ผู้บังคับการเมืองอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดสถานีตำรวจภูธรช้างใหญ่ (AEC) เปิดบริการประชาชน ภายใต้สโลแกน "บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว" ท่ามกลางพ่อค้าประชาชนเข้าแสดงความยินดี จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ มอบโล่รางวัล
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 58 ที่สถานีตำรวจภูธรช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา และ นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมเป็นประธานเปิด สถานีตำรวจภูธรช้างใหญ่ (AEC) แห่งแรกของอยุธยา โดยมี พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ ผกก.สภ.ช้างใหญ่ พร้อมข้าราชการตำรวจให้การต้อนรับ พ่อค้า ประชาชน ร่วมงานแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก หลังจากสร้างเสร็จเปิดบริการแก่ประชาชน ในสโลแกน “บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว” ในช่วงเช้าจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพื่อเป็นสิริมงคล และมอบโล่รางวัลให้กับบุคคลที่สนับสนุนโรงพัก จำนวน 6 ราย
พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันตำรวจแห่งชาติ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้วางพวงมาลา และกล่าวคำปฏิญาณตน พร้อมอ่านสารของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โดยเน้นการพัฒนาตนเองในทุกด้าน มีความรัก ความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล
...
"พร้อมด้วยนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เป็นตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นที่รักของประชาชน และเป็นหลักประกันความยุติธรรม และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่มีมาตรฐานสากล” สามารถบำรุงทุกข์ บำรุงสุข เป็นที่พึ่งของประชาชนให้ได้อย่างแท้จริง ทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจดียิ่งขึ้นต่อไป" พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าว
พล.ต.ต.เสริมคิด เปิดเผยว่า ทั้งนี้ได้เปิดสถานีตำรวจภูธรช้างใหญ่ ซึ่งเป็นแห่งแรกของอยุธยา จาก 26 โรงพัก ที่มีรูปแบบตามมาตราฐานสากลต้อนรับ AEC ต่อมาในปี 2556 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ จึงได้จัดสรรงบประมาณก่อสร้างอาคารที่ทำการหลังใหม่ ทดแทนหลังเดิม เป็นจำนวนเงิน 8,893,000 บาท ปัจจุบันสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และได้ใช้ปฏิบัติงานแล้ว
"โดยที่นี่เริ่มบริการประชาชน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 อย่างเต็มรูปแบบ ประวัติความเป็นมาของ สภ.ช้างใหญ่ เปิดทำการครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2532 ก่อสร้างในที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในเนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 96 ตารางวา เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ยกพื้นสูง ซึ่งจากการที่มีอายุใช้งานมานานหลายปี จนเป็นผลทำให้มีสภาพชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติงาน รวมทั้งให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ" พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าว