ชาวบ้านสุโขทัย เฮ! สถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลาย พ่อเมืองสุโขทัยรุดเยี่ยม สร้างความมั่นใจให้ชาวบ้าน ขณะที่ พิษณุโลก ชาวบ้านเร่งเก็บมะระ บวบ ถั่วฝักยาว ขายให้กับแม่ค้า หลังน้ำเริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมไร่ บ้านเรือนที่อยู่ริมคลอง ส่วนที่ ลำปาง น้ำป่าจากต้นน้ำแม่น้ำวัง ทะลักท่วม อ.วังเหนือ พื้นที่ 2 ตำบลอ่วม! หลายหน่วยงาน เตรียมพร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน ...

สถานการณ์น้ำที่สุโขทัยคลี่คลาย

วันที่ 20 ส.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน จ.สุโขทัย เริ่มคลี่คลาย อันเนื่องจากปริมาณฝนตกลดลงในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ เช่น จ.พะเยา และ จ.แพร่ ทำให้มวลน้ำก้อนสุดท้ายที่ไหลลงมาผ่าน อ.ศรีสัชนาลัย เข้าสู่ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ที่ ต.ในเมือง อ.สวรรคโลก มายัง อ.ศรีสำโรง และ อ.เมืองสุโขทัย มีปริมาณลดลง ประกอบกับทางจังหวัดได้ผันมวลน้ำก้อนนี้เข้าสู่แหล่งกักเก็บขนาดใหญ่หลายแห่ง เพื่อไว้ใช้ช่วยเหลือเกษตรกรในฤดูแล้ง และเป็นน้ำต้นทุนในการผลิตน้ำประปา

นายปิติ แก้วสลับสี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมคณะ ได้ไปตรวจเยี่ยมประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำยม ใกล้กับ ปตร.บ้านบางคลอง ม.6 ต.ปากแคว อ.เมือง ซึ่งใช้ผันน้ำจากแม่น้ำยมให้ไหลเข้าสู่คลองทางไม้ เพื่อไปลงสู่โครงการแก้มลิง ทุ่งทะเลหลวง พบว่าระดับน้ำบริเวณดังกล่าวเริ่มทรงตัว คาดว่าภายใน 2-3 วัน ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ

...

นายปิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า แหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่หลายแห่ง ยังสามารถผันน้ำเข้าไปได้อีก อาทิ ทุ่งแม่ระวิง อ.ศรีสัชนาลัย ความจุ 10 ล้านลบ.ม. ผันน้ำเข้าไปแล้ว 5 ล้านลบ.ม. อ่างหนองปลาหมอ อ.สวรรคโลก ความจุ 2 ล้านลบ.ม. ผันน้ำเข้าไปแล้ว 1.5 ล้านลบ.ม. บึงใหญ่ ต.บ้านสวน อ.เมือง ความจุ 12 ล้านลบ.ม. ผันน้ำเข้าไปแล้ว 4 ล้านลบ.ม. และทุ่งทะเลหลวง ต.บ้านกล้วย อ.เมือง ความจุ 32 ล้านลบ.ม. ผันน้ำเข้าไปแล้ว 14 ล้านลบ.ม. โดยมั่นใจว่า จ.สุโขทัย จะพ้นวิกฤติครั้งนี้ พร้อมกับการกักเก็บน้ำใช้เป็นต้นทุนปีหน้าให้มากที่สุด ตามแนวนโยบายของรัฐบาล แต่ก็ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสาร และประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ หรือจากผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่อีกด้วย

พิษณุโลก แม่น้ำยมเริ่มเอ่อล้น ชาวบ้านขนของจ้าละหวั่น

ส่วนที่บ้านวังขี้เหล็ก หมู่ที่ 10 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำต่อจาก จ.สุโขทัย น้ำในคลองเมม หรือ แม่น้ำยมสายเก่า เริ่มเอ่อล้นตลิ่งแล้ว ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน และพื้นที่ทางการเกษตรที่อยู่ติดกับคลองดังกล่าว ส่งผลให้ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมต้องขนสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงกันจ้าละหวั่น ขณะที่ ชาวนาที่ปลูกข้าวไว้อีกฝั่งถนน เร่งอุดท่อระบายน้ำกันไม่ให้น้ำไหลเข้านาข้าวในจุดที่เสี่ยง

นางมะระ รักแจ้ง อายุ 48 ปี ชาวบ้านวังขี้เหล็ก เปิดเผยว่า ตนปลูกบวบ มะระ และถั่วฝักยาวไว้ จำนวน 3 ไร่ ตอนนี้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ไม่คิดว่าน้ำจะมาเร็ว ตื่นเช้าน้ำยังแค่ปริ่มคลอง กระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น. น้ำก็เอ่อล้นจากคลองเข้าท่วมไร่แล้ว ต้องจ้างรถแบ็กโฮมาขุดดินถมคันกั้นไร่ไว้ก่อน และตัดสินใจเก็บเกี่ยวผลผลิต ทั้งบวบ มะระ และถั่วฝักยาว ขายให้กับแม่ค้าที่มารับซื้อถึงไร่ให้ได้มากที่สุด เรียกว่าต้องลุยน้ำเก็บผลผลิตกันเลยทีเดียว หากทำคันกั้นเสร็จแล้ว ระดับน้ำไม่สูงขึ้นไปมากกว่าคันดินที่ถมไว้ ก็คาดว่าจะสามารถเก็บผลผลิตขายได้อีก แต่ถ้าน้ำขึ้นสูงจนล้นคันดิน ก็ต้องทำใจ ขาดทุนแน่นอน

...

ด้าน นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานยม-น่าน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ อยู่ในช่วงการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะมวลน้ำก้อนที่มาทางแม่น้ำยมสายเก่า จะผ่าน อ.กงไกรลาศ ก่อนเข้าเขต จ.พิษณุโลก ทาง ต.หนองแขม ก่อนเข้า ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ไปยัง ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก และเข้าสู่คลองบางแก้ว ต.บางระกำ อ.บางระกำ

ส่วนระดับน้ำ ตั้งแต่เมื่อวาน จนถึงเวลา 12.00 น.วันนี้ น้ำเพิ่มขึ้น 1.20 เมตร จึงได้ร่วมกับนายอำเภอพรหมพิราม ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และ อบต.ท่าช้าง ออกสำรวจพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยง ก่อนที่จะใช้รถแบ็กโฮของ สำนักชลประทานที่ 3 พิษณุโลก เสริมคันดินบริเวณตลิ่งที่ต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตร เพราะเชื่อว่าระดับน้ำไม่น่าจะสูงขึ้นกว่านี้ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำอีก สำหรับบางระกำโมเดล ณ ตอนนี้ การรองรับน้ำสามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ สำหรับคลองเมม สามารถรองรับน้ำได้ 150 ลบ.ม.ต่อวินาที เชื่อว่าระดับน้ำจะไม่วิกฤติไปมากกว่านี้

ลำปางฝนกระหน่ำ! น้ำป่าทะลักท่วมซัดสะพานขาด

...

ส่วนเมื่อคืน วันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ในพื้นที่เทศบาลตำบลวังเหนือ และอบต.วังซ้าย จ.ลำปาง ทำให้น้ำป่าจากต้นน้ำแม่น้ำวัง ได้ทะลักเข้าท่วมบ้านข่อย ม.7 และบ้านแม่สุก ต.วังซ้าย ชาวบ้านได้รับความเสียหายกว่า 100 ครัวเรือน และเป็นเหตุให้สะพานข้ามระหว่างบ้านข่อยและบ้านแม่สุก ถูกน้ำพัดกระหน่ำจนสะพานขาดสะบั้น

ล่าสุด วันนี้ (20 ส.ค.) นายเกรียงเดช สุทธภักติ รองนายก อบจ.ลำปาง ได้นำอุปกรณ์เครื่องมือกู้ภัยและเรือท้องแบน เข้ามาสมทบกับเจ้าหน้าที่ ปภ.สาขาวังเหนือ แล้ว หากฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่า น้ำป่าจะรุนแรงมากกว่านี้ ต่อมาได้มีการประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนรีบเก็บสิ่งของมีค่าขึ้นไว้ที่สูง และให้จัดสายตรวจประจำหมู่บ้านเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

...

ส่วนที่ จ.น่าน นายประสพชัย ปรางค์ทอง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงน่านที่ 1 พร้อมด้วย นายกิตกาน อินยัญญะ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม แขวงการทางน่านที่ 1 ได้นำเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงน่านที่ 1 กว่า 30 คน พร้อมรถเครน 6 ล้อ บรรทุกแผ่นเหล็ก เพื่อจะนำไปประกอบสะพานแบรลี่ย์ สะพานคอนกรีตเชื่อมต่อระหว่างบ้านน้ำตวง หมู่ที่ 9 ตำบลน้ำพาง ไป บ้านสว่างหมู่ที่ 10 ตำบลหนองแดง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน โดยมี ต.ช.ด.324 และชาวบ้านกว่า 30 คน ช่วยกันประกอบสะพานแบรลี่ย์ ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

นายประสพชัย กล่าวว่า ในเบื้องต้นนั้น จะทำเป็นสะพานแบรลี่ย์เป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อให้ชาวบ้านและมอเตอร์ไซค์ สามารถข้ามสัญจรผ่านไปมาได้ หลังจากหมดช่วงฤดูฝนก็จะเร่งดำเนินการแก้ไขซ่อมแซมให้ถาวร เพราะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน การทำงานนั้นค่อนข้างจะยากลำบาก

เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. การประกอบสะพานแบรลี่ย์ดังกล่าว ยังไม่เสร็จ เพราะในพื้นที่มีฝนตก ทำให้ยากต่อการประกอบ แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงน่านที่ 1 จะเร่งดำเนินการประกอบสะพานให้เสร็จก่อนค่ำวันนี้ (20 ส.ค.)

พ่อเมืองน่าน ตรวจลำน้ำสาขา พบระดับน้ำไม่น่าวิตก

ขณะที่ นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำตามลำน้ำสาขาต่างๆ ทางอำเภอตอนบนของจังหวัดน่าน โดยกล่าวว่า ระดับปริมาณน้ำไม่น่าวิตกแต่อย่างใด แต่ไม่ควรประมาท โดยขณะนี้ ปริมาณน้ำในลำน้ำสาขา ลำน้ำจากลำห้วย เริ่มลดลงบ้างแล้ว ทั้งนี้ จะมีผลกระทบในภาพรวมของประชาชนในหมู่บ้าน ชุมชน และนาข้าว พืชไร่พืชผลได้รับความเสียหาย แต่ปัญหาที่พบและน่าห่วง คือลำน้ำสาขาต่างๆ ในพื้นที่ ประกอบด้วย ลำน้ำว้า ลำน้ำสมุน และลำน้ำแหง ที่มีน้ำไหลบ่าต่อเนื่อง อันมีผลกระทบต่อชาวชุมชน และหมู่บ้านที่อยู่ติดลำห้วย

สำหรับผลกระทบจากฝนตกครั้งนี้ มีอำเภอที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ อำเภอแม่จริม คอสะพานบ้านหนองแดงใหม่ ตำบลหนองแดง คอสะพานขาดและชำรุด ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และ อำเภอท่าวังผา เส้นทางชำรุด บริเวณถนนท่าวังผา-ศิลาเพชร ตำบลยม อำเภอเวียงสา บ้านไหล่น่าน หมู่ 1 มีน้ำจากลำห้วยน้ำว้า ไหลเข้าท่วมสวนผลไม้เสียหาย ระดับน้ำสูงประมาณ 30 ซม.-1 เมตร และความเสียหายในอีกหลายพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายในภาพรวมได้

ส่วนระดับน้ำเมื่อเวลา 16.00 น. ที่ N 64 สะพานบ้านผาขวง วัดได้ 7.23 เมตร และที่จุดวัดน้ำ ที่ N1 สะพานพัฒนาภาคเหนือ วัดได้ 7.28 เมตร ใน 1 ชม.ที่ผ่านมา ระดับน้ำ N1 ได้เพิ่มขึ้น 5 ซม. อย่างไรก็ตาม อัตราการไหลของน้ำเริ่มเบาบางลง ต้องรอดูและติดตามสถานการณ์จนกว่าจะไม่มีฝนตกลงมาอีก.