เปิดประวัติเฮี้ยน คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ รองนายก อบจ. เผยที่มา 168 วิญญาณขอปลดปล่อย แต่เดิมคือสถานที่บัญชาการปราบกบฏ...
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 60 นายเสรี ทรงศักดิ์ รองนายก อบจ.แพร่ ได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของ คุ้มเจ้าหลวงจังหวัดแพร่ และที่มาของการทำพิธีขอปลดปล่อยดวงวิญญาณ 168 ตน ว่า คำว่าคุ้ม ก็หมายถึงบ้าน ดังนั้น คำว่าคุ้มเจ้าหลวง ก็คือ บ้านของเจ้าหลวง ซึ่งสร้างมานานมากแล้ว และผู้ที่อาศัยอยู่คนสุดท้าย คือ เจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 22 ต่อมา ได้มีชนกลุ่มน้อยชาวพม่า (ไทใหญ่) ซึ่งตั้งตัวเป็นกบฏเงี้ยว เข้ามาปล้นเมืองแพร่


...
สาเหตุที่นำกำลังมาสามารถปล้นเมืองแพร่ได้ เพราะคนกลุ่มนี้เข้ามาทำงานกับบริษัทที่รับสัมปทานตัดไม้ ทำให้มีการซ่องสุมกำลังมาก จากนั้นก็รวมตัวกันปล้นสะดม ยึดเมือง ทำให้เจ้าเมืองต้องหนีไปอยู่ที่หลวงพระบาง
ต่อมา พ่อหลวงรัชกาลที่ 5 ได้ส่ง นายเจิม แสงชูโต หรือ พระยาสุรศักดิ์มนตรี มาปราบ จากนั้นก็ใช้คุ้มแห่งนี้เป็นที่บัญชาการปราบกบฏทั้งหมด คนไหนผิดจับไว้ใต้ถุน ซึ่งนักโทษที่จับได้ก็มีทั้งชาวพื้นเมืองและชาวไทใหญ่ บ้างก็ตายอยู่ใต้ถุน ทำให้ดวงวิญญาณไม่ไปไหน ก็อยู่ใต้ถุนหลังนี้แหละ


"พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง ท่านก็มานั่งทางใน และได้พูดคุยกับดวงวิญญาณเหล่านี้ เขาก็บอกว่าอยากจะไปผุดไปเกิด หากทำได้แล้วจังหวัดแพร่ก็จะเจริญรุ่งเรือง ต่อมา นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ปรึกษากับ นายอนุวัฒน์ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ และตกลงกันว่า จะทำบ้านจำลองให้เหมือนกับคุ้มเจ้าหลวง ทำออกมา 2 หลัง คือ คุ้มเจ้าหลวงจำลอง และ บ้านข้าทาสบริวาร โดยเอาวิญญาณเจ้านายที่อาศัยในคุ้ม และ วิญญาณที่อาศัยอยู่ใต้ถุน ออกไปทั้งหมด.. นี่คือคำขอที่ทางดวงวิญญาณบอกกับ พล.ร.อ.อมรเทพ ที่ได้นั่งทางในพูดคุยกัน" รองนายก อบจ.แพร่
นายเสรี กล่าวอีกว่า ต่อมาได้มีการเปลี่ยนสถานที่ดังกล่าวให้เป็นจวนผู้ว่าฯ และเมื่อผู้ว่าฯ หลายคนมาอาศัยก็เจอความเฮี้ยน ถูกหลอกหลอนจนอยู่ไม่ได้ กระทั่งมีการสร้างจวนผู้ว่าฯ หลังใหม่