ชาวบ้าน ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เดินหน้าค้านโรงงานยางพาราที่จะมาตั้งในพื้นที่ นำรายชื่อยื่นต่อ ผวจ.พร้อมขอดูรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ชี้ผลเสียจะเกิดตามหลายอย่าง ชาวบ้านเดือดร้อนแน่ ...
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 14 มิ.ย. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายไล สิงห์เส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แกนนำพร้อมชาวบ้านและตัวแทนโรงเรียนในพื้นที่ตำบลบ้านกลาง พร้อมพันโท ณฑี ทิมเสน ผบ.ม.พัน 28 เข้าพบนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ เพื่อยื่นหนังสือลายมือชื่อชาวบ้าน ที่คัดค้านการก่อสร้างโรงงานยางพาราในพื้นที่ ของบริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด(มหาชน)
ทั้งนี้ แกนนำชาวบ้านได้ชี้แจงถึงผลกระทบต่อชุมชนว่า เพชรบูรณ์ เป็นเมืองท่องเที่ยวและมีพืชเศรษฐกิจ เช่น ยาสูบ ข้าวโพด เป็นพื้นที่ป่าไม้ต้นน้ำ การก่อสร้างโรงงานผลิตยางพาราจะส่งผลกระทบเรื่องกลิ่นเหม็น การระบายน้ำเสียลงแม่น้ำป่าสัก พื้นที่ป่าก็ถูกทำลาย เพราะชาวบ้านบางส่วนบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกยางพารา และจะขยายเพิ่มไปเรื่อยๆ อีกทั้งเมื่อปล่อยน้ำลงดินแล้ว น้ำผิวดินและน้ำใต้ดินจะเป็นกรด ทำให้การปลูกพืชเศรษฐกิจเกิดผลกระทบไม่ได้ผลผลิตและไม่ได้ราคา ไม่มีผู้รับซื้อ ผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเกิดขึ้นเป็นระยะยาวและเกิดขึ้นกับพื้นที่ แต่ผลประโยชน์กลับตกกับกลุ่มทุนกลุ่มเดียว อีกทั้งการดำเนินการของอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์นั้นไม่ผ่านการประชาคม ก่อนมีการประกาศให้มีผู้คัดค้านภายใน 15 วัน
...
ด้านตัวแทนอุตสาหกรรมชี้แจงว่า โรงงานจำพวกที่สาม ระบุไม่ต้องใช้การประชาคมหมู่บ้าน ตามระเบียบให้ทำแค่การปิดประกาศและหากไม่มีผู้คัดค้านก็ให้เสนอผวจ.ลงนามเพื่อยื่นเรื่องต่อไปที่กรมอุตสาหกรรม ภายใน 15 วัน
ขณะที่นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เมื่ออุตสาหกรรมดำเนินการตามระเบียบแล้ว ผวจ.จะต้องลงนามตามนั้น เพราะไม่อย่างนั้น อาจถูกฟ้องได้ แต่อย่างไรก็ตามจะนำรายชื่อผู้คัดค้าน แนบเสนอต่อไปยังกรมฯให้
จากนั้นชาวบ้านได้รวมตัวกันไปขอหนังสือใบเห็นชอบการวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมและผลการวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม จากอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อขอดูว่า การสร้างโรงงานมีผลกระทบอย่างไรบ้าง เพื่อจะรู้ว่าการดำเนินเรื่องของอุตสาหกรรม ทำไปโดยครบองค์ประกอบหรือไม่ เกิดผลกระทบอย่างไร เพราะหนังสือดังกล่าวมีผลและเป็นสาระสำคัญที่จะสามารถก่อสร้างโรงงาน ได้หรือไม่.
อ่านเพิ่มเติม