เพลิงไหม้ป่าดอยสุเทพ-ปุย เสียหายเป็นวงกว้างนับร้อยไร่แล้ว ขณะนี้ยังดับไฟไม่ได้ คาด สาเหตุชาวบ้านจุดไฟหาของป่า ขณะที่พื้นที่แห้งแล้งและอากาศร้อนจัด ส่วน จนท.เร่งเข้าควบคุมไฟป่า แต่ยังไม่คุมเพลิงได้ เพราะเป็นพื้นที่สูงชัน เข้าถึงยากลำบาก 

เหตุไฟป่าเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น เวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 8 พ.ค. 59 โดยทางผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีผู้พบเห็นควันจากไฟไหม้ป่า และกำลังลุกลามรุนแรง ภายในดอยขุนช่างเคี่ยน ซึ่งเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยไฟป่าดังกล่าวได้ลุกลามเป็นวงกว้างจนมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากระยะไกล และกินพื้นที่เป็นแนวยาว ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงช่วงค่ำ รวมระยะเวลานานหลายชั่วโมง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมกำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นหน้าผาสูงชัน ประกอบกับสภาพพื้นที่แห้งแล้งและอากาศร้อนจัด ทำให้การดำเนินการแก้ไขเป็นไปอย่างยากลำบาก ล่าสุด ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟป่าในพื้นที่ครั้งนี้ คาดว่าน่าจะมาจากชาวบ้านเข้าไปหาของป่า และลักลอบเผาจนทำให้ไฟลุกลาม ขยายเป็นวงกว้างในเวลารวดเร็ว โดยมีพื้นที่ได้รับความเสียหายหลายสิบไร่

...

โดยทาง นายอัมพร ปานมงคล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย รายงานสถานการณ์การเข้าปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องล่าสุด ว่า จากการเกิดเหตุไฟป่าลุกลามหนักในพื้นที่ดอยขุนช่างเคี่ยน ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย ได้ระดมทีมร่วมกับเจ้าหน้าดับไฟป่า ของสถานีควบคุมไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 50 คน ขึ้นปฏิบัติการเต็มกำลังบริเวณนาไร่หลวง โดยไฟป่านั้นกินวงกว้างประมาณ 3 กิโลเมตร บริเวณยอดเขา อยู่ห่างจากวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารประมาณ 1-2 กิโลเมตร โดยเพลิงได้ลุกไหม้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. โดยประมาณ ขณะนี้ยังไม่ทราบต้นเหตุการปะทุของเพลิงว่ามาจากไหน คาดว่าจะใช้เวลาอีกราว 3 ชั่วโมง จึงจะสามารถหยุดเพลิงไหม้ป่าในครั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เจ้าหน้าที่ทำการควบคุมไฟป่าอยู่ในวงจำกัดอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า อย่างไรก็ตามในช่วงค่ำวันนี้ (8 พ.ค. 59) ได้เกิดไฟป่าปะทุขึ้นอย่างหนักในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากไฟป่าที่เกิดขึ้นในช่วงเย็น โดยไฟป่าโหมไหม้จนเปลวเพลิงเป็นสีส้มแดงมองเห็นแต่ไกลในช่วงกลางคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยไฟป่าเชียงใหม่ได้จัดชุดเสือไฟ พร้อมทั้งระดมนำรถน้ำ และอุปกรณ์เข้าสกัด โดยได้มีการตีวงรอบโอบให้ไฟไหม้มาบรรจบกันเข้าไปยังพื้นที่ป่าด้านบน ซึ่งคาดว่าพื้นที่ไฟไหม้ป่าที่ปะทุขึ้นในรอบค่ำนี้กินพื้นที่กว้างหลายสิบไร่ และคาดว่าไฟป่าที่ลุกลามในขณะนี้อาจต้องใช้เวลาในการสกัด และกลับสู่เหตุการณ์ปกตินานหลายชั่วโมงจนอาจถึงช่วงเช้าของอีกวัน

ขณะที่ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ผ่านไปแล้วเกือบ 5 ชม. ( 8 พ.ค.) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย บริเวณด้านหลังศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ์ บ้านช่างเคี่ยนหมู่ 1 ต.ช้างเผือก เพลิงได้โหมลุกลามไหม้เป็นวงกว้างหลายสิบไร่ เนื่องจาก เป็นป่าเต็งรัง และมีเศษใบไม้ทับถมกันกันเป็นจำนวนมาก

หลังจากเกิดเหตุ ทางนายศรัญญู มีทองคำ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ประสานขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากท้องที่ใกล้เคียง พร้อมกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จำนวนหลายสิบนาย เข้ามาเตรียมพร้อมบริเวณ สำนักสงฆ์ พุทธธรรมหนอฮ้อ และค่ายลูกเสือช่างเคี่ยน ที่มีแนวป่าติดกับป่า ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือที่ไฟป่าอาจลุกลามลงมา ส่วนบนดอยที่เกิดเหตุนั้น เป็นที่สูงชัน บางส่วนเป็นหนาผา ทางเจ้าหน้าที่ไฟป่า ต้องเดินเท้าเข้าไปดับไฟด้วยความยากลำบาก ขณะนี้เพลิงยังไหม้ลุกลามขยายเป็นวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ยังไม่สามารถจะดับได้

ด้านนายเก่ง กิจชำนาญการ ชาวบ้านหมู่ 1 บ้านช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก ที่มีบ้านอยู่ใกล้กับจุดเพลิงไหม้ เผยว่า เพลิงได้ไหม้ป่าบนดอยได้มาเมื่อ 2 วันแล้ว บริเวณขุนช่างเคี่ยนและเป็นภูเขาสูงชัน ตอนแรกก็ไหม้ไม่มากนัก ชาวบ้านได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมมาดับ เนื่องจากเป็นวันหยุด เมื่อช่วงเย็นวันนี้จะลุกลามไหม้เป็นวงกว้าง จึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ส่งรถดับเพลิงมาช่วยเหลือชาวบ้านร่วม 300 ครอบครัวที่อยู่ใกล้กับเขตป่าที่ถูกเพลิงไหม้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า บริเวณที่เกิดไฟป่า เป็นพื้นที่ลาดชัน ไม่สามารถเข้าไปดับได้โดยตรง เจ้าหน้าที่ของอุทยานและท้องถิ่น กว่า 100 คน ได้ร่วมทำแนวกันไฟเพื่อควบคุมการลุกลามเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน มีการเตรียมรถดับเพลิงของท้องถิ่น จำนวน 3 แห่ง ไว้บริเวณค่ายลูกเสือ กรณีที่อาจจะลุกลาม และขณะนี้ศูนย์ไฟป่าดอยสุเทพตอนนี้เขาต้องการ คือ 1กำลังพลที่จะไปช่วยดับไฟ อันนี้ขอเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย (ต้องแต่งเครื่องแบบตามหน่วยหรือถ้ามีบัตรก็ให้ติดมาด้วย) หรือเจ้าหน้าที่ที่เคยอบรมไฟป่ามา เนื่องจากในพื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน หากคนไม่ชำชาญกลัวจะเกิดอันตรายกับผู้ที่ยังไม่เคยดับไฟป่า 2 แฟนเพจหากต้องการที่จะสนับสนุน อาหาร หรือ น้ำดื่มสามารถนำไปมอบให้ได้ที่ศูนย์ไฟป่าเลยครูบาศรีวิชัย ไปไม่เกิน 3 กิโลเมตร หรือ โทรไปที่ 053-939-398 ศูนย์ไฟป่า

...