เกิดพายุฤดูร้อน-ลูกเห็บตก ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองพังงา ป้ายริมทางล้มระเนระนาด บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายหลัง เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจ พร้อมให้ความช่วยเหลือ ...
เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 12 เมษายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองพังงา อ.เมือง จ.พังงา เกิดเหตุพายุฤดูร้อน ฝนตกลงมาอย่างหนัก ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก เป็นเวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้ดินบริเวณคอสะพาน ถูกน้ำเซาะทรุดลงเบื้องล่าง หลังคาบ้านของชาวบ้านถูกลมพัดปลิวหายหลายหลัง และป้ายโฆษณาตามริมถนนล้มระเนระนาดทั่วเมือง ขณะที่ ที่ทำการหน่วยป้องกันฯเทศบาลเมืองพังงา กระเบื้องหลังคาได้ถูกลมพัดหายไปบางส่วนเช่นกัน
นายสุนิต บุญสร้าง อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ถ.ศิริราษฎร์ อ.เมือง จ.พังงา เปิดเผยว่า ขณะทำงานอยู่ที่หลังบ้าน พบว่าบนท้องฟ้าได้มีก้อนเมฆสีดำปกคลุม จากนั้นได้มีลูกเห็บ โตขนาดปลายนิ้วก้อยตกลงมาเสียงดัง เมื่อตนเองใช้นิ้วจับดูก็ละลายเป็นน้ำหมด ประมาณสัก 1 นาที ต่อจากนั้นได้มีฟ้าร้องและเสียงฟ้าผ่าติดต่อกันหลายครั้ง พร้อมๆกับมีพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงท่อระบายน้ำไม่ทัน น้ำจึงได้ไหลผ่านมายังบริเวณหน้าบ้านของตน ก่อนไหลไปลงคลองข้างบ้าน และเพียงไม่นานผิวดินบริเวณหน้าบ้านได้ทรุดตัวลงเบื้องล่าง และดินทรุดตัวยังได้ขยายไปถึงบริเวณคอสะพานข้ามคลองถนนใหม่ โดยฝนตกอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะชาและหยุดตกในเวลาต่อมา ถ้าคืนนี้ฝนยังตกลงมาอีก แรงเชี่ยวของน้ำคงจะทำให้บ้านของตนเองทรุดลงเบื้องล่างแน่นอน คืนนี้คงต้องนอนระวังกันทั้งคืน
ด้าน นายวิลาศ โลหะสาร หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองพังงา เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจาก นายชูโชติ โกยกุล นายกเทศมนตรีเมืองพังงา ให้มาตรวจดูผลกระทบที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการเกิดพายุฤดูร้อน และจะได้รายงานให้นายกฯได้ทราบ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่อไป
นายอุดม เพชรคุต หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งโทรสารในราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน 12 จังหวัดคือ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ระบุว่า กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน 2558 บริเวณความกดอากาศสูง กำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยอาจจะมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น
ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก พายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย วาตภัย อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยให้จังหวัดได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัยทราบ เกี่ยวกับภัยอันเกิดจากฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และคลื่นลมแรง และให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ รวมทั้งให้มีการตรวจสอบสิ่งก่อสร้าง ป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งเขื่อน ฝาย อ่างและคันกั้นน้ำ สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงพื้นที่ของเอกชน ให้มีความมั่นคงแข็งแรง ทั้งใช้ประโยชน์จาก “มิสเตอร์เตือนภัย” ที่ประจำอยู่ในหมู่บ้าน เพื่อจะได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์
...