สธ.หนองบัวลำภู เตือน จำหน่ายยาบำรุงร่างกายในร้านขายของชำทั่วไป ผิดกฎหมาย มีโทษหนัก จำหน่ายได้เฉพาะร้านขายยาเท่านั้น ชี้ ยาบำรุงร่างกายบางชนิดมีส่วนผสมแอลกอฮอล์ รับประทานมากเกินไปอาจมึนเมาได้
จากปัญหาเด็กวัยรุ่นและพระภิกษุในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ดื่มยาบำรุงร่างกายยี่ห้อหนึ่ง และเกิดอาการมึนเมา กระทั่งมีการร้องเรียนให้หน่วยงานภาครัฐ เข้ามาจัดการปัญหา ล่าสุด หลายหน่วยงานได้ร่วมหารือและพบว่า ร้านค้าทั่วไป จำหน่ายโดยผิดกฏหมาย เนื่องจากเป็นยาที่ต้องขายตามร้านขายยาเท่านั้น
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 ส.ค.58 ที่ห้องประชุมชั้น 2 รพ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พ.ญ.ดวงสุดา ดาวเศรษฐ์ ผอ.รพ. ได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ชัยชนะกุล รอง ผกก.ปป.สภ.ศรีบุญเรือง นายประสิทธิ์ มหาวงศ์ ปลัดอำเภอ ภญ.วรางคณา หาระคุณโน หน.กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สนง.สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู นายจรูญ เกลียวทอง นายกเทศมนตรตำบลโนนสงเปลือย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมหารือเกี่ยวกับกรณีการร้องเรียนว่า เยาวชนและพระภิกษุ มีอาการมึนเมาหลังดื่มยาบำรุงร่างกาย และพบว่า ยาบำรุงร่างกายดังกล่าว กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะมีขายตามร้านค้าทั่วไป โดยเฉพาะที่มีตู้แช่เครื่องดื่ม
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หยิบยก ยาบำรุงร่างกายที่โด่งดังยี่ห้อหนึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในท้องตลาด ซึ่งมีลักษณะเหมือนเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ขนาด 150 c.c. มีขาย ราคาขวดละ 25 บาท ซึ่งในระบบแจ้งเตือนภัยฐานข้อมูลคุณภาพ ความปลอดภัยผลิตภัณฑ์สุขภาพ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้มีการแจ้งเตือนตัวอย่างที่ได้ตรวจสอบหลายตัวอย่าง เช่น ยาบำรุงร่างกายยี่ห้อหนึ่ง เลขทะเบียนยา 167/2555 lot no. ไม่มี ผลิตวันที่ 15.09.57 วันหมดอายุ 15.09.59 พบคลอโรฟอร์ม 57.34 (mlg/l) พบแอลกอฮอล์ 14.56 (g/100 ml.) และเลขทะเบียนยา g 167/55 lot no.5801264 วันผลิต 31.01.58 วันหมดอายุ 31.01.60 พบเพียงแอลกอฮอล์ 14.64 (g/100 ml.) ไม่พบคลอโรฟอร์ม ซึ่งสารคลอโรฟอร์มเป็นสารต้องห้าม
...
นอกจากนี้ ในส่วนของฉลากข้างขวด ยังพบคำเตือนสีแดง แต่หากไม่สังเกตก็แทบจะไม่เห็นคำเตือนว่า "ยานี้มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน" และมีตัวหนังสือเอกสารกำกับยาที่พอจะอ่านได้เป็นตัวหนังสือสีขาว ระบุส่วนประกอบตัวยาสมุนไพร เช่น ม้ากระทืบโรง กำลังเสือโคร่ง กระชายดำ โด่ไม่รู้ล้ม สรรพคุณ บำรุงร่างกาย รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า-เย็น เป็นต้น
และที่ประชุมยังได้นำหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นภ. 0032.003/2628 ลงวันที่ 5 ส.ค.58 ถึง ผอ.รพ.หนองบัวลำภู ผอ.รพ.ชุมชนทุกแห่ง สาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ เรื่องประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนแปลงประเภทของยาบำรุงร่างกายยี่ห้อดังกล่าว ลงนามโดย นายพนัส วงษ์เกลียวเรียน ผอ.รพ.นากลาง รักษาราชการในตำแหน่ง นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีใจความสำคัญในหนังสือระบุว่า กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคได้ออกตรวจการจำหน่ายยาในร้านขายของชำ ซึ่งเป็นการเผ้าระวังการขายยาที่ไม่ได้รับอนุญาต ในร้านขายของชำ ในช่วงเดือน กรกฎาคม 2558 พบว่า ผู้ประกอบการร้านขายของชำจำนวนมาก ไม่ทราบว่า ยาบำรุงร่างกาย ได้เปลี่ยนแปลงประเภทของยา โดยจากเดิมขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งสามารถขายได้ในร้านขายของชำ แต่บัดนี้ยาบำรุงร่างกายชนิดดังกล่าว ที่ผลิตหลังวันที่ 17 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนโบราณ ซึ่งหากจะขายยาดังกล่าว ได้เฉพาะร้านขายยาแผนโบราณ (ขย.บ.) และร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ขย.1) โดยต้องรับอนุญาตจาก สนง.สาธารณสุขจังหวัด จึงเป็นที่ชัดเจนว่าร้านขายของชำทั่วไป ไม่สามารถจำหน่ายยาบำรุงร่างกายยี่ห้อดังกล่าวได้ หรือ ยาบำรุงร่างกายชนิดอื่นที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณได้
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้ถกปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ทุกวันนี้ร้านค้าที่มีตู้แช่เครื่องดื่ม มักจะมียาบำรุงร่างกายตรานี้ จำหน่ายด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ เยาวชนและพระภิกษุสงฆ์ ที่มาซื้อไปรับประทานโดยไม่ดูฉลาก หรือไม่สนใจจะดู และพบว่า เมื่อดื่มในปริมาณมากทำให้เกิดอาการมึนเมาได้ ก็จะซื้อมารับประทานโดยไม่คำนึงว่า จะดื่มมากหรือน้อย และกลายเป็นเครื่องดื่ม ที่ดื่มเกินปริมาณที่กำหนด เป็นเครื่องดื่มที่อ้างได้ว่า เป็นยาบำรุงร่างกาย รับประทานมากน้อยก็ได้ไม่ผิดกฎหมาย และเมื่อพบเห็น ก็ไม่รู้จะจับกุมได้อย่างไร ยกเว้นพระภิกษุ มีอาการมึนเมา เมื่อนำตัวไปตรวจวัดพบแอลกอฮอล์ในร่างกายถึงนำตัวไปสึก
พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ชัยชนะกูล รอง ผกก.ปป. สภ.ศรีบุญเรือง เปิดเผยว่า หลังถกกันไปมานานกว่า 1 ชั่วโมง ที่ประชุมจึงได้บทสรุปว่า การจำหน่ายยาบำรุงร่างกายยี่ห้อดังกล่าว ซึ่งเป็นยาแผนโบราณในร้านชำ เป็นการจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 46 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนำ หรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งยาแผนโบราณ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาต มีโทษตาม มาตรา 111 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 46 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินห้าพันบาท
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติว่า ให้ทำการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ร้านขายของชำรับทราบ และห้ามจำหน่ายภายใน 15 วัน และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อไป ซึ่งหลังจากประชุมเสร็จก็ได้พากันออกสุ่มตรวจตามร้านค้า ทั้งค้าปลีกและส่งยกเว้นร้านขายยา ในเขตเทศบาลตำบลโนนสูงเปลือย พบว่า มีหลายร้านที่มียาบำรุงร่างกายยี่ห้อนี้จำหน่าย โดยเฉพาะร้านขายส่ง มีอยู่ในสต๊อกนับสิบกล่องเลยทีเดียว ทั้งนี้แทบทุกร้านบอกว่า ไม่ทราบว่า ร้านขายของชำขายไม่ได้ และก็มีการสั่งมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก เพราะขายดี มีบางร้านที่ระบุว่า ลูกค้ามีทั้งเยาวชน และพระภิกษุสงฆ์ที่มาซื้อเป็นกล่องใหญ่ จำนวนนับร้อยขวดก็มี หากรับประทานตามฉลากยาเป็นปีคงไม่หมดแน่ๆ
...