ชายวัย 57 ปี เปิดห้องพักชั่วคราว กลางเมืองอุบลฯ ก่อนจะมีหญิงขับรถมามีเพศสัมพันธ์แล้วออกไป พนักงานเห็นว่าเลยเวลาแล้ว เลยเดินมาเคาะประตู จึงพบชายดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว ตร.คาดอาจมีอาการกำเริบเนื่องจากดื่มแอลกอฮอล์ขณะมีเพศสัมพันธ์
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 พ.ค. 58 พ.ต.ท.ธานนท์ เทพคำราม พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191 อุบลราชธานี มีผู้เสียชีวิตภายในบังกะโล 69 ถ.ชยางกรู ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อม ชุดสืบสวนเวร แพทย์นิติเวช และมูลนิธิการกุศลอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแบ่งให้เช่ารายวัน บริเวณทางเดินระหว่างห้องแถวชุดที่ 1 ติดกับกำแพงรั้ว ห้องเช่า พบร่างของนายสิทธิชัย รงค์ทอง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999/43 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี สวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีเทา สวมรองเท้าแตะ สวมหมวกสีขาว มีเลือดออกบริเวณจมูกเปื้อนศีรษะ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
สอบถามนายนวพล สุรำไพ อายุ 38 ปี ผู้ดูแล ให้การว่า ผู้ตายขับรถกระบะวีโก้ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กท 1905 อุบลราชธานี เข้ามาเปิดห้องพักแบบชั่วคราว 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จากนั้นได้มีหญิงสาวอายุประมาณ 40 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสกู๊ปปี้ สีน้ำเงิน ชมพู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนตามเข้ามา จากนั้นก็เข้าไปห้องพักหมายเลข 111 ประมาณ 30 นาที ผู้หญิงก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป
...
ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น. ตนเห็นว่ารถของผู้ตายยังจอดอยู่ที่เดิมจึงจะเดินเข้าไปเคาะประตูเรียก ซึ่งระหว่างทางเดินกลับพบนายสิทธิชัยผู้ตาย นอนหงาย ตัวงอ มีเลือดออกจมูกเสียชีวิตแล้ว จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบดังกล่าว
จากการตรวจสอบในห้องพัก ที่ผู้ตายเปิดใช้บริการไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด มีเพียงซองถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ววางอยู่บนเก้าอี้ภายในห้องพัก สภาพศพก็ไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย หรือ บาดแผลถูกทำร้ายจนทำให้สามารถเสียชีวิตได้ มีเพียงรอยถลอกบริเวณน่องขวาคาดว่าจะหกล้มก่อนเสียชีวิตเท่านั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะมาเปิดห้องเพื่อหลับนอนกับหญิงสาว โดยมีการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ร่วมขณะมีเพศสัมพันธ์จนทำให้อาการกำเริบหายใจไม่ออกขณะที่จะออกมาขึ้นรถ แล้วหมดสติเสียชีวิตโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นจนผู้ดูแลห้องมาตาม อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำร่างของนายสิทธิชัยส่งแผนกนิติเวช เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป