แตกตื่น! เชื่อปาฏิหาริย์กระดูกพญานาค โผล่กลางอ่างเก็บน้ำแห้ง ชาวบ้าน แห่เก็บไปเป็นเครื่องรางนำโชค เจออาถรรพณ์ ต้องนำมาคืนจุดธูป-เทียนขอขมาลาโทษ หวั่น เกิดอาเพศ ลือวุ่น ตำนานวังพญานาค
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ชาวบ้านพากันแตกตื่นหลังมีข่าวลือว่า ได้พบสิ่งแปลกประหลาดจากปาฏิหาริย์องค์พญานาค บริเวณกลางอ่างเก็บน้ำ หนองไข่นก ในพื้นที่ บ้านโพนทา หมู่ 2 ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณประโยชน์ ในโครงการพระราชดำริ มีเนื้อที่เกือบ 50 ไร่ ซึ่งทางหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก กองบัญชาการทหารพัฒนา เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ จัดสรรงบประมาณเข้าไปพัฒนาขุดลอก เมื่อ 2-3 เดือน ที่ผ่านมา จากปัญหาน้ำตื้นเขิน ไว้เก็บกักน้ำใช้ในการอุปโภค บริโภค และทำการเกษตรตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตลอดปี ให้ชาวบ้านในพื้นที่มีอาชีพ มีรายได้ จนกระทั่งดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่ปีนี้ได้ประสบปัญหาภัยแล้งทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำแห้งขอด ไม่มีน้ำขัง
ขณะเดียวกันได้เกิดเรื่องราวแปลกประหลาด จนเป็นข่าวร่ำลือ เนื่องจากในช่วงที่ขุดลอกใกล้แล้วเสร็จ เมื่อชาวบ้านพบลำแสงประหลาดขนาดใหญ่ สีทองอร่าม พุ่งลงมากลางหนองน้ำในเวลากลางคืน จนกระทั่งชาวบ้าน และคนที่พบเห็นได้ไปตรวจสอบ กลับพบสิ่งแปลกประหลาด กระจัดกระจายอยู่กลางหนองน้ำ มีลักษณะคล้ายเศษแก้ว กึ่งเซรามิก สีใสคล้ายแก้วจำนวนมาก แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เป็นเศษวัสดุที่มีอยู่ตามธรรมชาติ บางส่วนคล้ายเศษกระดูกสิ่งมีชีวิต มีทั้งลักษณะกลม มีหนามแหลมคม คล้ายดอกไม้ชนิดหนึ่ง หลายขนาด รวมถึงเป็นเศษคล้ายเม็ดน้ำตาล แต่มีขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 1-3 เซนติเมตร โปรยเป็นทางทั่วหนองน้ำ คล้ายทางงูขนาดใหญ่เลื้อย
...
นอกจากนี้ ยังพบก้อนดินรูปร่างกลมคล้ายไข่ สีเหลือง ผิดจากดินธรรมชาติที่มีอยู่กลางหนองน้ำ หลายขนาด กระจัดกระจายตามพื้นดิน สร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านที่พบเห็น พากันแห่ไปพิสูจน์ บางคนเชื่อว่า เป็นชิ้นส่วนกระดูกพญานาค จึงเก็บไปบูชาเป็นเครื่องรางนำโชค แต่ภายหลังกลับเกิดเรื่องแปลกประหลาด เมื่อนำไปแล้วจะเกิดฝันร้าย มีวิญญาณไปตามทวงคืน ทำให้เกิดความหวาดกลัวร่ำลือไปต่างๆ นานา จนต้องนำมาคืนไว้ที่เดิม และจุดธูปเทียนบูชาขอขมาลาโทษ บางรายต้องนำไปส่งคืนเก็บรักษาไว้ที่วัด สร้างความแตกตื่นให้ชาวบ้าน หวั่นเกิดอาเพศ หลายคนทราบข่าว ต่างพากันแห่ไปพิสูจน์ และกราบไหว้ขอโชคลาภตามความเชื่อ เบื้องต้นทาง อบต.กุตาไก้ ได้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เก็บข้อมูล ประสานเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้องมาตรวจสอบพิสูจน์
ด้าน นายวรศักดิ์ ภูเวียงจันทน์ ส.อบต. หมู่ 2 บ้านโพนทา ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม กล่าวว่า สำหรับเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับชาวบ้านมานานนับเดือน แต่ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาตรวจพิสูจน์ ภายหลังมีชาวบ้าน และคนงานขับรถแบ็กโฮพบเห็นลำแสงขนาดใหญ่ พวยพุ่งลงกลางหนองน้ำ จนกระทั่งตรวจสอบกลับพบเศษวัตถุแปลก ที่ไม่มีใครสามารถระบุได้ว่า เป็นวัตถุอะไร หรือเป็นเศษซากอะไร โดยเชื่อว่า เป็นสิ่งแปลกประหลาด ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน มีลักษณะกลมเป็นหนามรอบ รวมถึงเป็นเกล็ดคล้ายน้ำตาล เนื้อแข็งคล้ายเศษกระจก สีใส กระจัดกระจายเป็นทางคดโค้งหลายจุด นอกจากนี้ ยังมีก้อนดินคล้ายรูปไข่สีเหลืองจำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านพบเห็นรู้สึกแปลกใจ เพราะในช่วงที่มีการขุดลอกกลับไม่พบ และมีการพบเห็นภายหลังเกิดแสงพวยพุ่งลงมาที่หนองน้ำ และยากที่จะเป็นการสร้างขึ้นของฝีมือชาวบ้าน หรือต้องการสร้างกระแส ทั้งที่มีฝนตกลงมาหลายรอบ กับไม่เลือนหาย
นายวรศักดิ์ ภูเวียงจันทน์ กล่าวอีกว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่พบเห็นต่างพากันเชื่อว่า จะเป็นชิ้นส่วนซากกระดูกพญานาค หรือวัตถุที่เกิดจากปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อพญานาค เนื่องจากในอดีตแหล่งน้ำแห่งนี้ ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นวังที่อยู่อาศัยขององค์พญานาค ที่ปกปักรักษาแหล่งน้ำ เพราะมีสายน้ำสาขาเชื่อมไปสู่น้ำโขง แต่พอมีการขุดลอกอาจจะเป็นการลบหลู่ หรือการรบกวนแหล่งที่อยู่อาศัยทำให้แสดงปาฏิหาริย์ให้ชาวบ้านเคารพศรัทธา ที่สำคัญ มีชาวบ้านบางรายที่นำวัตถุแปลกกลับไป หวังเป็นเครื่องรางนำโชค ทำให้เกิดเรื่องลี้ลับ ฝันว่ามีวิญญาณมาทวงคืน จึงหวาดกลัวพากันนำมาคืน บางรายร่ำลือว่า จะเกิดอาเพศ ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล จะต้องมีการประกอบพิธีขอขมาลาโทษ ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างทยอยมาพิสูจน์ จุดธูปเทียนถวายเครื่องบูชา ขอโชคลาภ และถ่ายรูปไปเป็นที่ระลึก แต่ไม่มีใครกล้านำกลับไปด้วย
...
อย่างไรก็ตาม ทาง อบต.กุตาไก้ จะได้เร่งตรวจสอบเพื่อประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องไปตรวจพิสูจน์ หาที่มา ส่วนเรื่องความเชื่อเป็นธรรมดาของชาวบ้าน ซึ่งส่วนหนึ่งจากข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่ง อาจจะมาจากตำนานการก่อสร้างองค์พระธาตุพนม ในยุคราว 2,000 ปี ที่มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ว่า ได้มีคนที่เลื่อมใสศรัทธาจากทั่วสารทิศ ได้พากันแสดงออกถึงความเคารพศรัทธา ที่จะร่วมสร้างองค์พระธาตุพนม เพื่อบรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า จึงพากันแห่นำเอาสิ่งของ วัสดุก่อสร้าง เป็นหินศิลาแลง รวมถึงวัตถุมงคล แก้วแหวน เงินทอง และทรัพย์สมบัติ นำไปร่วมทำบุญถวาย แต่บางกลุ่มมาจากต่างบ้านต่างเมือง ต้องใช้เวลาเดินทางหลายปี จนกระทั่งมาถึงระหว่างทาง มีการล้มหายตายจาก และพอรู้ข่าวว่าพระธาตุพนมสร้างเสร็จเสียก่อน จึงเก็บรักษาฝังทรัพย์สมบัติไว้ในระหว่างทาง จนเป็นที่มาของหลักฐานร่องรอยประวัติศาสตร์หลายจุด
รวมถึงพื้นที่ อบต.กุตาไก้ ยังมีหลักฐานองค์หินตั้ง หรือศิลาแลง ที่มีการขนย้ายไปร่วมสร้างองค์พระธาตุพนม แต่ไปไม่ถึง จึงเหลือหลักฐานทิ้งไว้ให้ศึกษาในปัจจุบัน ที่สำคัญการพบวัตถุประหลาดบริเวณอ่างเก็บน้ำดังกล่าว อาจจะเชื่อมโยงถึงตำนานการสร้างพระธาตุพนม ซึ่งในอนาคตหากมีการตรวจสอบพบเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ อาจจะได้รวบรวมเก็บรักษา พัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ศึกษาเส้นทางประวัติศาสตร์ ให้ประชาชนได้ศึกษาเที่ยวชม ส่วนเรื่องตำนานพญานาค ขึ้นอยู่กับความเชื่อแต่ละบุคคล ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกัน อาจเป็นปาฏิหาริย์ขององค์พญานาคตามความเชื่อ ที่ต้องการให้คนเคารพศรัทธาในพระพุทธศาสนา ไม่ให้มีการลบหลู่ เพราะในตำนานองค์พญานาคเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา พร้อมทำหน้าที่ปกปักรักษาองค์พระธาตุพนม
...