"มองไปทางไหนก็มืดบอดไม่เห็นหนทาง พยายามดิ้นรนเขียนจดหมายไปตามมูลนิธิ หรือศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อขอให้เขาเข้ามาช่วยเหลือลูกสาวที่นอนอยู่ใน รพ.ทุ่งสง เพราะดิฉันและครอบครัวไม่มีปัญญาที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลลูก ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่า อาจจะต้องพิการตลอดชีวิต ร้องไห้เสียใจทุกคืน ทำใจไม่ได้เลย แต่ก็หาทางออกไม่เจอ ไม่รู้จะพาครอบครัวและลูกผ่านจุดนี้ไปได้ยังไง" คุณสุภาภรณ์ สุชาติพงศ์ กล่าว
ความรู้สึกของผู้เป็นแม่ ถ่ายทอดคำพูดให้ทาง "ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์" ได้รับทราบถึงเหตุการณ์น่าเศร้าใจที่เกิดขึ้นกับ น.ส.ณัฏฐธิดา สุชาติพงศ์ หรือ น้องฟา อายุ 15 ปี นักกีฬายกน้ำหนักของโรงเรียนนครศรีธรรมราช หลังเกิดอุบัติเหตุลูกเหล็กยกน้ำหนักกว่า 165 กิโลฯ หล่นลงใส่กลางสันหลังจนไม่สามารถขยับตัวได้ แพทย์ระบุเบื้องต้นว่า กระดูกหักแหลกละเอียดไปหมด ค่ารักษาสูง และต้องพักฟื้นยาว มีโอกาสกลับมาเดินได้อีกครั้งเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โค้ช เผยนาทีน้องฟา "ทรุด-เหล็กหลุดทับ" ฝันอยากเป็นทหาร ติดทีมชาติ
...
"พอทราบข้อมูลจากแพทย์เข่าแทบทรุด หลังเกิดเรื่องไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใคร ผ่านไป 2-3 วัน กระทั่งมีนักข่าวของไทยรัฐ ไปทำข่าวน้องที่โรงเรียน วันต่อมาทางหน่วยงานในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โทรมาที่โรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และรับน้องฟาเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมขอรับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับตัวน้อง วันนั้นรู้สึกปลาบปลื้มดีใจเป็นล้นพ้น ที่พระองค์ใส่พระทัยประชาชน และทรงอ่านข่าวติดตามเรื่องราวของน้องฟา มีพระบรมราชานุญาตให้หน่วยงานในพระองค์เข้าช่วยเหลือชาวบ้านธรรมดาๆ อย่างครอบครัวเรา" คุณสุภาภรณ์ สุชาติพงศ์ บอกกับเรา
ทางคุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อมายังครอบครัว พร้อมยื่นความประสงค์จะขับ ฮ. มารับน้องฟาด้วยตัวเองที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มารักษาอาการต่อที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ แต่อาการของน้องฟาในวันนั้นทรุดหนัก ไม่สามารถลุกขึ้นมานั่งได้เอง ทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงนำขึ้นรถบัสมาส่งตัวที่กรุงเทพ และน้องฟาได้นอนราบไปกับเตียง
"กระดูกแหลกทั้งหมด แม้แต่กระทั่งตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนของท่อนล่างตั้งแต่หน้าขาลงไปถึงปลายเท้าไม่สามารถขยับตัวได้เลย ต้องทำกายภาพบำบัดทุกเช้า ตัวดิฉันเอกต้องลาออกจากงานราชการ เพื่อมาดูแลลูกที่กรุงเทพฯ ทุกวัน ส่วนพ่อของน้องเป็นพนักงานไปรษณีย์ ครอบครัวเรามีลูก 3 คน น้องฟา เป็นคนกลาง และถึงแม้พวกเราจะมีการงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่ก็ไม่ได้มั่นคงด้านการเงินมากนัก หลักออกจากโรงพยาบาล หมอบอกว่าให้พวกเราเตรียมซื้อวีลแชร์รอไว้ เพราะน้องจะต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นไปอีกนาน"
คุณสุภาภรณ์ สุชาติพงศ์ บอกด้วยว่า "ตอนนี้แม่กับพ่อยังทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ กังวลว่าถ้าเราต้องมาตายไปก่อนลูกแล้วใครจะเป็นคนดูแลลูกของเรา กลัวว่าเขาจะใช้ชีวิตอยู่ลำพังไม่ได้ วิตกกังวลไปหมด ส่วนลูกสาวมีกำลังใจดีมาก เขาพูดออกมาเองว่า กำลังใจเขาเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นกับเขา ในอนาคตข้างหน้าสักวันต้องเกิด ชะตาชีวิตกำหนดไว้แล้ว ลูกสาวเข้มแข็งมาก โดยเฉพาะเมื่อทราบว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณารับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ กำลังใจเขายิ่งล้นทะลัก พร้อมสู้กับชะตาชีวิต"
ขณะที่น้องฟา บอกความรู้สึกในเรื่องนี้กับเราว่า ไม่รู้สึกเสียใจเลยหากจะต้องพิการเดินไม่ได้ไปตลอด ทำใจยอมรับที่จะอยู่อย่างคนพิการได้ ทุกวันนี้รู้สึกสงสารแม่ที่ต้องลาออกจากงานมาดูแลเราคนเดียว ส่วนพี่น้องอีก 2 คน เหลือเพียงพ่อที่ต้องทำงานส่งเสีย ในความเป็นจริงคือ ไม่อยากสร้างภาระให้ครอบครัว ส่วนร่างกายและจิตใจนั้นสู้ไหว จะพยายามทำกายภาพบำบัดให้ตัวเองฟื้นฟูร่างกายขึ้นมาเพราะไม่อยากให้แม่ต้องเสียใจที่เห็นตนเองอยู่ในสภาพนี้
"น้ำพระราชหฤทัยของในหลวง รัชกาลที่ 10 ยิ่งใหญ่มาก หากไม่มีพระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์เข้ามาช่วยหนูกับแม่และครอบครัวไม่รู้จะดำเนินต่อไปอย่างไร ต้องขอบพระคุณพี่นักข่าวไทยรัฐที่มาทำข่าวหนูได้เผยแพร่ออกไปสู่พระเนตรในหลวง พระองค์ทรงเมตตาหนู รับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ หลังจากหนูย้ายมารักษาตัวที่กรุงเทพฯ ทางข้าราชบริพารของพระองค์ได้โทรมาสอบถามอาการจากทีมแพทย์ตลอด เพราะทราบว่าพระองค์ทรงไม่ละทิ้งเมื่อรับหนูเข้ามาดูแล"
น้องฟา ทิ้งท้ายไว้ว่า "น้ำพระราชหฤทัยครั้งนี้ไม่รู้ว่าหนูกับครอบครัวจะตอบแทนอย่างไรหมด หนูจะตั้งใจทำกายภาพบำบัด รักษาตัวเองให้หายกลับมาเดินได้ เพื่อที่จะสอบเป็นทหาร และเป็นนักกีฬา รับใช้ประเทศชาติ เป็นคนดีของแผ่นดินต่อไป แต่ถึงแม้หนูจะไม่หาย หนูก็ตั้งใจจะเล่นกีฬาคนพิการ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ สร้างความภาคภูมิใจให้ในหลวง ร.10 เพราะสิ่งที่พระองค์มีให้หนูและประชนชาวไทยมันยิ่งใหญ่มากเกินกว่าเด็กธรรมดาๆ อย่างหนูจะทดแทนได้หมดในชาตินี้ ขอพระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรง มีพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน เป็น มิ่งขวัญของปวงพสกนิกรชาวไทยไปชั่วกาลนาน"
...