หนุ่มวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จากร้านทองในห้างดัง ที่ปราจีนบุรี ทนแรงกดดันไม่ไหว เข้ามอบตัวแล้ว สารภาพจะนำทองไปขายเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ญาติ ก่อนเกิดความกลัว ยอมมอบตัวเพราะสำนึกผิด...
จากกรณีที่มีคนร้ายเป็นชายเข้าชิงทองที่ร้านขายทอง บางกอกโกลด์ส ทองเยาวราช ซึ่งอยู่ภายในห้างเทสโก้โลตัส สาขาคลองรั้ง หมู่ที่ 10 ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี โดยได้เข้ามาทำทีขอซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท หลังจากที่พนักงานนำสร้อยคอส่งให้แก่คนร้าย คนร้ายได้ฉวยโอกาสนำสร้อยคอติดมือและวิ่งหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งทางร้านมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ในขณะก่อเหตุ เหตุเกิดเมื่อเย็นของวันที่ 1 ตุลาคม 2558
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ต.ค.58 ด.ต.ศิลปชัย วงษ์นิกร นายกองค์การบริการส่วนตำบลบางเดชะ อำเภอเมืองปราจีนบุรี ได้นำตัวนายปุริม ทองศรี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 หมู่ 5 ตำบลบางเดชะ อำเภอเมืองปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาชิงทองในห้างฯ ตามที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ มามอบตัวกับ พ.ต.อ.ปัญญา วิรุณพันธ์ ผกก.สส.สภ.ศรีมหาโพธิ ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ด.ต.ศิลปชัย เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ปกติเป็นเด็กดี ไม่เคยมีความประพฤติเสียหาย เหตุที่ทำไปเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น เพียงคิดจะหาเงินมาใช้หนี้ เมื่อเจ้าตัวสำนึกผิดได้ติดต่อให้ตนเองพามามอบตัว พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท ที่ได้ชิงไป
ส่วนสาเหตุที่เข้าชิงทองในครั้งนี้ นายปุริม อ้างว่าได้เป็นหนี้ญาติพี่น้องเป็นเงิน 50,000 บาท เนื่องจากนำเงินไปใช้จ่ายเที่ยวเตร่ โดยไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ จึงคิดหาวิธีจี้ร้านทอง เพื่อที่จะได้นำทองไปขายใช้หนี้ให้แก่ญาติ หลังจากได้ทองมาแล้ว ได้นำทองไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในเขตอำเภอศรีมหาโพธิ แต่ทางร้านไม่รับซื้อ เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติกรรมผิดสังเกต จึงได้นำทองกลับมาไว้กับตัว ส่วนรถจักรยานยนต์สีเหลือง หมายเลขทะเบียน กรล 592 ปราจีนบุรี ที่ใช้ก่อเหตุ ได้ไปฝากไว้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แถวตลาดคลองรั้ง และเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุก็นำไปซุกซ่อน
...
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.วีระชัย วิสุทธิอุทัยกุล ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรัฐ รัตนจินดา ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ ได้นำตัวนายปุริม ทองศรี ผู้ต้องหา พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า นายปุริมได้ใช้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ขับไปยังห้างเทสโก้โลตัส สาขาคลองรั้ง หลังจากนั้นได้เข้าไปก่อเหตุยังร้านทองในห้างฯ เพียงลำพังคนเดียว ได้ของกลางเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมทั้งได้หลบหนีไป และนำสร้อยคอไปขายยังร้านทองภายในเขตอำเภอศรีมหาโพธิ แต่ทางร้านทองไม่รับซื้อ จึงได้นำรถจักรยานยนต์ไปฝากยังร้านอาหารดังกล่าว และหลบหนีกลับไปยังบ้านพัก หลังจากนั้นเกิดความกลัวและสำนึกผิด จึงได้บอกบิดาให้พามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายปุริม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.