"ถึงแม้ในวันนั้นอายุเพียง 9 ขวบ แต่ยังจำเหตุการณ์พายุเกย์ถล่มเมื่อครั้งต้นเดือนพฤศจิกายน ปี 2532 ได้ดี ขณะนั้นได้โดยสารรถทัวร์เดินทางจากจังหวัดสงขลา มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร เวลาช่วง 7 โมงเช้ารถเคลื่อนตัวฝนถล่มตกตลอดทั้งวัน กระทั่งได้เวลาพลบค่ำที่จังหวัดชุมพร เส้นทางเดินรถล่าช้ากว่าปกติหลายเท่าตัว เนื่องจากถนนทุกสายที่รถวิ่งผ่านเอ่อล้นไปด้วยน้ำทะลักสูงขึ้นมาครึ่งล้อรถทัวร์ บางช่วงถนนขาด เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินรถให้กะทันหัน และ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง จากร่องรองของพายุเกย์ที่ได้พัดถล่มอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน" ผู้อยู่ในเหตุการณ์ย้อนเล่า
ไม่รู้มาก่อนว่าจะมีพายุถล่มในวันเดินทางไปกับแม่เพียง 2 คน ท่ามกลางผู้โดยสารอีก 20 กว่าชีวิต ที่ต้องเผชิญชะตากรรมมหันตภัยเลวร้าย ซึ่งแน่นอนว่ารถทัวร์คันดังกล่าวต้องเดินหน้าต่อไปท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำ และพักรถจอดชะลอเป็นระยะๆ กระทั่งรถเดินทางเข้าสู่เขตจังหวัดชุมพร น้ำเอ่อทะลักถนนหลายเส้นถูกตัดขาด เศษซากหักพังจากพายุเกย์เมื่อช่วงเช้าได้พัดเอาหลังคาบ้านและข้าวของกระจัดกระจายเป็นกองพะเนิน ท้ายที่สุดรถทัวร์โดยสารที่ได้นั่งมาเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำตกร่องถนน เนื่องจากระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยว ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย รถไม่สามารถไปต่อได้ ในขณะที่แม่ได้มีสติอยู่ตลอดเวลา พยายามหาทางพาลูกสาววัย 9 ขวบออกจากรถ เดินฝ่ากระแสน้ำเอาชีวิตรอดพ้นเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้ ...
...
- พายุไต้ฝุ่นครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 35 ปี -
เพราะพายุเกย์ พายุหมุนเขตร้อนทรงพลัง ซึ่งได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดชุมพร และประเทศอินเดียฝั่งตะวันออกในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2532 จึงถือเป็นสถานการณ์พายุไต้ฝุ่นครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นในคาบสมุทรมลายูรอบ 35 ปี มันเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ในอ่าวไทยตอนล่าง ข้ามคาบสมุทรมลายู เคลื่อนเข้าไปในมหาสมุทรอินเดียเหนือ และทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนระดับ 5 ก่อนขึ้นฝั่งในประเทศอินเดีย
และในวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 เวลา 08.30 น. พายุไต้ฝุ่นเกย์เคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ตอนบนด้วยความเร็วถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วของพายุไต้ฝุ่นในระดับ 3 ถล่ม อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพานน้อย และอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอท่าแซะ และอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร สร้างความเสียหายมหาศาล แก่บ้านเรือน และพื้นที่เกษตรกรรม พังพินาศเสียหาย ประชาชนไม่มีโอกาสได้ขนของออกจากบ้าน เพราะต่างพากันวิ่งหนีตายเอาชีวิตรอด โดยเหตุการณ์ช่วงเช้าวันที่ 4 พ.ย. เป็นช่วงพีคสุด เสียงกิ่งไม้หัก หลังคาบ้านพัดปลิวยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- เรื่องจริงจากผู้ประสบเหตุ เล่าข้อมูลลงในโลกโซเชียล -
"ตอนนั้นผมอายุ 16 ปี กำลังจะไปโรงเรียนตื่นตอนเช้าเวลา 06.00 น. มีฝนตกอย่างหนักมากพร้อมกับกระแสลมค่อนข้างแรงพ่อบอกว่าให้รีบลงจากบ้านแล้วไปหลบอยู่อีกบ้านหลัง ที่มีความแข็งแรงมาก เมื่อผมก้าวออกจากบ้าน ทันใดนั้นบ้านก็ถูกพายุกระหน่ำจนราบเป็นหน้ากลอง ผมต้องไปหลับอยู่ในสวนมะพร้าวต้นไม้ล้มหมดทุกคนไม่มีทีพักพิงก็ต้องอาศัยต้นมะพร้าวหลบกระแสลม นอนอยู่ในน้ำประมาณ 6-7 ชั่วโมงจนพายุสงบเหตุการณ์วันน้ันคงไม่ลืมไปจากผมแน่ รอดตายอย่างปาฏิหาริย์" หนึ่งในคำบอกเล่าจากผู้ประสบเหตุ
...
ขณะที่ผู้ประสบเหตุอีกรายเล่าว่า "4 พฤศจิกายน 2532 ตอนนั้นผมอายุได้ 12 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.6 ช่วงนั้นเป็นวันปิดภาคเรียนผมอยู่บ้านในตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ก่อนหน้าพายุพัดหนึ่งสัปดาห์กรมอุตุนิวิทยาประกาศเตือนจังหวัดทางภาคใต้ว่าจะมีพายุไต้ฝุ่นพัดเข้าที่จังหวัดแถวๆ อ่าวไทย คาดว่าจะเป็นสุราษฎร์ฯ หรือชุมพร โดยจะประกาศทางวิทยุอยู่ป็นระยะๆ ให้ประชาชนเตรียมตัวรับพายุลูกนี้
“ไม่มีใครในหมู่บ้านผมรู้สึกตื่นเต้น ตื่นกลัวกับคำประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาในครั้งนี้เลย คงมีก็แต่พ่อของผมที่ตระหนักอยู่และเกรงกลัวอยู่บ้าง พ่อบอกให้ผมและพี่ชายช่วยเก็บเสื้อผ้าใส่ถุงพลาสติก หุงข้าวให้เต็มหม้อไว้ วันนั้นผมมองไปบนท้องฟ้า มันมีสีแดงส้มๆ ผมก็ถามพ่อว่า ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นพ่อบอกว่าปู่เคยบอกไว้ว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น" เขากล่าวทิ้งท้าย
...
- ความสูญเสียที่เกิดขึ้น -
พายุเกย์ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 446 คน บาดเจ็บ 154 คน บ้านเรือนเสียหาย 38,002 หลัง ประชาชนเดือดร้อน 153,472 คน เรือล่ม 391 ลำ ถนนเสียหาย 579 เส้น สะพาน 131 แห่ง ทำนบและฝาย 49 แห่ง โรงเรียนพัง 160 โรง วัด 93 วัด มัสยิด 6 แห่ง พื้นที่การเกษตร 80,900,105 ไร่ (129,440.168 ตร.กม.) สัตว์เลี้ยงตาย 83,490 ตัว ประเมินความเสียหาย 11,257,265,265 บาท
นอกจากนี้ยังมีรายงานเรือขุดเจาะน้ำมันซีเครสต์อับปางลงนอกชายฝั่ง มีลูกเรือเสียชีวิต 91 คน รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 537 คน เช่นเดียวกับความเสียหายอย่างหนักที่เกิดขึ้นกับปะการังนอกชายฝั่งประเทศไทย พายุไต้ฝุ่นเกย์ถือเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยมากที่สุดในรอบ 27 ปี นับตั้งแต่พายุโซนร้อนแฮเรียตถล่มแหลมตะลุมพุก ในปี พ.ศ. 2505 เป็นพายุลูกเดียวในประวัติศาสตร์ที่พัดเข้าสู่ประเทศไทยในระดับไต้ฝุ่น และยังเป็นพายุที่มีความเร็วลมสูงสุดขณะขึ้นฝั่งเท่าที่เคยมีมาในคาบสมุทรมลายู ส่วนทรัพย์สินของทางราชการและเอกชนเสียหายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท เรือประมงจมลงสู่ใต้ท้องทะเลประมาณ 500 ลำ นับเป็นการสูญเสียจากพายุไต้ฝุ่นครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
...
- เฝ้าระวัง หวั่นซ้ำรอย มหันตภัย -
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นต้นมา จังหวัดชุมพรร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดฝึกซ้อมระบบการบริหารจัดการด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม และจัดงานรำลึกเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นเกย์ ฝึกซ้อมแผนการบริหารจัดการด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม ที่จังหวัดชุมพร โดยจังหวัดชุมพรร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจัดขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้มีความรู้ความเข้าใจในการวางแผนและบริหารจัดการข่ายการสื่อสารหลักและข่ายการสื่อสารสำรอง ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์วิกฤติ รวมทั้งทดสอบแผนจากสถานการณ์สมมติเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ทราบถึงศักยภาพของหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนว่ามีความพร้อมในการแจ้งเตือนภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการฝึกซ้อมจะมีการจำลองสถานการณ์ว่ามีพายุโซนร้อน เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกและทวีความรุนแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น และเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทยพื้นที่จังหวัดชุมพร ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจังหวัดชุมพรให้แจ้งเตือนประชาชนและดำเนินการอพยพประชาชนและเรือประมงไปอยู่ในที่ปลอดภัย
**ภายหลังอานุภาพความรุนแรงทำลายล้างในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย จึงได้เคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามันมุ่งหน้าไปยังประเทศอินเดีย และได้เพิ่มความเร็วลมขึ้นสูงถึง 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่ากับพายุไซโคลนระดับ 5 รัฐบาลอินเดีย ต้องสั่งบังคับอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเพราะเกรงจะเกิดเหตุซ้ำรอยพายุไซโคลนเมื่อปี พ.ศ. 2520 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 10,000 คน