อริยสงฆ์เมืองอุบลฯ ประธานคณะสงฆ์ สปป.ลาว “พระอาจารย์ ใหญ่ ดร.มหาผ่อง สะมาเลิก” ละสังขารแล้วอย่างสงบ หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่ รพ.ใน สปป.ลาว เพียงไม่กี่วัน ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของพี่น้องไทยลาว 2 ฝั่งโขง อายุ 100 ปี 6 เดือน 81 พรรษา เผยชาติภูมิเป็นคนอุบลฯ แต่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ใน สปป.ลาว เคยเดินทางมาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดชนะสงคราม เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติเด่น นับเป็นการสูญเสียประมุขสงฆ์ลาวครั้งยิ่งใหญ่ ญาติทราบข่าวถึงร่ำไห้ แห่ร่วมพิธีศพ

ประมุขสงฆ์ สปป.ลาว มรณภาพแล้ว หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธได้เพียงไม่กี่วัน โดยมีรายงานเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ว่า พระชัยเดช เอกัคคจิตโต พระเลขานุการพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง ปิยะทีโร (สะมาเลิก) ประธานศูนย์กลางการพระพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว (อพส) (พระสังฆราชลาวรูปที่ 4) เจ้าอาวาสวัดองค์ตื้อ นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เปิดเผยต่อสื่อมวลชนไทยว่า เมื่อเวลา 17.11 น. วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา พระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง ได้ละสังขารลงแล้วอย่างสงบ หลังจากมีอาการอาพาธและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล สปป.ลาว สิริอายุ 100 ปี 6 เดือน 81 พรรษา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพี่น้องพุทธศาสนิกชนสองฝั่งโขงทั้งไทยและลาวที่ทราบข่าว

สำหรับชาติภูมิของพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง เป็นคนไทยโดยกำเนิด เกิดที่บ้านกุงน้อย ต.กุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ.2459 ติดตามบิดามารดาไปอยู่บ้านโพนทอง เมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ตั้งแต่เป็นเด็ก และได้รับการอุปการะเป็นลูกบุญธรรมของเจ้าฟ้าเพชรราช (วีรบุรุษของชาวลาวอิสระ ปลดแอกจากการปกครองฝรั่งเศส) และยังได้เป็นบุตรบุญธรรมของโฮจิมินห์ ประธานพรรคคอมมิวนิสต์อีกด้วย พระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง อุปสมบทเมื่ออายุครบ 20 ปี ที่วัดโพธิ์สระปทุม บ้านกุศกร (ที่บ้านเกิด) จากนั้นก็เดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัด ชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร เป็นพระที่สนิทสนมกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพราะศึกษาร่วมสำนักเดียวกัน ได้รับพระราชทานประกาศนียบัตรเปรียญธรรม 6 ประโยค จากนั้นก็ได้นำความรู้ไปสอนมัธยมสงฆ์หลายแห่งในประเทศลาว และได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งต่างๆมากมาย จนกระทั่ง พ.ศ.2554 ได้รับการแต่งตั้งจากกองประชุมผู้แทนคณะสงฆ์ทั่วประเทศลาว ให้เป็นประธานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาวรูปที่ 4 (สังฆราชลาวรูปที่ 4)

...

ช่วงที่พระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง ยังมีชีวิตมักจะเดินทางไปร่วมกิจการกับคณะสงฆ์ในประเทศ ไทยสม่ำเสมอ สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับลาว พระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง เคยเดินทางไปร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ ป.ธ.9) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช และเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่องกับเจ้าประคุณสมเด็จนั้นถือว่าเป็นสหายธรรมกันมามีอายุสมัยร่วมกัน และในโอกาสที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร กำหนดการประชุมสัมมนาพระธรรมทูตไทยทั่วโลกเพื่อเป็นการบูชาคุณเจ้าประคุณสมเด็จ ที่ มจร อ.วังน้อย เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 พระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง ก็ได้เดินทางไปร่วมงานด้วย

โดยเมื่อปีผ่านมาพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง ยังได้นำญาติโยมจำนวนหนึ่ง เดินทางไปร่วมทำบุญที่วัดพระโต บ้านปากแซง ต.พะลาน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ด้วยการทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องไทยทาน และปล่อยปลาดุกลงสู่แม่น้ำโขง 99 ตัว ครบตามอายุ 99 ปี การเดินทางมาในครั้งนั้นมีการบันทึกเอาไว้ว่า พระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง ได้กล่าวว่า “ข้อยดีใจหลายเด้อ ที่ได้มาทำบุญในมื้อนี่” พร้อมบอกต่อไปว่า การทำบุญในครั้งนี้นับเป็นการทำบุญที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการเชื่อมสัมพันธ์พุทธศาสนาไทย-ลาว ให้ได้เป็นแบบอย่างในการที่ได้ร่วมกันทำบุญเพื่อเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป

สำหรับศาสนกิจสุดท้ายของพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง คือเดินทางไปร่วมงานเสวนา “พุทธพลิกสุวรรณภูมิ : สามัคคีธรรม แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” จัดโดยสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย และมูลนิธิวีระภุชงค์ ที่โรงแรมโซฟิเทล อังกอร์ โภคีธรา กอล์ฟ @ สปา รีสอร์ท จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 9-13 กันยายน พ.ศ.2558 ที่มีคณะสงฆ์อาเซียน 5 ประเทศ ประกอบด้วยไทย เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา และลาว เข้าร่วม ระยะหลังพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่องมีอาการเจ็บออดๆแอดๆ จากอาการอาพาธ ประกอบกับชราภาพมากแล้ว ลูกศิษย์ได้พาไปรักษาที่ รพ.ใน สปป.ลาว เพียงไม่กี่วันก็มรณภาพ

ต่อมาวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านกุงน้อย หมู่ 6 ต.กุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง พบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา สอบถามนางดอกทุ่ม พรมโยธิน อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 บ้านกุงน้อย ต.กุศกร อ.ตระการพืชผล หลานสาว ของพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง ทราบว่าญาติพี่น้องส่วนใหญ่ได้เดินทางด้วยรถตู้ไปร่วมงานศพพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง ตั้งแต่เวลา 01.00 น. และที่หมู่บ้านกุงน้อยเหลือตนเพียงคนเดียวที่เป็นญาติและไม่ได้เดินทางไปเพราะสุขภาพไม่ค่อยดี ส่วนพิธีการต่างๆนั้นไม่ทราบ เพราะญาติทาง สปป.ลาว ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมา แจ้งแต่เพียงว่าท่านละสังขารแล้ว