น้ำใจคนไทยเหลือล้นถวายแด่พ่อหลวง ทั้งแจกเสื้อดำ ริบบิ้น ข้าวปลาอาหารอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะ ห้างโลตัสจับมือกับกระทรวงพาณิชย์แจกเสื้อดำ 5.5 หมื่นตัวใน 109 สาขาทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน พสกนิกรร่วมใจกันทำบุญรวมทั้งจัดบวชพระ บวชชีพราหมณ์ ส่วนการแสดงความอาลัยมีหลายรูปแบบ ทั้งการแปรอักษร การนั่งสมาธิ รวมทั้ง การเป่าเสียงเพลงผ่านพิณ ส่วนชาวต่างชาติร่วมแสดง ความอาลัยหลายประเทศ ด้านโฆษก คสช. เตือนระวัง ซื้อธนบัตรเคลือบทองเป็นของปลอมผลิตจากจีน
ความสามัคคีของพสกนิกรร้อยดวงใจส่งความอาลัยทั่วประเทศ ท่ามกลางความเศร้าโศกและน้ำตาที่เสียใจจากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะเดียวกัน น้ำใจของพี่น้องคนไทยยังทะลักทั้งแจกจ่ายเสื้อดำ ย้อมเสื้อผ้าฟรีรวมทั้งแจกริบบิ้นให้กับคนที่ไม่มีเสื้อดำสวมใส่ นอกจากนี้ ร้านอาหารหลายแห่งยังเปิดบริการกินฟรีเพื่อทำความดีถวายในหลวงรัชกาลที่ 9
เทสโก้-พาณิชย์แจกเสื้อครึ่งแสน
น.ส.สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ว่า เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและประชาชน เทสโก้ โลตัส จึงร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ แจกเสื้อยืดสีดำจำนวน 55,000 ตัว ให้กับลูกค้าและประชาชนทั่วประเทศ หลังเพิ่มปริมาณเสื้อผ้าสีดำและสีขาวที่จำหน่ายในสาขาห้างเทสโก้ โลตัส ทั้ง 1,800 สาขา ทั่วประเทศให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าและประชาชน แต่ปรากฏว่ายังไม่เพียงพอ จึงร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์แจกเสื้อยืดสีดำผ่านสาขาต่างๆ ของเทสโก้ โลตัส รวมทั้งสิ้น 109 สาขาทั่วประเทศ
กรุงเทพฯรับก่อนใน 9 สาขา
รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวต่อว่า การแจกเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 ต.ค.นี้ จำนวน 9 สาขาในกรุงเทพฯ 5,000 ตัว อาทิ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์ตร้า พระรามสี่ 1,000 ตัว เทสโก้ โลตัส สาขาหลักสี่ 500 ตัว เทสโก้ โลตัส สาขาฟอร์จูน 500 ตัว เทสโก้ โลตัส สาขาปิ่นเกล้า 500 ตัว เทสโก้ โลตัส สาขาบางแค 500 ตัว เทสโก้ โลตัส สาขาแยกประชาชื่น 500 ตัว เทสโก้ โลตัส สาขาจรัญสนิทวงศ์ 500 ตัว เทสโก้ โลตัส สาขาพระราม 1 จำนวน 500 ตัว และเทสโก้ โลตัส สาขาลาดพร้าว 500 ตัว ประชาชนที่สนใจสามารถรับบัตรคิวได้ที่สาขาดังกล่าวตั้งแต่เวลา 09.00 น. สงวนสิทธิ์ 1 คนต่อเสื้อยืด 1 ตัว จากนั้นจะขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ในทุกภาค โดยในวันศุกร์ที่ 4 พ.ย. 40 สาขา และวันศุกร์ที่ 11 พ.ย. 60 สาขาที่เหลือ เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชน และนอกจากแจกเสื้อยืดฟรีแล้ว เทสโก้ โลตัส ได้จัดเตรียมริบบิ้นดำจำนวน 1 ล้านชิ้น กระจายไปยังเทสโก้ โลตัส สาขาต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อแจกจ่ายให้กับลูกค้าและประชาชนด้วย
...
เปิดกินข้าวฟรีถวายในหลวง
สำหรับบรรยากาศการแสดงความอาลัยและการทำความดีแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช ในต่างจังหวัดยังมีดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ร้านอาหารข้าวแกงธงฟ้าปลาร้าสับไฮโซ ตั้งอยู่ริมถนนสายเขางู-เบิกไพร ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เปิดให้กินฟรี โดยหน้าร้านติดป้ายบอก “วันนี้กินฟรีเพื่อทำดีถวายพ่อหลวง” มีลูกค้านั่งกินอาหารเต็มร้าน สอบถามนางพิมพ์ใจ ผลมูล อายุ 57 ปี เจ้าของร้านเปิดเผยว่า วันนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ทานฟรีตลอดทั้งวันหรือจนกว่าของจะหมดมีแกงกว่า 20 ชนิด ขนมจีนน้ำยา และที่ขาดไม่ได้คือ ปลาร้าสับ อาหารขึ้นชื่อของร้าน และครอบครัวของเราตั้งใจทำความดีเพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่พ่อหลวงของแผ่นดิน และในวันที่ 26 ต.ค.นี้ จะนำข้าวราดแกงไปแจกที่สนามหลวงด้วย
บะหมี่-ส้มตำบริการฟรีทั้งวัน
ที่หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาย 4 ศูนย์การค้าระยอง อ.เมืองระยอง นายพรนิวัฒน์ ศิริสมบูรณ์ กับนางเจริญรัตน์ ศิริเวช สามีภรรยาอาชีพขายหมูปิ้งและไก่ย่าง 5 ดาว นายวิชัย สุชาติ และกลุ่มเพื่อนช่วยกันแจกหมูปิ้ง บะหมี่ ส้ม และน้ำให้กับประชาชนที่เดินไปมาประมาณ 1,000 ชุด ส่วนร้านส้มตำคุณนายเนตรของ น.ส.เนตรนภา นฤทุกข์ อายุ 37 ปี เลขที่ 135/4 ถนนหลวงพ่อเจ้า ต.เมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ได้ระดมญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ร่วมกันตำส้มตำแจกฟรีทั้งส้มตำไทย ส้มตำปู ส้มตำหอยดองและส้มตำปลาร้า สอบถาม น.ส.เนตรนภา กล่าวว่า การแจกส้มตำในครั้งนี้ ตนและเพื่อนๆ รวมถึงคนที่ทราบข่าวมาร่วมด้วยช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นมะละกอ เครื่องปรุงส้มตำและผักดิบ รวมทั้งช่วยลงแรงตำส้มตำ ทุกคนมุ่งมั่นเพื่อที่จะทำดีถวายพ่อหลวงของพวกเรา
น้ำใจงามแจกผัดไทย-ขนมครก
ที่ริมถนนสายอ่างทอง-ป่าโมก ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ชาวบ้านชุมชนวัดแสนสุขกว่า 50 คนร่วมกันทำผัดไทยแจกฟรี ให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาได้กว่า 3,000 กล่อง เพื่อเป็นการถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยนายฉลวย กระจ่างจิตร อายุ 57 ปี กล่าวว่า กลุ่มนักธุรกิจและชาววัดแสนสุขที่ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและทำมาหากินอย่างร่มเย็นเป็นสุขมาตลอดชีวิตด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้รวบรวมเงินพร้อมทั้งแจ้งทางสื่อออนไลน์ในการร่วมด้วยช่วยกันทำดีเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยการทำผัดไทยกว่า 3,000 กล่องแจกในครั้งนี้
ส่วนที่วัดเถรพลายหรือวัดหลวงพ่อสีชมพู อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี พระครูพิสุทธิรัตนาภรณ์ พร้อมชาวบ้านร่วมทำพิธีสืบสานประเพณีโบราณตักบาตรขนมครกสีชมภูสกัดมาจากดอกกุหลาบขนมครกสีเหลืองทำจากฟักทองและขนมครกสีขาวทำจากมะพร้าวเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล นอกจากนี้ทางวัดยังจัดทำล็อกเกตติดหน้าอกเป็นพระบรมฉายาลักษณ์สลักข้อความ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” จำนวน 89,000 อันแจกฟรีให้ประชาชนด้วย
ตักบาตรแน่นสะพานมอญ
ที่สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศวิถีชาวมอญ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวและร่วมกันทำบุญตักบาตรพระจากวัดวังก์วิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตมะ) ที่เดินทางมารับบิณฑบาต นักท่องเที่ยวจำนวนหลายพันคนที่รอใส่บาตรเป็นแถวยาวกว่า 2 กม. โดยทุกคนทำบุญใส่บาตรครั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งเทพ โพธิ์งาม นักแสดงและตลกชื่อดังที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ได้มีโอกาสร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกับประชาชนชาวสังขละบุรี และนักท่องเที่ยวที่บริเวณถนนคนเดินในคืนวันที่ 22 ต.ค.ผ่านมาด้วย
...
แห่ชื่นชมพระบรมสาทิสลักษณ์
ที่วัดบางช้าเหนือ ต.คลองใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม มีประชาชนแห่ไปชมพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขนาดสูง 9 เมตร กว้าง 5 เมตร ในพระวิหารสูง สอบถามนายสันติ เย็นสบาย อายุ 80 ปี อดีตครูใหญ่โรงเรียนนาคประสิทธิ์ มูลนิธิวัดบางช้างเหนือ กล่าวว่า ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ จัดสร้างขึ้นสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์เป็นนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กรมโยธาธิการกระทรวง มหาดไทยทำขึ้นเพื่อรับเสด็จล้นเกล้าฯทั้ง 2 พระองค์ เสด็จเยือนประเทศยุโรปและเสด็จนิวัติกลับประเทศไทย นำไปติดตั้งที่ท้องสนามหลวงทั้ง 4 ทิศ เมื่องานสมโภชเสร็จ ทางรัฐบาลได้มอบภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ทั้ง 4 ชุดให้กับจังหวัดสำคัญๆ 4 ทิศของกรุงเทพมหานครเพื่อประดิษฐานไว้เป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำของพสกนิกรทั่วประเทศไทย
หลั่งน้ำตาชมวาดภาพในหลวง
ขณะเดียวกัน นายผ่านภพ เฉลิมบัวทิพย์ ศิลปินผู้วาดภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยเทคนิคพิเศษโดยใช้เปลวไฟได้เดินทางกลับบ้านเกิด จ.จันทบุรี ได้ไปวาดภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ถนนสุขาภิบาล 2 ริมน้ำชุมชนจันทบูร อ.เมืองจันทบุรี ซึ่งเป็นถนนเส้นแรกของจันทบุรีเพื่อประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกัน นอกจากนี้ ยังได้แจกภาพในหลวงที่ใช้เทคนิคการพ่นสีให้กับประชาชนที่มาชมด้วย ระหว่างวาดภาพมีประชาชนนักท่องเที่ยวผ่านไปมายืนชมการวาดภาพด้วยความประทับใจ หลังวาดภาพเสร็จนายผ่านภพได้ก้มลงกราบภาพพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 กับพื้น ประชาชนร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีทำให้บางคนถึงกับน้ำตารินโดยไม่รู้ตัว
บวชพระ 36 รูป เณร 6 รูป
...
ที่วัดห้วงหิน หมู่ 3 ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ชาวบ้านประมาณ 300 คน นำเครื่องอัฐบริขารสำหรับบวชพระมาร่วมพิธีบวชมหากุศลบวชพระ 36 รูป และสามเณร 6 รูป โดยพระครูพิพัฒน์ชยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านค่าย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์และนายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ นอภ.บ้านค่ายเป็นประธานฝ่ายฆราวาส สำหรับพิธีบวชครั้งนี้เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนาคที่บวชอายุมากที่สุดคือนายสาย ศรีสวัสดิ์ อายุ 89 ปี อดีต กำนัน ต.ชากบก ขณะที่นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ นอภ.บ้านค่าย กล่าวว่า ทางอำเภอบ้านค่ายรู้สึกดีใจที่ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ชากบก ได้จัดกิจกรรมมหากุศลขึ้นมาด้วยใจโดยที่อำเภอไม่ต้องมาดำเนินการ หรือขอร้องใดๆ
ครู 999 คนบวชชีพราหมณ์
ด้านสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน อ.เมืองขอนแก่น นายณฤทธิ์ วิเศษศักดิ์ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 5 ได้นำคณะผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด สพป.ขอนแก่น เขต 5 ครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ชุมแพ อ.หนองเรือ อ.ภูเวียง อ.เวียงเก่า อ.หนองนาคำ อ.สีชมพู และ อ.ภูผาม่าน รวม 999 คน ร่วมถือศีลปฏิบัติธรรมวิปัสสนาในโครงการบวช 999 ชีพราหมณ์ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 18-24 ต.ค.59 โดยนายณฤทธิ์กล่าวว่า การบวชชีพราหมณ์ครั้งนี้เป็นการแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ อีกทั้งยังเป็นการขัดเกลาจิตใจให้คณะครูในสังกัดได้ครองตนอยู่ในคุณธรรมและจริยธรรม ปฏิบัติหน้าที่ครูที่ดี ตามพระราชดำรัสของในหลวงที่ได้พระราชทานแก่ครูอาวุโสไว้เมื่อปี พ.ศ.2522 ความว่า “ครูที่แท้นั้น เป็นผู้ทำแต่ความดี หมั่นขยันและอุตสาหะพากเพียร เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละ ต้องหนักแน่นและอดทน”
...
นร. 1,500 คน นั่งสมาธิ 9 นาที
ที่ศาลาจตุรมุขทุ่งศรีเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี คณะครู บุคลากร และนักเรียนโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการอุบลราชธานี และโรงเรียนกีฬาอุบลราชธานีกว่า 1,500 คน ร่วมพิธีแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยการกราบถวายบังคมต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และนั่งสมาธิเจริญจิตภาวนา 9 นาที เพื่อระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและถวายความเคารพ ส่วน จ.เพชรบุรี ชมรมจักรยานเพชรบุรีได้จัดกิจกรรม “ปั่นไปบ้านพ่อ” โดยสมาชิกกว่า 200 คันรวมตัวปั่นจักรยานจากหน้าศาลากลางจังหวัดไปรวมตัวกันที่โครงการชั่งหัวมัน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เพื่อแสดงความอาลัยในหลวง ร.9 ร่วมยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 9 นาที และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
แปรอักษร “เรารักในหลวง”
ขณะที่หน้าศูนย์ราชการจังหวัดกำแพงเพชร บริเวณลานพระพุทธภูมินทร์อสีติวัสสามังคลานุสรณ์หรือลานพระใหญ่ นายธานี ธัญญาโภชน์ ผวจ.กำแพงเพชร เป็นประธานแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และร่วมกับคณะรอง ผวจ. ปลัดจังหวัด ผบ.กกล.รส.จ.กำแพงเพชร พร้อมผู้นำศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลามและคณะผู้พิพากษาศาล อัยการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา กลุ่มพลังมวลชน ชาวไทยภูเขาและประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วม 10,000 คน จัดรูปขบวนแปรอักษรเป็นรูปหัวใจพร้อมข้อความว่า “กำแพงเพชร เรารักในหลวง” ตามด้วย จ.นครสวรรค์ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ นายธนาคม จงจิระ ผวจ.นครสวรรค์ และหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนร่วมพิธีลงนามแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมแปรอักษรเป็นเลข ๙ และรูปมังกรของชาวจีนซึ่งถือเป็นตัวแทนองค์จักรพรรดิ เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์โดยมีผู้ร่วมแปรอักษรนับหมื่นคน และบริเวณลานอเนกประสงค์ สวนสาธารณะสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต ขบวนรถจักรยานกว่า 500 คัน รวมพลแปรขบวนเป็นรูปเลข ๙ ด้วย
“ลุงหมี” นั่งรถไฟสู่กรุงเทพฯ
นายสาธิต จันทรังษี หรือลุงหมี อายุ 55 ปี ชาว จ.พิษณุโลก ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เดินทางด้วยรถวีลแชร์ผู้พิการจาก จ.พิษณุโลกเพื่อเดินทางไปแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง โดยล่าสุดเดินทางมาถึง จ.พระนครศรีอยุธยาแล้วโดยมีนายณฐภัทร ศิริมงคลพันธุ์ อายุ 28 ปี เจ้าของร้านอาหารหมูหันสองพี่น้อง ย่านพระราม 3 ร่วมปั่นจักรยานคอยดูแลความสะดวกในการเดินทางด้วย สอบถามนายสาธิตกล่าวว่า การปั่นวีลแชร์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่เศร้าที่สุดในชีวิต วันนี้เป็นวันที่ 7 หลังการเดินทาง และเวลา 16.30 น. วันเดียวกันจะขึ้นรถไฟสายอุบลฯ-กรุงเทพฯไปกรุงเทพฯเพื่อเดินทางถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามแสดงความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระบรมมหาราชวังต่อไป
เขยต่างชาติเดินถึงร้อยเอ็ด
ส่วนนายฮัท ฮาร์ทมุทเดเลน ชาวเยอรมัน วัย 58 ปี เขยต่างชาติชาวยโสธร ได้ออกเดินเท้าเป็นวันที่ 2 เข้ากรุงเทพฯเพื่อไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเดินทางถึง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด แล้ว เช่นเดียวกับนายไมเคิล แฮมมิล อายุ 46 ปี นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย เดินเท้าจาก อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จะไปลงนามแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่พระบรมมหาราชวัง ระยะทางรวม 900 กม. ล่าสุดได้เดินทางถึงที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ท่ามกลางการให้กำลังใจของประชาชนที่เดินทางผ่าน อีกรายคือนายอธิตา ศรีทวีป หรือบ่าว อายุ 30 ปี ชาว จ.สตูล เดินเท้าจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มุ่งหน้าสู่สนามหลวงเป็นวันที่สองเพื่อถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และร่วมลงนามแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เดินทางถึง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง แล้ว
ทหารเขมรร่วมแสดงความอาลัย
ที่สถานีขนส่งเมืองใหม่ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พล.อ.กน กีม รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเสนาธิการกองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพแห่งชาติกัมพูชา นายสี ประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย นำทหารและข้าราชการพลเรือนรวม 40 คน เดินทางข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำมาแสดงความไว้อาลัยในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคตโดยมี พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ รองแม่ทัพภาคที่ 2 พ.อ.วีรยุทธ รักศิลป์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 ให้การต้อนรับ ขณะที่ พล.อ.กน กีม กล่าวคำไว้อาลัยเป็นภาษากัมพูชาแปลเป็นภาษาไทยว่า ในนามนายทหาร นายสิบ และพลทหารแห่งกองทัพแห่งชาติกัมพูชา ขอแสดงความเศร้าโศกและร่วมแสดงความเสียใจในการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทย เป็นการสูญเสียอันใหญ่หลวงของประชาชนไทยและกองทัพไทยและมิตรประเทศทั่วโลก
ชาวตาคลีปลื้มไม่รื้ออาคารรถไฟ
ขณะเดียวกัน ชาว อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ต่างพาปลื้มดีใจทั้งเมือง เนื่องจากการรถไฟจะไม่รื้ออาคารสถานีรถไฟบ้านตาคลีหลังเก่าที่สร้างมานานกว่า 80 ปี เพื่อจะสร้างอาคารสถานีหลังใหม่เพราะอาคารสถานีหลังเก่าเป็นสถานีประวัติศาสตร์ที่พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯโดยรถไฟพระที่นั่งจากสถานีจิตรลดามาสถานีบ้านตาคลี เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2500 ครั้งนั้นเสด็จฯเยี่ยมเยียนพสกนิกรชาวตลาดตาคลี และชาวตาคลีได้เฝ้าชมพระบารมีอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะนายย่งกุ่ย แซ่ลิ้ม นางเกลียวพันธ์ ตั้งสุวรรณ และนายทองคำ ทรัพย์บุญรอด ผู้นำท้องถิ่นยุคนั้น ดังนั้น ชาวตาคลีจึงถืออาคารสถานีรถไฟหลังเก่าเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์คู่เมืองตาคลี และจะไม่มีการรื้อตัวอาคารหลังเก่า ส่วนการสร้างอาคารหลังใหม่ได้กำหนดห่างจากที่เดิมไปด้านใต้ประมาณ 800 เมตร
อดีตทหารปลื้มเข้าเฝ้าฯในหลวง
จ.ส.อ.ปราโมทย์ ท้าวโสม อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 89/258 ถนนฟ้าคราม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบุคคลในภาพที่คุณแม่พาไปเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งทั้งสองพระองค์เสด็จฯงานสมโภชพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2495 โดย จ.ส.อ.ปราโมทย์ เปิดใจว่า ตอนนั้นตนมีโอกาสเฝ้ารับเสด็จพร้อมกับแม่และน้องชาย ตอนแรกได้ข่าวจากกำนันว่าทั้งสองพระองค์จะเสด็จฯมาร่วมงานสมโภชพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ จากนั้นแม่ตนคือนางรัมภา ท้าวโสม ปัจจุบันอายุ 97 ปี ได้ชวนตนและน้องไปเก็บบัวที่บึงหลังบ้านเพื่อนำไปถวายในหลวงซึ่งทั้งตน แม่และน้องชายได้นำดอกบัวเข้าเฝ้าฯถวาย 9 ดอก ช่วงนั้นเป็นเด็กไม่รู้ประสีประสา เมื่อแม่บอกให้เข้าไปก้มกราบในหลวง ตนก็เดินฝ่าเชือกกั้นวิ่งเข้าไปก้มกราบที่ฝ่าพระบาทในหลวงทันทีซึ่งยังเป็นภาพที่ตราตรึงในหัวใจของตนตลอดทุกวันนี้
นับเป็นมหามงคลสูงสุดในชีวิต
จ.ส.อ.ปราโมทย์ กล่าวอีกว่า ระหว่างนั้นในหลวงทรงตรัสถามแม่ว่าสบายดีไหมมีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง แม่ได้ตอบว่า ครอบครัวมีความยากจนลำบากมาก และ ด.ช.มังกร (น้องชาย จ.ส.อ.ปราโมทย์) หลังหักเนื่องจากขึ้นไปเหยียบลูกตาลเล่นทำให้ล้มหลังกระแทกพื้นจนหลังหัก ในหลวงท่านเลยตรัสว่าเดี๋ยวจะนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ จากนั้นอีกไม่กี่วันมีรถเก๋งยี่ห้อโรลส์รอยซ์จากสำนักพระราชวังมารับตัวน้องชายไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯจนหายดี หลังเรียนจบพระองค์ยังให้รับราชการตำรวจในสำนักพระราชวังอีกด้วย ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ เป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัวอย่างสูงสุด แถมทั้งสองพระองค์ยังได้พระราชทานเหรียญทองบรรจุถุงสีเงินพร้อมกับพระที่มีรูปพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ให้ตนและครอบครัวนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณไม่รู้ลืม
พ่อเฒ่า 87 ปีปลื้มเข้าเฝ้าฯใกล้ชิด
นายมนูญ สังข์ศิริ อายุ 57 ปี รองประธานสภาเทศบาลตำบลป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2519 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยทางเรือพร้อมพระเจ้าลูกเธอทั้ง 2 พระองค์ เสด็จฯทรงนมัสการพระพุทธไสยาสน์ วัดป่าโมกวรวิหารสร้างความปลาบปลื้มปีติยินดีแก่ชาวจังหวัดอ่างทองที่ได้เข้าเฝ้าฯรับเสด็จเป็นอย่างมาก สอบถามนายนิยม ศรีโสภา อายุ 87 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม บุคคลในภาพที่เข้าเฝ้าฯรับเสด็จรัชกาลที่ 9 กล่าวว่า ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ครั้งหนึ่งเคยได้เฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิดพระองค์ท่าน และในฐานะพสกนิกรใต้ร่มพระโพธิสมภารและจะขอทำความดีตอบแทนคุณแผ่นดินจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ในหลวงตอบคำถามนักข่าวฝรั่ง
ขณะที่ พล.ต.กนก ภู่ม่วง ผบ.มทบ. 29 สกลนครและคณะเดินทางไปที่ด่านตรวจบ้านง่อน ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจพร้อมทักทายเจ้าหน้าที่ กศน.อ.สว่างแดนดินที่บริการย้อมผ้าให้ประชาชน พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อครั้งที่มีพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศเคยมีนักข่าวต่างประเทศสัมภาษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่าจะทำอย่างไรถึงจะเอาชนะพรรคคอมมิวนิสต์ได้ พระองค์ทรงตรัสตอบว่าไม่เคยคิดที่จะเอาชนะประชาชนเพราะผู้ที่เคยอยู่กับพรรคคอมมิวนิสต์ก็คือประชาชนแต่จะทำอย่างไรที่จะเอาชนะปัญหาความยากจน เอาชนะปัญหาความแห้งแล้งและทำอย่างไรจะให้ประชาชนของพระองค์อยู่ดีกินดีมากกว่า “คำตอบของพระองค์ทำให้เห็นว่ารักประชาชนคนไทยทุกคน ฉะนั้นในวันนี้ ขอบอกกับทุกคนว่า พระองค์จะอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป”
“ลุงเซียง” ไว้อาลัยผ่านเสียงพิณ
ส่วนนายวิเชียร แก่นศรี หรือ “ลุงเซียง” ชายสูงวัยที่มีหัวใจนักดนตรีมือพิณอีสาน ชาวบ้านดอนกลาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี หนึ่งในบุคลากรคุณภาพของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ผู้มีความสามารถด้านพิณมาตั้งแต่เด็ก โดยนายวิเชียรกล่าวว่า หลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสวรรคต ตนได้แต่นั่งอึ้งคิดในใจว่าจะทำอะไรตอบแทนคุณพระองค์ท่าน สิ่งเดียวที่ตนนึกและทำได้คือเล่นพิณ จึงได้คิดเขียนเพลงขึ้นใหม่ที่กลั่นกรองออกมาจากใจ ไว้อาลัยถวายแด่พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัยบนฟากฟ้า เสียงพิณที่เล่นครั้งนี้จะถ่ายทอดถึงอารมณ์และความรู้สึก อย่างน้อยที่สุดการบรรเลงลายพิณนี้เป็นตัวแทนชาวนาคนหนึ่ง จึงเลือกที่จะบรรเลงเสียงพิณท่ามกลางท้องทุ่งนาไร่กว้างถวายงานผ่านดนตรีเสียงพิณต่อภาพพระบรมฉายาลักษณ์พ่อหลวง ซึ่งมีต้นข้าว เถียงนา ต้นหญ้า นก ปลา ธารน้ำ มารายล้อมร่วมแสดงความอาลัย นายวิเชียรกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ป้าเศร้าเสียใจแม้ไม่เคยเข้าเฝ้าฯ
วันเดียวกัน นางปันนัดดา วงศ์ภูมิ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมนางกัลยา รงค์นคร อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 348/2 หมู่ 7 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่อยู่ในสภาพหดหู่ซึมเศร้านอนไม่หลับ หลังทราบข่าวในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต จนต้องไปหาหมอที่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านวังน้ำเขียว ทั้งนี้ นางกัลยากล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสวรรคต แม้ไม่เคยเข้าเฝ้าฯแต่มีความรักและภักดีต่อพระองค์ เมื่อระลึกสิ่งที่พระองค์ทำประโยชน์ให้กับคนไทยมากมาย ตนจึงน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์ มาทำเกษตรผสมผสานในแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น กล้วยน้ำว้า มะละกอ กาแฟ ทุเรียน สับปะรด ข่า แฟง มะเขือพวง เลี้ยงปลาดุก เลี้ยงไก่ แต่ละเดือนมีรายได้เลี้ยงตนเองแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลพืชเกษตร ที่สำคัญเป็นเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง
ทรงแนะปลูกกาแฟ “อาราบีก้า”
นายจะพือ หรือจักรพงษ์ มงคลคีรี อายุ 55 ปี ชาวเขาเผ่ามูเซอ ที่ยึดคำสั่งสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการดำรงชีวิตตั้งแต่จำความได้ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อปี 2517 ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จฯมาที่ชุมชนบ้านห้วยปลาหลด ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก เหตุที่พระองค์เสด็จฯมา เพราะแถวนี้มีแต่หญ้าคา และภูเขาหัวโล้น จากที่ชาวบ้านทำไร่ข้าวโพด ทำการเกษตรเชิงเดี่ยวมาก รวมทั้งปลูกฝิ่น ในหลวงไม่อยากให้ปลูกฝิ่นไม่อยากให้ทำลายป่า ท่านก็ให้ปลูกไม้หลายๆชนิด ไม้อย่างหนึ่งที่ในหลวงส่งเสริมคือ กาแฟพันธุ์อาราบีก้า จนมีสถานีวิจัยกาแฟอาราบีก้าครั้งแรกที่ จ.ตาก ชาวบ้านก็ได้รับกล้ากาแฟแจกและพัฒนาสายพันธุ์มาเรื่อย ขณะนี้กาแฟพันธุ์อาราบีก้าเป็นที่ต้องการของตลาด สิ่งที่ในหลวงไม่อยากให้ชาวเขาปลูกฝิ่น เพราะฝิ่นเป็นพืชที่ผิดกฎหมาย และทำลายความมั่นคงของชาติสังคมส่วนรวม
สะสมแสตมป์-แบงก์ไว้เป็นมงคล
ด้านนายพีระชัย บุญมาก อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/22 ถนนสมานมิตร ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ด้วยความจงรักภักดี ตนได้สะสมแสตมป์และแบงก์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 แทบทุกรุ่นที่ทางกระทรวงการคลังจัดทำขึ้นในวโรกาสต่างๆ โดยเฉพาะแสตมป์ทองคำในหลวง 99.79 เปอร์เซ็นต์ ตนมีอยู่ 1 ใบ ตอนนั้นราคาราว 4,300 บาท และเหรียญของในหลวงทุกรุ่นกว่า 300 เหรียญ ในส่วนแสตมป์ทองคำที่ตนมีอยู่หลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสวรรคตแล้ว มีนักสะสมจากกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาถามซื้อในราคา 10,000 บาท แต่ตนไม่ขายเพราะแสตมป์และธนบัตรเหล่านี้นับวันจะหายากและมีราคาสูงขึ้น ที่สำคัญมีมูลค่าที่จิตใจถือเป็นมงคลต่อชีวิตมากกว่าเงินทอง
ฝรั่งทำความดีถวายพระราชกุศล
นายไซมอน มาร์ค จอนห์สัน อายุ 52 ปี ช่างเครื่องบินชาวอังกฤษ หลังลาออกจากงานแล้วมาปักหลักอยู่กินกับภรรยาชาวไทยที่ จ.สกลนคร เมื่อ 16 ปีที่ผ่านมา จนมีพยานรัก 1 คน กล่าวว่า หลังภรรยาที่ประเทศอังกฤษเสียชีวิต ตนเลยย้ายมาอยู่เมืองไทยจนพบรักใหม่กับภรรยาคนไทย ตอนแรกตนเป็นจิตอาสาสอนภาษาอังกฤษตามโรงเรียนต่างๆฟรี โดยเฉพาะ กศน. เพราะอยากให้คนไทยเก่งภาษาอังกฤษ จากการที่มาอยู่เมืองไทยทำให้เกิดความรักความผูกพันที่คนไทยมีให้กับในหลวง ซึ่งประเทศของตนไม่เคยมีแบบนี้ ดังนั้น ตนจึงทำงานทุกอย่างเพื่อในหลวง เช่น การช่วยเหลือสังคม การสอนภาษาให้ฟรี การที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช เสด็จสวรรคตในครั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจมาก เช่นเดียวกับคนไทยทุกคน ที่รักพระองค์ และจะทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ต่อไป
สอนลูกหลานหวงสมบัติชาติ
ขณะที่นางวารี รักษาสัตย์ อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181/8 หมู่ 4 ต.บ้านหลุม อ.เมืองสุโขทัย อดีตพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนเคยรับเสด็จหลายครั้ง ตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียนพยาบาลที่ รพ.แมคคอร์มิค จ.เชียงใหม่ จนเข้ารับราชการที่สำนักงานสาธารณสุข จ.สุโขทัย ก่อนที่จะเกษียณเมื่อปี พ.ศ.2540 ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายส่งเสริมงานรักษาพยาบาล ที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เคยเสด็จฯ จ.สุโขทัยถึง 7 ครั้ง แต่ครั้งที่ได้เข้าเฝ้าฯรับเสด็จใกล้ชิดที่สุดและยังจำรับสั่งของพระองค์ท่านได้ดีที่สุดคือ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรโบราณสถานที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2515 ครั้งนั้นได้ยินพระองค์ทรงรับสั่งกับผู้ที่มารอเฝ้ารับเสด็จว่า “เราพาครอบครัวเรามาเยี่ยมโบราณสถานที่มีค่าของเรา” พอทุกคนได้ยินรับสั่งของพระองค์ท่านถึงกับน้ำตาคลอด้วยความปลาบปลื้มที่พระองค์ทรงมีความรักและหวงแหนในสมบัติของชาติ เมื่อทราบข่าวพระองค์ท่านสวรรคต ตนเสียใจจนบอกไม่ถูก จะตั้งใจทำความดี ยึดมั่นในศีลในธรรมและจะสอนลูกหลานให้ช่วยกันอนุรักษ์สมบัติของชาติตลอดไป
ประธานสภาฯนิวยอร์กร่วมอาลัย
ที่สหรัฐอเมริกา นายไพโรจน์ ปักษาษิณ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐรายงานว่า สภาเทศบาลนครนิวยอร์กพร้อมชุมชนชาวไทยในเมืองควีนส์ นครนิวยอร์กร่วมกันจัดพิธีจุดเทียนแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อคืนวันที่ 22 ตุลาคม เวลา 19.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับประเทศไทยวันที่ 23 ต.ค. เวลา 08.30 น.ที่จัตุรัสไดเวอร์ซิตี้ พลาซา บนถนนที่ 74 เมืองแจ็กสันไฮต์ส ควีนส์ นิวยอร์ก โดยมีนายยุทธนา ลิ้มเลิศวาที ผู้ประสานงาน และนายแดเนียล โดรมม์ ประธานสภาเทศบาลนครนิวยอร์ก นำชาวไทยและชาวอเมริกันเข้าร่วมพิธีประมาณ 300 คน ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายและลมพัดแรง แต่ผู้ร่วมพิธีต่างปักหลักร่วมพิธี จุดเทียนแสดงความอาลัยและร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีโดยประธานสภาเทศบาลนครนิวยอร์กกล่าวว่า ตนให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของชุมชนไทยตลอดมา เข้าใจในความรู้สึกของคนไทยในการสูญเสียครั้งนี้
ผู้นำนิวซีแลนด์ชื่นชมพ่อหลวง
ส่วนประเทศนิวซีแลนด์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน เปิดให้ชาวนิวซีแลนด์ คณะทูตานุทูต ทูตและชาวต่างชาติลงนามแสดงความอาลัยเป็นเวลา 2 อาทิตย์ตั้งแต่ 14-21 ต.ค. ส่วนชาวไทยเปิดให้ลงนาม ทุกวัน และมีชาวไทยไปร่วมแสดงความอาลัยไม่ขาดสาย ท่ามกลางความโศกเศร้า สำหรับบุคคลสำคัญของนิวซีแลนด์ที่มาร่วมลงนามแสดงความอาลัย ได้แก่ นายเดวิด คาร์เตอร์ ประธานรัฐสภานิวซีแลนด์ และนายแอนดรูว์ ลิตเติล หัวหน้าพรรคแรงงานและผู้นำฝ่ายค้านในรัฐสภานิวซีแลนด์ นอกจากนี้ นายจอห์น คีย์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ได้กล่าวเทิดพระเกียรติในหลวงและแสดงความอาลัยในรัฐสภานิวซีแลนด์ โดยกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่มีต่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชนชาวไทย พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์เป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในโลก และเป็นช่วงสำคัญของการพัฒนาประเทศ จนประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชาวเช็กร่วมแสดงความอาลัย
ขณะที่ประเทศสาธารณรัฐเช็ก น.ส.เนตรนภา แก้วแสงธรรม ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำกรุงปรากรายงานว่า นายณรงค์ ศศิธร เอกอัครราชทูต ณ กรุงปรากได้เปิดให้ชาวไทยลงนามในสมุดแสดงความอาลัยทุกวันที่สถานเอกอัครราชทูตมีคณะทูตานุทูต ชาวออสเตรเลียและชาวไทยไปร่วมลงนามแสดงความอาลัยทุกวัน ส่วนบุคคลสำคัญระดับรัฐบาลที่ไปลงนามแสดงความอาลัยได้แก่ นายลูโบเมีย เซาราเลค รมว.ต่างประเทศ โดยนายเซาราเลคได้กล่าวแสดงความเสียใจในนามรัฐบาลและประชาชนชาวเช็ก ไปยังพระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาลและประชาชนชาวไทยว่า ประเทศไทยได้สูญเสียบุคคลที่มีคุณสมบัติความเป็นมนุษย์ที่ยอดเยี่ยม สัญลักษณ์แห่งการพัฒนาที่ยั่งยืนและความสามัคคีของประเทศไทยทำให้พระองค์ได้รับความเคารพรักจากประชาชนชาวไทยและประชาชนทั่วโลก ส่วนนายมิโล เซแมน ประธานาธิบดีเช็ก และนายโบฮูสลาฟ โซโบทกา นายกรัฐมนตรีเช็กได้ส่งสาส์นแสดงความเสียใจไปยังพระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาลและประชาชนชาวไทย ผ่านช่องทางทางการทูตด้วย
คนไทย-ญี่ปุ่นทำบุญถวาย
นอกจากนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น นางสุพิชญ์ชญา แฮร์ริส ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำกรุงโตเกียว รายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียวได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโดยนายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์เจริญจิตภาวนา จากนั้นประธานในพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์และร่วมรับพรจากพระสงฆ์พร้อมนำทุกคนร่วมแสดงความอาลัยโดยมีข้าราชการทีมประเทศไทย ประชาชนชาวไทยในญี่ปุ่นและชาวญี่ปุ่นเข้าร่วมงานในครั้งนี้ประมาณ 1,000 คน
เตือนอย่าซื้อธนบัตรเคลือบทอง
พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนเกี่ยวกับการซื้อธนบัตรที่มีลักษณะเคลือบทอง ซึ่งเป็นของที่ผลิตจากสาธารณรัฐประชาชนจีนทำด้วยกระดาษหรือพลาสติกที่นำไปชุบทองมาและนำมาจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาสูงถึงหลักพันบาท ขอประชาชนอย่าหลงซื้อเป็นอันขาด เรื่องนี้ถือเป็นการฉวยโอกาสจากคนไทยในช่วงนี้ จากการตรวจสอบพบว่าระบาดมากที่ จ.เชียงใหม่ โดยในขณะนี้ คสช.กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งตรวจสอบเพื่อดำเนินการต่อไป