วัน 49 วัน 44 วัน 24 วัน 21 วัน และ 33 วัน ตามลำดับ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากยานพาหนะ
...
“เมื่อมีสภาพความกดอากาศต่ำ ทำให้มีปริมาณฝุ่นละอองเกิดการสะสม ปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยได้คือเราทุกคนต้องช่วยกันลดการระบายมลพิษจากรถยนต์ ลดการใช้ยานพาหนะ คพ.ในฐานะหน่วยงานที่ดูแล กำกับในการจัดการมลพิษ เจ้าหน้าที่มีความตระหนักในเรื่องดังกล่าว และผลกระทบต่อประชาชน ด้วยสปิริตวิชาชีพ สปิริตองค์การ จะเป็นหน่วยงานผู้นำในการร่วมแก้ไขปัญหาโดยการเริ่มที่ตัวเราก่อน
ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกคนร่วมใจ “งดใช้รถ ลด PM2.5 เพื่อลมหายใจของทุกคน” โดยงดใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางมาทำงาน ในทุกวันพุธของสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 18 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองจะกลับสู่ภาวะปกติ” นายประลองกล่าว
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมว่า จากแบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ-รอม) ซึ่งเป็นซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ในการพยากรณ์อากาศ เผยข้อมูลสภาพอากาศหลังจากวันนี้ไปถึงช่วงสิ้นปี 2562 ขณะนี้ความกดอากาศสูงที่ครอบคลุมประเทศไทยตอนบน และแผ่กำลังลึกเข้ามาถึงภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้อ่อนกำลังลง ทำให้อุณหภูมิหลายๆพื้นที่จึงเริ่มสูงขึ้นไปจนถึงช่วงสิ้นปี ถึงแม้อาจจะมีความกดอากาศสูงระลอกใหม่แผ่ลงมาแต่ก็จะมีกำลังไม่แรงพอ ทำให้กระแสลมหนาวที่จะพัดปกคลุมทั่วทั้งประเทศไทยตอนบน ยังคงมีเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้รับมวลอากาศเย็น หรือลมหนาวที่แผ่ลงมาถึงอยู่บ้างในช่วงวันที่ 20-21 ธ.ค. ส่วนภาคกลางจะมีแค่ลมเย็นในช่วงเช้าเล็กน้อย โดยอุณหภูมิต่ำสุดของพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลน่าจะอยู่ที่ประมาณ 24-25 องศาเซลเซียสในช่วงเช้ามืด
“หลังจากนี้อาจจะมีหมอกในช่วงเช้า ทั้งนี้ในช่วงกระแสลมหนาวอ่อนกำลังก็จะทำให้การพัดพาฝุ่นละอองในเขตกรุงเทพฯถูกพัดพาได้น้อยลง หรือมีการสะสมของฝุ่นละอองมากขึ้น โดยอาจจะเกิดเป็นภาวะที่เรียกว่า สม็อก (smog) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันระหว่างฝุ่นควัน (smoke) และหมอก (fog) นั่นเอง โดยสรุปคือ ตั้งแต่วันนี้ไปถึงช่วงสิ้นปี ยังไม่พบว่า จะมีมวลอากาศเย็นหรือลมหนาวที่มีกำลังแรงจะแผ่ลงมายังประเทศไทยเลย อาจจะต้องรอลุ้นอีกครั้งว่าเดือน ม.ค.2563 จะมีอากาศหนาวเข้ามาหรือไม่” แหล่งข่าวระบุ