หลักฐาน‘คอม’มัดหยอง แฉไถ100ล้านธุรกิจใหญ่ จักรทิพย์นัดแถลง28ตค.
ญาติรับศพ “สารวัตรเอี๊ยด” ไปเผาที่วัดในจังหวัดนนทบุรีแล้ว “ไพบูลย์” ยืนยันมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจพิสูจน์ศพที่ รพ.ราชทัณฑ์ พร้อมออกใบมรณบัตร ถ้าญาติติดใจให้ไปร้องที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ ส่วน “หมอหยอง” แค่เครียดความดันขึ้น ด้าน “ฐิติราช หนองหารพิทักษ์” ยัน พ.ต.ต.ปรากรมแอบอ้างเบื้องสูงขอตำแหน่ง รอง ผกก.จริง แต่ไม่ได้ให้เพราะผิดระเบียบ ตร. ชุดสืบสวนขยายผลการตรวจค้นคอนโดลาเมซองมาพบทั้งรถหรูเบนท์ลีย์-โรลส์รอยซ์ เงินสด พระเครื่องของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีต ผกก.1 บก.ป. ที่เสียชีวิตไปแล้ว แถมมีข้อมูลไถเงินเอกชน 100 ล้านบาท ส่วนการกู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์หมอหยองพบหลักฐานอมเงินกิจกรรมการกุศลหลายรายการ ส่วน “ประวิตร” ยันจำเป็นต้องใช้คุกทหาร ชี้ “สารวัตรเอี๊ยด” ฆ่าตัวตายไม่ใช่เคสแรก ส่วนนายกฯยังไม่รู้เรื่องออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม ถ้ามีเดี๋ยวรู้เองจับใครอีก
กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน นำโดย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. คลี่คลายคดีกลุ่มคนแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงไปกระทำการอันมิบังควร ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จับกุม นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง อายุ 53 ปี พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา สว.กก.1บก.ปอท. หรือสารวัตรเอี๊ยด อายุ 44 ปี และนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาท ชัตเตอร์มหาเทพ อายุ 39 ปี นำตัวไปควบคุมที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ขณะที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พบความผิดเกี่ยวกับการแอบอ้างเบื้องสูงจำนวนมาก จน พ.ต.ต.ปรากรมตัดสินใจ ผูกคอตายในเรือนจำฯ ส่วนหมอหยองเริ่มมีอาการป่วยกำเริบ
...
แฉ “เอี๊ยด” อ้างเบื้องสูงเอาตำแหน่ง
ความคืบหน้าจาก บช.ก.เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ต.ค. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก.กล่าวว่า พ.ต.ต.ปรากรม แอบอ้างเพื่อขอเลื่อนยศเป็น รอง ผกก.ในสังกัด บก.ป.จริง แต่ตนเองปฏิเสธ เนื่องจากคุณสมบัติไม่ครบตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลายข้อหาที่พนักงานสอบสวนเตรียมพิจารณาว่า เข้าข่ายความผิดหรือไม่ ส่วน 13 นายตำรวจในสังกัด บช.ก.ที่ตนมีคำสั่งให้มาช่วยราชการนั้น ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาหรือให้ออกจากราชการ ยืนยันชุดสืบสวนสอบสวนจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนเองไม่มีความกังวลที่ได้รับมอบหมายในการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีดังกล่าว หากการตรวจสอบพบว่ามีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือมีการพาดพิงไปถึงบุคคลใด จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ส่วนรายละเอียดของคดีทั้งหมด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.จะเป็นผู้ให้ชี้แจงถึงที่มาที่ไปของคดีทั้งหมดในวันที่ 28 ต.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
“จักรทิพย์” ขอแถลงใหญ่ 28 ต.ค.
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ผู้สื่อข่าวให้ความสนใจมา 3-4 วันแล้ว ตนขอเวลาอีกสัก 2 วันจะจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นจนจบ มีข้อสงสัยในประเด็นใดให้ถามในวันนั้นเลย ถามได้ทุกเรื่อง ตนจะนำทีมงานมานั่งแถลง ให้กลับไปคิดเป็นการบ้านว่าจะถามอะไร ที่ต้องขอเวลาอีก 2 วัน เพราะขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน ต้องการทำทุกอย่างให้ครบวงจรจะได้ชี้แจงทีเดียว ขณะนี้ยังมีหลายประเด็นที่ต้องระดมความคิดจากการสอบสวนได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องที่ พ.ต.ต.ปรากรมแอบอ้างเบื้องสูงในการขอเลื่อนยศที่สูงขึ้น ตนได้ยินมาอย่างนั้นแต่ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะยังไม่ถึงวาระการแต่งตั้งในระดับนั้น ส่วนประเด็นการแอบอ้างวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ตนไม่แน่ใจเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่ทราบเขาไปคุยกับใครเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ทางตนไม่มี
เผย “เอี๊ยด” พาดพิงบุคคลที่ 3
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวต่อไปว่า มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้ว่าสามารถดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ ส่วนการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่ม ได้รับรายงานเบื้องต้นว่าอาจจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม แต่ยังไม่ขอระบุรายละเอียด ส่วนจะเป็นนายตำรวจหรือนายทหารระดับสูงหรือไม่ ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขอให้รอความชัดเจนในวันแถลงข่าวอีกครั้ง ส่วนการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.ปรากรม ทราบข่าวจากสื่อยังไม่ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนถึงรายละเอียดการเสียชีวิต แต่ได้รับรายงานว่า ในการสอบปากคำ พ.ต.ต.ปรากรม ได้พาดพิงถึงบุคคลที่ 3 แต่ไม่ขอระบุว่าเป็นใคร คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์จะสามารถสรุปสำนวนคดีดังกล่าวได้
นักข่าวรอที่นิติเวช รพ.ตร.เพียบ
ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ตลอดช่วงเช้าสถาบันนิติเวชยังคงเปิดทำการตามปกติ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันมีผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักมารอติดตามการนำศพ พ.ต.ต.ปรากรมเข้ามาชันสูตร โดยไม่มีพ่อแม่หรือญาติของ พ.ต.ต.ปรากรม เข้ามาติดต่อขอรับศพแต่อย่างใด ด้าน พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เผยสั้นๆว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในการนำศพมาชันสูตรที่นิติเวช หรือให้เข้าไปชันสูตรที่ รพ.ราชทัณฑ์ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.ปรากรม
“ไพบูลย์” ยัน “หมอหยอง” ยังอยู่
ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงข่าวลือว่านายสุริยันหรือหมอหยองเสียชีวิตว่า เมื่อเช้าวันนี้ 26 ต.ค. เรียกนายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้ามารายงานเรื่องดังกล่าวให้ทราบแล้ว ยืนยันว่า นายสุริยันยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีไม่มีอาการน่าเป็นห่วง นายสุริยันได้ร้องขอรับประทานอาหารมื้อเช้าเป็นโจ๊ก เจ้าหน้าที่เรือนจำก็จัดการให้ อย่างไรก็ตามคิดว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น และไม่รู้ว่าคนที่ปล่อยข่าวมีเจตนาอย่างไร
...
พิสูจน์ศพ พ.ต.ต.ปรากรม ที่ รพ.ราชทัณฑ์
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีศพ พ.ต.ต.ปรากรม เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอรับศพออกจากทัณฑสถานโรงพยาบาลแล้ว โดยมีอธิบดีกรมราชทัณฑ์ไปคอยดูแล ให้คำชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุการตายของ พ.ต.ต.ปรากรม หากญาติผู้ตายติดใจการเสียชีวิตก็มีขั้นตอนตามกฎหมายสามารถร้องเรียนที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ แต่ขณะนี้ขบวนการดังกล่าวผ่านไปเรียบร้อยหมดแล้ว มีการออกใบมรณะผู้ตายแล้ว พร้อมส่งศพ พ.ต.ต.ปรากรมให้ทางญาติรับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
มั่นใจยังใช้เรือนจำชั่วคราวฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นต้องมีการปรับมาตรการดูแลผู้ต้องขังหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ระดับอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะสั่งงานแค่นี้ไม่ได้หรืออย่างไร หากต้องให้ระดับรัฐมนตรีไปนั่งสั่งการคงไม่ใช่ ส่วนเรือนจำชั่วคราวฯ นี้เป็นเรือนจำที่ใช้ควบคุมนักโทษมือวางระเบิดที่ราชประสงค์ ผู้ต้องขังทั้งหมดยังอยู่เรียบร้อยดี เพราะฉะนั้นระบบในการดูแลรักษาความปลอดภัยถูก ใช้มาแล้ว ดังนั้น อธิบดีจะต้องมีวิจารณญาณในการ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จะไม่มีการสั่งการอะไรเพิ่มเติม
ไม่สนเอ็นจีโอดูที่ผลสำเร็จ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กรณีองค์กรสิทธิมนุษยชนหรือเอ็นจีโอ เรียกร้องให้มีการปิดเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ได้ชี้แจงแล้วว่าเรือนจำดังกล่าวมีความจำเป็นเรื่องความรวดเร็วเกี่ยวกับการเข้าสอบปากคำผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน เพื่อลดขั้นตอนของเรือนจำถาวรออกไป ทำให้การทำงานรวดเร็ว ตรงนี้จึงเป็นที่มาของการใช้เรือนจำชั่วคราว เพราะบางครั้งอาจต้องประสานไปยังต่างประเทศ บางขั้นตอนอาจเกิดความล่าช้าทางคดีได้ อยากเรียนกับองค์กรสิทธิมนุษยชนว่า อย่ามองแค่เรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างเดียว ต้องมองเรื่องประโยชน์ของบ้านเมืองด้วย ผลการทำงานก็ออกมาตามที่เห็น คดีสำคัญอย่างนั้นไม่ใช่ว่าเราจะคิดเฉพาะเรื่องของสิทธิ เพราะเมื่อผู้ต้องขังถูกคุมขัง เขาก็มีสิทธิของเขา ทุกคนสามารถดูได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรือนจำชั่วคราวและเรือนจำถาวรที่ตั้งขึ้นใช้ระเบียบอันเดียวกัน ส่วนเรือนจำชั่วคราวฯ จำเป็นต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือไม่ เป็นการละเมิดสิทธิของผู้ต้องขังไม่ใช่หรือ เรื่องนี้มันมีระเบียบราชทัณฑ์อยู่แล้วว่า คดีประเภทไหนสามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดได้ อย่างเรือนจำความมั่นคงสูงจะติดตั้ง เพราะต้องดูแลผู้ต้องขังคดีสำคัญ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการคัดแยก ไม่เช่นนั้นอาจไปละเมิดสิทธิของผู้ต้องขังอีก
...
แจง “หมอหยอง” เป็นโรคความดัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีอาการป่วยของนายสุริยันเกิดขึ้นจากอะไร พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอธิบดีราชทัณฑ์รายงานให้ทราบว่านำ ตัวนายสุริยันส่งโรงพยาบาลเนื่องจากความดันกำเริบ เราดูแลอย่างเต็มที่ ขณะนี้นายสุริยันยังคงถูกคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำชั่วคราวฯตามปกติ ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถส่งตัวนายสุริยันกับนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ เลขาฯหมอหยองเข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้เมื่อไหร่ พล.อ.ไพบูลย์ระบุว่า เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายผู้ต้องหาคดี 112 ขณะนี้ ปปง.ดำเนินการอย่างไรแล้วบ้าง รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบ เนื่องจากขณะนี้ ปปง.ไม่ใช่หน่วยงานที่อยู่ในความ รับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรมแล้ว แต่ถูกโอนไปขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี
เรือนจำพร้อมนำส่งโรงพยาบาล
ด้านนายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ขณะนี้นายสุริยันยังมีอาการปกติ แต่มีโรค ประจำตัวบ้างตามอายุคือ โรคความดันและโรคอื่นบ้างเล็กน้อย ส่วนการรักษาความปลอดภัยของทางเรือนจำ เจ้าหน้าที่เรือนจำและทหารดูแลผู้ต้องขังทุกรายที่คุมขังในเรือนจำชั่วคราวฯร่วมกัน แบ่งเวรยามเดินตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการดูแลอาการป่วย หากผู้ต้องขังมีอาการจะมีพยาบาลราชทัณฑ์คอยให้การช่วยเหลือเบื้องต้นอยู่แล้ว หากมีอาการหนักขึ้นจึงจะนำส่งโรงพยาบาลต่อไป ส่วนของนายจิรวงศ์ผู้ต้องหาคดีเดียวกัน ยังอยู่ในอาการปกติเช่นกัน
ญาติเผาศพ “สารวัตรเอี๊ยด” แล้ว
ต่อมาเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปตรวจสอบที่วัดชมภูเวก ถนนนนทบุรี 1 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี หลังรับแจ้งว่า มีการนำศพ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา มาทำพิธีฌาปนกิจศพพบว่า ที่เมรุกำลังฌาปนกิจศพอยู่ สอบถามเจ้าหน้าที่ทางวัดว่า มีการนำศพ พ.ต.ต.ปรากรม มาทำพิธีฌาปนกิจหรือไม่ ได้รับการยืนยันว่า กำลังเผาอยู่ เจ้าหน้าที่วัดให้รายละเอียดว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.มีเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ขับรถควบคุมผู้ต้องขังของเรือนจำนำศพ พ.ต.ต.ปรากรม ที่บรรจุอยู่ในถุงสำหรับใส่ศพนำมาให้ญาติที่มารอรับศพอยู่ที่วัดกว่า 30 คน จากนั้นญาตินำศพบรรจุใส่โลงที่เตรียมไว้ นำไปประกอบพิธีทางศาสนาโดยนิมนต์พระสงฆ์มาสวดบังสุกุล พร้อมทั้งถวายสังฆทานให้กับผู้ตาย จนกระทั่งเวลา 12.00 น. จึงได้นำศพเข้าเมรุเผาศพ โดยเจ้าหน้าที่ของวัดนัดให้ญาติมาเก็บเถ้ากระดูกอีกครั้งเวลา 17.00 น. มีรายงานด้วยว่า ก่อนหน้าที่จะนำศพมาที่วัดชมภูเวก ญาติของผู้ตายได้มาติดต่อสอบถามว่า บริเวณเมรุเผาศพมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ พร้อมทั้งกำชับไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกกับใครทั้งสิ้น ขณะที่กำลังเผาศพมีการ์ดกระจายกำลังกันเฝ้าอย่างเข้มงวด พบใครที่ไม่เกี่ยวข้องจะเข้ามาสอบถามจะแจ้งให้ออกจากบริเวณวัดทันที
...
ในห้อง “เอี๊ยด” พบดอลลาร์-เยนหลายแสนบาท
ด้านความคืบหน้าการสืบสวนจากกองปราบปราม รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ชุดพนักงานสอบสวนในคดีหมิ่นเบื้องสูงกำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆที่พบในที่พักของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร ได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ ทั้งนี้จากการตรวจค้นพบทรัพย์สินมีค่าหลายรายการ รวมทั้งทรัพย์ สินที่เกี่ยวข้องกับคดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.และพวกรวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ พบว่าในคอนโดลาเมซองซึ่งเป็นที่พักของ พ.ต.ต.ปรากรม ปรากฏข้อมูลว่า พ.ต.ต.ปรากรมครอบครองห้องพักในอาคารดังกล่าวถึง 26 ห้อง ที่ชั้น 19 เป็นห้องชุดใหญ่สุด ด้านในถูกแบ่งซอยแยกออกเป็น 5 ห้อง มีห้องที่ยังไม่ได้โอนเป็นกรรมสิทธิ์เป็นชื่อ พ.ต.ต.ปรากรม อีก 4 ห้อง ราคาห้องละ 5 แสนบาทมูลค่ารวม 2 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่าภายในห้องพบเงินสกุลต่างประเทศ อาทิ เงินสกุลดอลลาร์ และเงินเยนมูลค่ารวมหลายแสนบาท
ตะลึงพบวิทยุสื่อสารกว่า 200 เครื่อง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในวันตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบวิทยุสื่อสารโมบายพร้อมเสาวิทยุ 5 ต้นอยู่ในห้องพักดังกล่าว เมื่อตรวจสอบพบว่ามีการผูกโยงสัญญาณไปที่อาคารสูง เชื่อว่าเป็นพฤติกรรมในการลักลอบใช้วิทยุสื่อสาร หรืออาจจะดักฟัง เนื่องจากสารวัตรเอี๊ยดเป็นผู้ที่มีความชำนาญด้านนี้ ทั้งนี้ยังพบว่ามีทรัพย์สินของทางการได้หายไปหลายรายการ 1 ในนั้นเป็นรถของทางราชการจำนวน 6 คัน ประกอบด้วย รถของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ทางหลวงและกองปราบฯ ที่ พ.ต.ต.ปรากรมแอบอ้างนำไปใช้ส่วนตัว ประกอบด้วยรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน ฆฬ 7116 กรุงเทพมหานคร และทะเบียน ฆฬ 7119 กรุงเทพมหานคร ส่วนอีก 2 คันเป็นรถยนต์สายตรวจไม่ทราบทะเบียนยี่ห้อโตโยต้า อัลติส มีนายตำรวจยศ พ.ต.ท.คนหนึ่งตำแหน่งรอง ผกก.เป็นผู้เบิกนำรถดังกล่าวไปใช้ อ้างว่าเป็นคำสั่งของนายพลนายหนึ่งใน สตช. นอกจากนี้ ยังพบว่ามีวิทยุสื่อสารแบบพกพากว่า 200 เครื่องอยู่ในห้อง จากการตรวจสอบพบว่า พ.ต.ต.ปรากรมเป็นผู้เบิกวิทยุสื่อสารจำนวนดังกล่าวจากกองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติอ้างว่านำมาใช้ในงานราชการ
ตรวจสอบรถหรูทั้งเบนท์ลีย์–โรลส์ รอยซ์
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พบรถหรูยี่ห้อต่างๆอาทิ เบนท์ลีย์โรลส์รอยซ์ เมอร์เซเดส เบนซ์ และโตโยต้า ที่ส่วนใหญ่จอดที่ชั้น 5 ของคอนโดฯคาดว่าเป็นของ พ.ต.ต.ปรากรม ชุดพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนพระเครื่องที่ตรวจยึดมาได้จำนวน 10 องค์จากตู้เซฟของ พ.ต.ต.ปรากรมตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพระเครื่องของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีต ผกก.1บก.ป.ที่เสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากที่ด้านหลังมีตอกหมายเลข 49 ซึ่งเป็นเลขรุ่น นรต.ของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ ที่เป็น นรต.รุ่น49 ซึ่งมีผู้เสียหายมาชี้ยืนยันว่า เป็นพระที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาและส่งคืนไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ห้องของสารวัตรเอี๊ยดได้อย่างไร รวมทั้งยังพบกีตาร์ไฟฟ้า 3 ตัว ราคาแพงยี่ห้อ พีอาร์เอสที่ราคาสูงถึง 4 แสนกว่าบาท และกีตาร์อีก 2 ตัวราคาตัวละ 6 - 7 หมื่นบาท เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า กีตาร์ทั้ง 3 ตัวเป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ที่ถูกดำเนินคดี 112 ซื้อมาจากร้านลักกี้มิวสิค ย่านปทุมธานีรวมอยู่ด้วย และยังมีพระพุทธรูปอีกหลายรายการที่ญาติของผู้ต้องหาร่วมเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์มาชี้ยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินที่ถูกยึดในคดีดังกล่าวรวมอยู่ด้วย
คอมพิวเตอร์ “หมอหยอง” พบหลักฐานอมเงิน
ส่วนการตรวจค้นห้องพักของนายสุริยันต์ สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ที่ห้องเลขที่ 127/35 พหลโยธิน ปาร์ค ซอยพหลโยธิน 14 พบว่าที่ห้องดังกล่าวแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้อง ภายในห้องไม่มีทรัพย์สินมีค่ามากนัก ส่วนใหญ่เป็นพระเครื่อง พระพุทธรูป สำหรับทำพิธีกรรมทรงเจ้า เพราะที่ผ่านมานายสุริยันจะใช้ห้องดังกล่าวเปิดเป็นสำนักเข้าทรง อ้างตัวเองเป็นร่างทรงของเจ้าแม่พันปีและหลวงปู่เพื่อหลอกลวงประชาชนให้เคารพนับถือ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของหมอหยองที่ลบข้อมูลไปแล้ว ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญกู้ข้อมูลคืนมา พบมีรายละเอียดการติดต่อกับบริษัทห้างร้านเอกชนต่างๆในโครงการปั่นเพื่อแม่ ส่วนนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเส้นทางการเงินที่ค่อนข้างชัดเจนว่า นายสุริยันยักย้ายถ่ายเทเงินส่วนหนึ่งจากยอดเต็มไปให้ญาติ รวมทั้งซื้อทรัพย์สินหลายอย่างลักษณะเป็นการฟอกเงิน
พบไถเงินซื้อจักรยาน 100 ล้าน
นอกจากนี้ ยังมีคลิปเสียงที่ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด บันทึกไว้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการติดต่อกับบุคคลต่างๆลักษณะต้องการเก็บไว้แบล็กเมลรวมอยู่ด้วย และยังพบข้อมูลเอกสารการกระทำความผิดอีกหลายกรณี อาทิ การแอบอ้างสถาบันเพื่อไปเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการกับผู้ประกอบการภาคเอกชนต่างๆ หลายรายการมูลค่าหลายล้านบาท อีกทั้งยังพบข้อมูลว่า มีการแอบอ้างแสวงหาผลประโยชน์จากเจ้าของบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งเป็นจำนวนเงินกว่า 100 ล้านบาท อ้างว่านำไปจัดหาจักรยานเพื่อใช้ในกิจกรรมสำคัญ เตรียมจัดซื้อจักรยานจากประเทศจีนเข้ามา มีเจตนาเพื่อแสวงหาผลกำไรให้กับตัวเองและเครือข่าย ทั้งนี้เจ้าของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่เปิดเผยเรื่องราวกับพนักงานสอบสวน ก่อนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมาสืบหาข้อเท็จจริงในทางลับ ปรากฏว่า มีมูลความจริงจึงกลายเป็นที่มาให้นายสุริยันและเครือข่ายถูกดำเนินคดี
“ประวิตร” ไม่สนเสียงค้านเรือนจำชั่วคราว
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีองค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ภายในกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) ว่า เรื่องนี้มีกรมราชทัณฑ์ดูแลอยู่ หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็ตั้งคณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้ว เมื่อถามว่า อาจเป็นผลมาจากกรณีที่ พ.ต.ต.ปรากรมเสียชีวิตหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่าเรื่องนี้ไม่รู้จะตอบอย่างไร ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา ยืนยันว่าเรายังมีความจำเป็นต้องมีเรือนจำดังกล่าวอยู่ และจะใช้เฉพาะสถานการณ์ช่วงนี้เท่านั้น หากเป็นปกติแล้วจะไม่มี อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ดูแลอยู่ ถึงแม้ว่าเรือนจำดังกล่าวจะมีทหารดูแลร่วมอยู่ด้วย แต่ความรับผิดชอบหลักอยู่ที่กรมราชทัณฑ์
“หมอหยอง” ยังดีอยู่ แค่ป่วยเล็กน้อย
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หมอหยอง ผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 เสียชีวิตอีกราย พล.อ.ประวิตรตอบว่า จากการรับฟังข่าวสารทราบว่านายสุริยันยังดีอยู่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้รายงานอะไรขึ้นมา อาจจะมีอาการ ป่วยเล็กน้อย ยืนยันว่าการที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล และมีจำนวนไม่มากนัก มีกฎหมายดูแลอยู่แล้ว ตนคงไม่ต้องกำชับอะไรเป็นพิเศษ ทุกคนต่างทราบอยู่ ตนไม่อยากให้พูดเรื่องนี้กัน เพราะเกรงว่าจะนำไปขยายความจนทำให้เกิดเรื่องได้
“ประยุทธ์” รอรายงานผู้ต้องหาเพิ่ม
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงการออกหมายจับบุคคลเพิ่มเติมในคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงไปกระทำมิบังควรเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการรายงานมา เดี๋ยวเขารายงานมาก็รู้เองว่าจะจับใครเพิ่มเติม