ผบ.ตร.แย้มมีเค้ามือตี
หมอรามาฯอนุญาต “จ่านิว” กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านพักได้แล้ว แต่คาดเจ้าตัวจะไปพักฟื้นที่บ้านเพื่อนสนิทแทนเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ “หมอทศพร” เผยอาการตาขวาเริ่มมองเห็นดีขึ้น ส่วนเบ้าตาซ้ายยังมีเลือดออกใต้เยื่อบุตาอยู่ คาดอีกหลายเดือนกว่าจะฟื้นตัว ขณะที่ด้านคดี ผบ.ตร.ยันได้เบาะแสเพิ่มอีกนิด แต่ยังไม่มีหลักฐานภาพคนร้ายที่ชัดเจน พร้อมโต้รถ จยย.ที่คนร้ายใช้ ไม่ใช่ จยย.ตำรวจ ชี้ความต่างที่กล่องเก็บของด้านหลัง
ที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 7 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว อายุ 27 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ถูกคนร้าย 4 คน ดักรุมสกรัมที่ปากซอยรามอินทรา 109 เขตคลองสามวา จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา และต่อมามีการย้ายมารักษาตัวที่ รพ.รามาธิบดี มากว่าสัปดาห์แล้วนั้น ล่าสุดแพทย์ได้อนุญาตให้นายสิรวิชญ์ เดินทางกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว โดยมี น.ส.ณัฐฏา หรือโบว์ มหัทธนา นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ เดินทางมาเยี่ยมเป็นชุดสุดท้าย
พร้อมกันนี้ นพ.ทศพรยังได้นำภาพวาดใบหน้าจ่านิว ที่วาดขึ้นด้วยตัวเองพร้อมลายเซ็นของผู้ที่ให้กำลังใจจ่านิวมามอบให้ มีทั้งนักการเมืองอย่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง และแกนนำนักศึกษาอย่าง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ร่วมลงลายมือชื่อให้กำลังใจ นพ.ทศพรกล่าวว่า ได้ตรวจอาการบาดเจ็บของจ่านิว พบตาขวายังคงบอบช้ำ การมองเห็นเริ่มดีขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่คงใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะฟื้นตัว ทั้งต้องตรวจรักษาไปเรื่อยๆ สำหรับจมูกที่หักนั้น แพทย์เอาผ้าก๊อซที่อุดจมูกออกแล้ว ทำให้หายใจได้ปกติขึ้น แม้ในทางการแพทย์สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ แต่แผลก็ยังไม่หายสนิท เช่น ที่ศีรษะ และที่เบ้าตาซ้าย ยังมีเลือดออกใต้เยื่อบุตาอยู่ ส่วนตาขวายังต้องครอบเครื่องป้องกันไว้ไม่ให้กระทบกระเทือน ต้องรักษาตัวและพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง
...
ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลังจากแพทย์อนุญาตให้ นายสิรวิชญ์กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้ แต่นายสิรวิชญ์จะเดินทางไปพักฟื้นอยู่ที่บ้านของเพื่อนสนิทรายหนึ่งเป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อสะดวกต่อการดูแลความปลอดภัย
ส่วนความคืบหน้าในคดีนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อช่วงสาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวว่า คดีนี้ได้มอบให้ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ได้รับรายงานคดีคืบหน้าทั้งการตรวจสอบกล้องวงจรปิด สอบปากคำพยานและตรวจที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพิสูจน์ทราบถึงตัวบุคคลที่กระทำผิดแล้ว ขณะนี้พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนกำลังแสวงหาข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลถึงเครือข่าย ผู้สนับสนุนและที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิด ได้รับข้อมูลเบาะแสที่เป็นประโยชน์จากประชาชน และหากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแส สามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาเพื่อประโยชน์ในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
สำหรับการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจชุดทำงานพบภาพวงจรปิด ขณะคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ 1 คัน กำลังหลบหนี เส้นทางจากห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ไปจนถึงถนนพหลโยธินด้านข้างมหาวิทยาลัยเกษตร– ศาสตร์ก่อนภาพจะตัดไป วันนี้ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ล่าสุดพบภาพคนร้ายที่ลงมือตีนายสิรวิชญ์ สภาพสวมหมวกกันน็อกขี่รถจักรยานยนต์อยู่บริเวณถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต ช่วง รพ.วิภาวดี ก่อนเลี้ยวเข้าถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้ามาสิ้นสุดกล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้าบริษัทนครชัยแอร์ จำกัด ตำรวจชุดทำงานอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะขับผ่าน เนื่องจากจุดดังกล่าวสามารถแยกไปได้อีกหลายเส้นทาง เช่น สะพานพระราม7 ถนนรัชดาภิเษก บริเวณแยกรัชโยธิน หรือแยกลาดพร้าว จึงประสานตำรวจพื้นที่ไล่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตำรวจทำงานด้วยความยากลำบาก เนื่องจากยังไม่ปรากฏหลักฐานเป็นภาพคนร้ายที่ชัดเจน ส่วนกรณีกระแสข่าวว่ารถจักรยาน ยนต์ที่คนร้ายใช้คล้ายคลึงกับรถจักรยานยนต์ตำรวจนั้น ตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่ใช่ เพราะรถจักรยานยนต์ที่ตำรวจใช้จะมีกล่องสำหรับใช้เก็บของอยู่ด้านหลัง แต่ของที่คนร้ายไม่มี
ขณะที่ความคืบหน้ากรณี พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. ร้องทุกข์กองบังคับการปราบ– ปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์กล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังคดีจ่านิวถูกทำร้าย ขณะนี้พนักงานสอบสวน บก.ปอท.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เบื้องต้นตำรวจกำลังตรวจสอบข้อมูลของผู้โพสต์และผู้แชร์ต่อ หากได้หลักฐานครบถ้วนและชัดเจน จะออกหมายเรียกผู้กระทำผิดให้เข้ารับทราบข้อหาต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมริมน้ำ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw หรือไอลอว์ และกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย จัดเสวนาหัวข้อ “De-Talk : ล้างพิษรัฐประหาร ทวงคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน” ทั้งนี้ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและประธานคณะทำงานด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กล่าวว่า ในอดีตคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชน หรือนักกิจกรรมทางสังคมหลายคน ถูกสังหาร ถูกอุ้มหาย โดยรัฐไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษได้ ปัจจุบันรูปแบบเปลี่ยนไปเป็นการคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรม มีการฟ้องร้องเพื่อปิดปาก วันนี้รูปแบบการคุกคามเปลี่ยนไปอีก มีการใช้ความรุนแรงเพื่อปิดปากนักกิจกรรมที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างจากรัฐหรือตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ กรณี นายเอกชัย หงส์กังวาน หรือนายสิรวิชญ์ ตอกย้ำความรุนแรงที่เกิดซ้ำซากโดยที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษได้
“นอกจากนี้ปัจจุบันสังคมไทยมีความเกลียดชังคนเห็นต่างมากขึ้น ในสื่อออนไลน์มีแต่คำพูดที่สร้างความเกลียดชัง และเรียกร้องนำไปสู่การใช้ความรุนแรงต่อผู้เห็นต่าง รัฐต้องให้ทุกภาคส่วนเข้าร่วมแก้ปัญหา เริ่มจากการเปิดเผยความจริงทุกกรณี นำผู้กระทำผิดมาลงโทษ จะต้องไม่มีใครถูกทำร้าย ถูกไล่ล่า ถูกทำให้สูญหายหรือถูกขับไล่ออกจากประเทศนี้เพียงเพราะความคิดเห็นที่แตกต่าง” นางอังคณากล่าว
...