แพทย์เตือน คนชอบกินหมูสุกๆ ดิบๆ ระวังติดเชื้อแบคทีเรียทำให้หูหนวก เยื่อหุ้มสมอง เยื่อบุหัวใจ อักเสบ จนถึงขั้นเสียชีวิตหลังป่วยแค่ 3-5 วัน แนะซื้อจากที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน และปรุงให้สุกทั่ว

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2558 พญ.ศศิธร ตั้งสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดขอนแก่น เผยว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนที่ชอบรับประทานเนื้อหมูดิบ หรือ ปรุงสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ หลู้หมูดิบ หมูกระทะปิ้งย่างไม่สุก จิ้มจุ่มที่ต้มไม่สุก เสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส ซูอิส อาจหูหนวกหรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะพื้นที่มีฝนตก ทำให้ฟาร์มหรือโรงเลี้ยงสัตว์มีความอับชื้น ทำให้สัตว์เลี้ยงป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะในสุกรที่เป็นสัตว์นำเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวที่ติดมาสู่คนพบได้บ่อย ทำให้เกิดความพิการหรือเสียชีวิตได้ คือ โรคไข้หูดับ เชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และอยู่ในกระแสเลือดของหมูที่กำลังป่วย ติดต่อสู่คนทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกาย หรือทางเยื่อบุตา และจากการรับประทานเนื้อหมูที่ปรุงดิบหรือสุกๆ ดิบๆ จะทำให้เยื่อหุ้มสมอง เยื่อบุหัวใจ อักเสบ และที่สำคัญคือทำให้ประสาทหูทั้ง 2 ข้างอักเสบและเสื่อมจนหูหนวก พบได้ร้อยละ 54-80 ส่วนอัตราเสียชีวิตพบได้ร้อยละ 5-20 ผู้ที่ได้รับเชื้อเข้าไปในร่างกาย จะป่วยหลังติดเชื้อประมาณ 3-5 วัน อาการคือ ไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูดับ ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด

สำหรับการป้องกัน ผู้ที่สัมผัสกับหมูที่ติดโรค โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมูสัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมรองเท้าบู๊ตยาง สวมถุงมือ สวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หลังงานเสร็จให้อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด และดูแลฟาร์มเลี้ยงให้สะอาดอยู่เสมอ

...

ส่วนประชาชนควรเลือกซื้อเนื้อหมูจากตลาดสด หรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ และให้ปรุงเนื้อหมูให้สุกทั่วถึงด้วยความร้อน หรือทำให้สุกจนเนื้อไม่มีสีแดง ไม่รับประทานเนื้อและเลือดหมูสุกๆ ดิบๆ

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้ประสานกรมปศุสัตว์ เพื่อให้คําแนะนําฟาร์มเลี้ยงสุกรให้ปรับปรุงฟาร์มให้มีการสุขาภิบาลที่ดี ซึ่งหากประชาชนมีอาการป่วยหลังสัมผัสหมูที่ป่วย หรือหลังรับประทานอาหารที่ปรุงมาจากเนื้อหมู เลือดดิบๆ หรือปรุงสุกๆ ดิบๆ ให้รีบพบแพทย์ทันที โรคนี้รักษาหายและมียารักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ.